สถานีก๊าซผักตบชวาระดับครัวเรือน
ผลิตก๊าซหุงต้มจากผักตบชวา ด้วยกระบวนการหมักจุลินทรีย์ธรรมชาติศักยภาพสูง ลดค่าใช่จ่ายซื้อก๊าซหุงต้มระดับครัวเรือน และยังช่วยลดจำนวนผักตบชวาที่กีดขวางทางไหลของน้ำในแม่น้ำลำคลองอีกด้วย
ผักตบชวา วัชพืชในแม่น้ำลำคลองที่เป็นปัญหากีดขวางทางน้ำ สร้างความเสียหายระดับประเทศมายาวนาน ภาครัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแก้ปัญหาผักตบชวา แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นได้ การนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ โดยการนำมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อการหุงต้มเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดจำนวนผักตบชวาลง พร้อมได้พลังงานทดแทนที่ช่วยลดค่าใช่จ่ายซื้อก๊าซหุงต้มระดับครัวเรือนของเกษตรกรได้
จากผลงานวิจัยเรื่องการผลิตก๊าซชีวภาพจากผักตบชวาด้วยจุลินทรีย์ศักยภาพสูงจากธรรมชาติ ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย รศ.ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ รศ.จิตราภรณ์ ธวัชพันธุ์ และนายขวัญชัย นิ่มอนันต์ จากคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ได้ทำการศึกษาคุณสมบัติของจุลินทรีย์ธรรมชาติจำนวนหลายหมื่นสายพันธุ์ และได้ค้นพบจุลินทรีย์ธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงที่สามารถย่อยสลายเส้นใยผักตบชวาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลผลิตเป็นก๊าซชีวภาพที่ติดไฟได้ จึงได้ขยายผลงานวิจัยสู่ชุมชน ด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน มีการออกหน่วยเคลื่อนที่ไปอบรม สาธิต ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากองค์ความรู้งานวิจัย จัดตั้งเป็นหน่วยเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบปัญหาผักตบชวา เพื่อจัดตั้งสถานีผลิตก๊าซหุงต้มจากผักตบชวา เป็นแนวทางหนึ่งที่จะลดจำนวนผักตบชวาลง ขณะเดียวกันสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผักตบชวา จากวัชพืชให้เกิดประโยชน์เปลี่ยนเป็นพลังงานชีวภาพไว้ใช้เองระดับครัวเรือนและชุมชน ช่วยลดค่าใช้จายครัวเรือนในการซื้อก๊าซหุงต้ม และยังช่วยลดงบประมาณภาครัฐในการกำจัดผักตบชวาด้วย
ขั้นตอนการผลิตก๊าซชีวภาพจากผักตบชวา ด้วยจุลินทรีย์ธรรมชาติศักยภาพสูง ทำได้ง่ายๆ โดย นำถังหมักมาแบ่งปริมาณออกเป็น 4 ส่วน ใส่ผักตบชวาที่บดสับแล้ว 1 ส่วน จุลินทรีย์ธรรมชาติศักยภาพสูง 1 ส่วน น้ำ 1 ส่วน และปล่อยให้มีพื้นที่ว่าง 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง หมักทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วัน จะเกิดก๊าซชีวภาพที่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้มระดับครัวเรือนได้ประมาณ 20-40 นาทีขึ้นอยู่กับศักยภาพของจุลินทรีย์ หลังจากนั้นสามารถเติมผักตบชวาเป็นระยะๆ เพื่อให้มีการผลิตก๊าซชีวภาพอย่างสม่ำเสมอ การเกิดก๊าซชีวภาพจะลดลงในเวลาประมาณ 3-5 เดือน ซึ่งกากผักตบชวาหลังการหมักเสร็จสิ้นแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการคลุมโคนต้นไม้ เพื่อเป็นวัสดุช่วยกักเก็บความชื้นในดินได้อีกด้วย
มาร่วมเป็นภาคีเครือข่าย ช่วยกันเปลี่ยนผักตบชวาเป็นก๊าซชีวภาพ ทำได้เองด้วยวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก ได้ก๊าซไว้ใช้หุงต้มระดับครัวเรือนและระดับวิสาหกิจชุมชน และยังเป็นการช่วยรัฐประหยัดงบประมาณในการกำจัดผักตบชวาอีกด้วย
ผลงานวิจัยนี้ได้ยื่นขอรับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ แล้ว และเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประเภทรางวัลประกาศเกียรติคุณ ประจำปี 2559 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติด้วย
ขอขอบคุณที่ท่านเข้ามาอ่านบทความวิจัยนี้ และขอความกรุณาสละเวลาตอบแบบสอบถามการให้บริการข้อมูล เพื่อการปรับปรุงต่อไปด้วย จะขอบคุณยิ่ง
คลิกที่นี่เพื่อตอบแบบสอบถาม—> https://goo.gl/forms/hcBXc1080pJmdUmF3
ที่มาข้อมูล : นิทรรศการผลงานนวัตกรรม งานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2560
ศาสตร์แห่งแผ่นดิน ทำกินตามคำพ่อสอน 27 ม.ค – 4 ก.พ. 2560 เจ้าของผลงาน : รศ.ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ รศ.จิตราภรณ์ ธวัชพันธุ์ และนายขวัญชัย นิ่มอนันต์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เรียบเรียง/เผยแพร่ : วันเพ็ญ นภาทิวาอำนวย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มก. โทร. 02 561 1474 e-mail : rdiwan@ku.ac.th |
|
รศ.ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ |