รายการวิทยุ เรื่อง “การใช้ประโยชน์จากผักตบชวา”/ชาติชาย ยมะคุปต์
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=dYAKHAja4II[/youtube]
บทวิทยุ รายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก. ”
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 18 ที่ เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2557
เรื่อง การใช้ประโยชน์จากผักตบชวา
บทวิทยุโดย วิทวัส ยุทธโกศา
-เพลงประจำรายการ-
………………………………………………………………………………………………….
สวัสดีครับ คุณผู้ฟัง พบกับรายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก. ” ทางวิทยุ มก. แห่งนี้เป็นประจำทุกวันเสาร์ รายการนี้ผลิตโดย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำหรับวันนี้ขอเสนอ เรื่อง “ การใช้ประโยชน์จากผักตบชวา” ครับ
คุณผู้ฟังครับ เมื่อพูดถึงผักตบชวาคุณผู้ฟังคงจะรู้ถึงอันตรายของมันพอสมควรนะครับเพราะถ้าหากเราไม่มีการกำจัดและป้องกันอย่างดีแล้วผักตบชวาอาจจะส่งผลร้ายต่อเราอย่างมากที่เดียวโดยเฉพาะเกษตรกรที่ยังต้องอาศัยน้ำในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตกันอยู่ ผักตบชวาก็ยังมีประโยช์อย่างมากถ้าหากมนุษย์เรารู้จักนำมันมาใช้อย่างถูกวิธี
คุณผู้ฟังครับ ก่อนที่เราจะได้รู้ถึงวิธีการนำเอาผักตบชวาไปใช้ให้เกิดประโยชน์นั้น เราลองมาพูดถึงวิธีการกำจัดผักตบชวาก่อนนะครับ วิธีการกำจัดผักตบชวามีด้วยกันหลายวิธี เช่น การกำจัดด้วยสารเคมีวัชพืช วิธีนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ประหยัด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การใช้สารเคมีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เช่น อาจจะทำให้เกิดการขาดออกซิเจนในน้ำทำให้ปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ตายได้ ทั้ง ๆ ที่สารเคมีไม่ได้เป็นพิษต่อชีวิตสัตว์น้ำเลย ก่อนใช้จึงควรศึกษาปัญหาที่แท้จริง และผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ตลอดจนประสิทธิภาพของสารเคมีกำจัดวัชพืช อัตราการใช้วิธีการผสม วิธีการฉีดพ่น ความคงทนของสารเคมีตลอดจนความเป็นพิษต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ควรพิจารณาในด้านค่าใช้จ่าย เพราะต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงควรอบรมผู้ทีมีหน้าที่กำจัดผักตบชวา
การกำจัดผักตบชวา โดยการใช้แรงงานคน ได้แก่ การใช้แรงงานคนหรือสัตว์ ดึง ผักตบชวาขึ้นจากลำน้ำไปทำลาย เป็นวิธีที่ประหยัด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เครื่องจักรและเชื้อเพลิง แต่อาจจะไม่เหมาะสมในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วน เพราะวิธีนี้ต้องใช้เวลานานครับ
การกำจัดโดยการใช้เครื่องจักรกล อาจใช้เครื่องจักรกลง่าย ๆ ราคาถูก ทำงานร่วมกับวิธีแรก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างมาก แต่การใช้เครื่องจักรกลที่ราคาแพงจะให้ผลไม่คุ้มค่า
การกำจัดโดยวิธีชีววิธี โดยการใช้สิ่งมีชีวิต เช่น แมลง หรือโรคพืช การกำจัดวัชพืชโดยวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก แต่วิธีนี้ต้องใช้เวลาในการศึกษาวิจัยและในปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดค้นพบวิธีการกำจัดผักตบชวาโดยชีววิธีที่ได้ผลแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่มีชีวิตที่ช่วยควบคุมปริมาณของผักตบชวาคือ ปลาเฉาฮื้อแม้ว่าจะกินผักตบชวาบ้างแต่ส่วนมากจะกินวัชพืชใต้น้ำมากกว่าอีกสักครู่ เราจะมารู้จักกับผักตบชวากันต่อ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ ผักตบชวานั้นเป็นวัชพืชน้ำที่ทำให้เกิดปัญหามากมาย การกำจัดทำได้ยาก แต่ถ้าเราพิจารณาอีกแง่มุมหนึ่งเราก็จะพบว่าผักตบชวานั้นก็มีประโยชน์เหมือนกัน ส่วนดีของผักตบชวานั้นก็ คือ ช่วยทำให้น้ำสะอาดขึ้น โดยผักตบชวาที่อยู่ในน้ำค่อยดูดธาตุอาหารจากสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ จากสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งผักตบชวานั้นจะมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ในการดำรงอยู่ในน้ำที่มีธาตุอาหารมาก และเปลี่ยนธาตุอาหารเหล่านี้เป็นโครงสร้างของมันอย่างรวดเร็ว จึงช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหาร น้ำก็จะมีสิ่งสกปรกน้อยลง และสามารถนำกลับมาใช้แล้วใช้อีกได้ นอกจากนั้นเรายังนำผักตบชวาที่ได้กำจัด แล้วกลับมาใช้เป็นประโยชน์ต่อไป ผักตบชวามีคุณสมบัติช่วยสะสมพลังงานจากดวงอาทิตย์ เพราะมันมีโครงสร้างที่เหมาะสม อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำและอาหารบริบูรณ์ พลังงานที่ผักตบชวาสะสมไว้ในโครงสร้างของมันถ้าสามารถหาวิธีนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์จะคุ้มค่าอย่างมากครับ ยิ่งไปกว่านั้นผักตบชวายังมีประโยชน์ในการช่วยให้อากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย เพราะผักตบชวาก็เหมือนพืชทั่วไปที่จะคายออกซิเจน ซึ่งเป็นผลผลิตของการสังเคราะห์แสง และช่วยลดอุณหภูมิของอากาศจากการคายน้ำ ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากวัชพืชใต้น้ำ และช่วยลดปริมาณของวัชพืชใต้น้ำได้เป็นอย่างมาก เพราะผักตบชวาลอยอยู่เหนือน้ำจึงบังแสงแดด และดูดธาตุอาหารส่วนใหญ่ไปช่วยลดโลหะหนักด้วย นอกจากนี้ผักตบชวายังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาและสัตว์น้ำ เพราะสภาพใต้แพผักตบชวาเหมาะสำหรับการดำรงชีวิตของปลาและสัตว์อื่น ๆ ช่วยทำให้เกิดทัศนียภาพที่เจริญตา แม้ว่าผักตบจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาทางน้ำ แต่ถ้าแหล่งน้ำที่ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์แล้ว เมื่อได้สีเขียวจากผักตบชวาก็จะทำให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงามได้เช่นกัน อีกสักครู่เราจะพูดถึงการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์กัน
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ นอกจากผักตบชวาจะทำให้น้ำใสสะอาดโดยการดูดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในน้ำออก ช่วยกำจัดสาหร่ายและแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำโสโครก ช่วยลดปริมาณของสารที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ และช่วยขจัดกลิ่นต่าง ๆ ให้หมดไปจากแหล่งน้ำ เราสามารถนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ หลายวิธีด้วยกัน เช่น ใช้เป็นอาหารสัตว์ โดยปกติการปศุสัตว์หลายชนิดก็ใช้ผักตบชวาเป็นอาหารอยู่แล้ว ปัจจุบันมีการนำผักตบชวาไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ โดยการบดเอาน้ำออกและอบให้แห้ง แล้วอัดเป็นเมล็ดแบบเดียวกับมันสำปะหลัง เม็ดผักตบชวาแห้งมีโปรตีน 11.15 % ซึ่งสูงพอสมควร และนอกจากนั้นผักตบชวา ยังใช้ทำปุ๋ยได้เนื่องจาก ผักตบชวามีธาตุโปรแตชเซียมอยู่มากเป็นพิเศษ ส่วนธาตุไนโตเจนและฟอสฟอรัสก็มีพอสมควร และขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่มันขึ้นอยู่ เราสามารถนำผักตบชวาไปทำเป็นปุ๋ยได้ 3 วิธีด้วยกันคือ
- ปล่อยให้แห้งแล้วเผาเพื่อเก็บขี้เถ้า ซึ่งจะมีโปแตชเซียมอยู่สูงถึง 20 %
- ทำเป็นปุ๋ยหมักโดยกองสลับชั้นกับดินซึ่งจะเน่าเปี่อยเป็นปุ๋ยหมัก ใช้ได้ภายใน 2 เดือน
- ทำวัสดุคลุมดิน โดยการนำผักตบชวาไปคลุมพืชปลูก เพื่อรักษาความชื้นไว้นอกจากนั้นผักตบชวาที่ตากแดดจนแห้งดีแล้วยัง สามารถนำมาเพาะเห็ดฟางได้ดีอีกด้วย
โดยใช้ผักตบชวาแห้ง 1 ส่วน กับฟางข้าว 1 ส่วน ก็สามารถจะเพาะเห็ดฟางได้แล้ว ก้านใบผักตบชวาสามารถนำมาใช้ทำเครื่องถักสานได้ดี เช่น กระบุง ตะกร้า กระเป๋า ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้เลี้ยงครอบครัวและยังเป็นการกำจัดผักตบชวาไปได้ในตัว
ผักตบชวายังมีพลังงานสะสมอยู่ในรูปของสารอินทรีย์ที่มี ธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบจึงนำไปผลิตก๊าซหุงต้มได้
คุณผู้ฟังครับ นอกจากประโยชน์จากผักตบชวาที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ผักตบชวายังมีประโยชน์อีกหลายด้าน และหากเราสามารถที่จะคิดค้น ดัดแปลงผักตบชวาให้สามารถนำไปใช้ได้แล้ว ก็สามารถจะทำรายได้ให้เราได้ เช่น ก้านใบผักตบชวามีเยื่อที่สามารถนำมาทำเยื่อกระดาษได้ ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้ การเตรียมวัตถุดิบ นำเอาต้นผักตบชวามาตัดส่วนใบ และส่วนรากทิ้ง เหลือไว้แค่ลำต้นนำไปล้างน้ำและตากแดดให้แห้ง การต้มเยื่อ นำต้นผักตบชวาที่ตากแดดให้แห้งไป ชั่งหาน้ำหนักเพื่อคำนวนจำนวนน้ำ ต่อโซดาไฟที่จะใช้ในการต้ม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักผักตบชวา 8 – 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักผักตบชวาแห้ง โดยต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วจึงใส่โซดาไฟลงไป แล้วค่อยใส่ผักตบชวาลงไป จะใช้เวลาในการต้มประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้ผักตบชวาที่เปื่อยยุ่ย การเตรียมเยื่อ นำเยื่อผักตบชวาที่เปื่อยยุ่ยดีแล้วไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วไปใส่เครื่องตีเยื่อหรือใช้ครกตำจนเป็นเยื่อ กรองด้วยตะแกรงมุ้งลวดชนิดตาถี่ ล้างเอาน้ำดำออกอีกที จะได้เยื่อกระดาษที่มีสีดำคล้ำ ก่อนที่จะทำเป็นแผ่นจะต้องนำไปฟอกกับแคลเซียมไฮโปคลอไรด์ ในอัตราส่วนความเข้มข้นของน้ำยา 10 กรัม / ลิตร โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง โดยตากแดดไว้ จากนั้นนำเยื่อไปล้างน้ำให้หมดกลิ่น และจะได้เยื่อชนิดเส้นใยสั้น การทำแผ่นกระดาษ นำเยื่อชนิดเส้นยาว เช่น เยื่อจากปอสาผสมลงไปด้วยในอัตราส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ของเยื่อผักตบชวา ผสมกันในเครื่องตีเยื่อ และช้อนด้วยตะแกรงช้อนแผ่นกระดาษขอบทำด้วยไม้กรุด้วยไม้กรุด้วยตาข่ายไนล่อนชนิดตาถี่ แล้วนำไปตาก ก็จะได้แผ่นกระดาษที่มีความสวยงาม และเป็นธรรมชาตินำไปใช้ประโยชน์และนำไปประดิษฐ์เป็นของใช้หรือของขวัญได้
อีกสักครู่ เราจะมาพูดถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผักตบชวากันครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ อาจารย์ชาติชาย ยมะคุปต์ และคณะ จากภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จากผักตบชวาในรูปบรรจุภัณฑ์ โดยเล็งเห็นว่า ผักตบชวาที่เกิดขึ้นตามลำคลองหนองบึง โดยทั่วไปสร้างความรำคาญและเป็นวัชพืชที่เจริญงอกงามและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว เป็นอุปสรรคในการคมนาคมทางน้ำ หากสามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ก็จะสามารถกำจัดวัชพืชทางน้ำได้อีกวิธีหนึ่ง
คณะผู้วิจัยได้พยายามนำผักตบชวามาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ เพื่อใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม ซึ่งส่วนมากทำด้วยพลาสติกซึ่งย่อยสลายไม่ได้ ซึ่งเป็นมลพิษต่อชาวโลก หากเราได้นำเอาวัสดุที่ย่อยสลายได้มาทำบรรจุภัณฑ์ อย่างเช่น ผักตบชวาก็จะทำให้ลดมลพิษไปได้อีกวิธีหนึ่ง
โครงการนี้เป็นการนำเยื่อผักตบชวามาขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้แทนวัสดุสังเคราะห์รูปถาดผลไม้ ผลที่ได้คือ เยื่อผักตบชวาที่มีการผสมตัวประสานจะเกิดการหดตัวน้อยกว่าเยื่อผักตบชวาที่ไม่มีตัวประสาน เนื่องจากตัวผสานจะเป็นตัวที่ช่วยทำให้การกระจายตัวและความหนาแน่นของเยื่อในแต่ละจุดมีความสม่ำเสมอมากขึ้น
สาเหตุที่เยื่อผักตบชวาที่นำไปขึ้นรูปมีการหดตัวและบิดงอเกิดขึ้น อาจมีสาเหตุมาจาก การกระจายตัวของเยื่อและตัวประสาน ณ ตำแหน่งต่าง ๆ ในแม่พิมพ์มีขนาดไม่สม่ำเสมอเท่ากันทุกจุด ซึ่งมีผลต่อการอัดตัวกันของเยื่อหลังจากขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ เพราะว่าการหดตัวของบรรจุภัณฑ์หลังจากอบจนแห้งจะขึ้นอยู่กับปริมาณของรูพรุนที่มีตั้งแต่เริ่มขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นบริเวณที่มีการกระจายตัวของเยื่อน้อย ก็จะมีโอกาสเกิดการหดตัวได้มากกว่าบริเวณที่มีการกระจายตัวของเยื่อมาก ความไม่สม่ำเสมอของแรงอัดในการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ ซึ่งผลที่เกิดจากความแตกต่างของแรงอัดในส่วนผสมของเยื่อผักตบชวา คือ ทำให้ภายในส่วนผสมของเยื่อผักตบชวามีความหนาแน่นไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้หดตัวภายในส่วนผสมของเยื่อเป็นไปอย่างไม่สม่ำเสมอ และจะเป็นต้นเหตุทำให้ผลิตภัณฑ์บิดเบี้ยวและโค้งงอได้ ดังนั้นถ้าเราใช้แรงอัดที่เหมาะสมและสม่ำเสมอในการขึ้นรูปเยื่อผักตบชวา ก็จะทำให้ส่วนผสมของเยื่อผักตบชวามีความหนาแน่นมากขึ้น การหดตัวก็จะลดลงมากขึ้นด้วยเช่นกัน ปริมาณน้ำที่อยู่ในส่วนผสมของเยื่อ เมื่อนำไปอบแห้ง น้ำที่อยู่ในส่วนผสมของเยื่อก็จะระเหยออกไป ทำให้เกิดรูพรุนขึ้นในส่วนผสมของเยื่อ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดการหดตัวจะเห็นได้ว่าเยื่อผักตบชวาที่ปั่นจะมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มากกว่าเยื่อผักตบชวาที่ไม่ได้ปั่น ดังนั้นเมื่อนำไปอบแห้งเยื่อผักตบชวาที่ปั่นก็จะมีรูพรุนเกิดขึ้นมากกว่าเยื่อที่ไม่ได้ปั่น จึงเกิดการหดตัวมากกว่าเยื่อที่ไม่ได้ปั่น การอบแห้งที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากแม่พิมพ์ที่ใช้ในการทดลอง ไม่สามารถระบายความร้อน และนำความร้อนได้ไม่ดี ทำให้ในระหว่างการอบแห้งเยื่อผักตบชวาบริเวณรอบ ๆ ของแม่พิมพ์แห้งเร็วกว่าบริเวณด้านในของแม่พิมพ์ ทำให้เยื่อผักตบชวาเกิดการโค้งงอขึ้นในด้านที่แห้งเร็วกว่า เนื่องจากเกิดความแตกต่างของความชื้นในเนื้อเยื่อผักตบชวา
อัตราส่วนของตัวประสานที่เหมาะสมในการขึ้นรูปเยื่อผักตบชวา คือ 30 % ของน้ำหนักเยื่อ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ทำให้เกิดการขึ้นรูปถาดผลไม้เกิดการหดตัวน้อยที่สุด
อีกสักครู่ เราจะมาเพิ่มเติมกันถึงเรื่องของตัวประสาน
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับเนื่องจากตัวประสานที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังนั้น มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทนต่อน้ำและความชื้นได้ดี ถ้าหากจะมีการใส่น้ำต้องมีการเคลือบพาราฟินที่ผิวก่อน และมีอัตราการหดตัวค่อนข้างสูง ถ้าเป็นไปได้ควรจะลองศึกษาหาตัวผสานชนิดใหม่ที่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องในส่วนนี้ได้
ลักษณะเนื้อเยื่อผักตบชวาจะมีสีน้ำตาลแก่ เมื่อนำไปทำเป็นวัสดุภัณฑ์จะไม่ค่อยน่าดูเท่าไรนัก ควรจะมีการฟอกสีก่อนนำมาทำ ที่จะขอแนะนำควรใช้สารแคลเซียมไฮโปรคลอไรด์ ในอัตราส่วน 10 กรัมต่อลิตร
วิธีที่ใช้ในการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์รูปถาดจากเยื่อผักตบชวาในการ เป็นการอบเยื่อผักตบชวาให้แห้งภายในตู้อบ ซึ่งใช้เวลานาน และถาดผลไม้ที่ได้จะเกิดการหดตัวและบิดงอ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนวิธีที่ใช้ในการขึ้นรูป วิธีที่จะขอแนะนำคือ การขึ้นรูปโดยการอัดพร้อมกับใช้ความร้อนช่วย ซึ่งต้องใช้ความดันและอุณหภูมิสูง ทำให้เยื่อผักตบชวามีเนื้อแน่น และสามารถแก้ปัญหาการหดตัวและบิดงอของเยื่อผักตบชวาได้
แม่พิมพ์พลาสติกที่ใช้ในการขึ้นรูปถาดผลไม้จากเยื่อผักตบชวา มีน้ำหนักมาก ไม่ระบายความร้อน นำความร้อนได้ไม่ดี และเกิดการโก่งงอในระหว่างการอบเนื่องจากการเกิดการขยายตัวเมื่อได้รับความร้อน ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำแม่พิมพ์ ที่จะขอแนะนำคือ แม่พิมพ์ที่ทำจากเหล็ก ซึ่งจะเป็นตัวนำความร้อนที่ดี มีน้ำหนักมาก และไม่เกิดการโก่งงอในอุณหภูมิที่ใช้ในการขึ้นรูป และเหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ขึ้นรูปโดยการอัดพร้อมกับใช้ความร้อนช่วย เท่านี้เราก็จะได้แม่พิมพ์ที่เหมาะแก่การขึ้นรูปสิ่งของเครื่องใช้จากเยื่อผักตบชวาได้
คุณผู้ฟังครับ ผักตบชวาถือได้ว่าเป็นพืชที่มีการแพร่ขยายพันธุ์ได้เร็วมาก และถ้าเกิดไม่มีการป้องกันหรือควบคุมให้มีอยู่ในจำนวนจำกัดแล้ว ผักตบชวาก็จะก่อปัญหาอย่างมากให้กับเราในอนาคตข้างหน้า แต่ถ้าหากเรารู้จักนำผักตบชวามาใช้ให้เกิดประโยชน์แล้ว การกำจัดผักตบชวาก็ไม่ใช้ปัญหาสำหรับเราอีกต่อไป แล้วยังสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้อีกด้วยครับ หากผู้ฟังสนใจรายละเอียดเขียนคำถามส่งไปทางไปรษนียบัตรถึง รายการ จากแฟ้มงานวิจัย มก. ตู้ ปณ.1077 ปทฝ.เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ 10903 หรือส่ง e-mail ไปที่ rdiwwy@ku.ac.th เวลาสำหรับรายการ “จากแฟ้มงานวิจัย มก.” ในวันนี้ได้หมดเวลาลงแล้ว พบกับรายการนี้ได้ใหม่ ทางสถานีวิทยุ มก. แห่งนี้ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ