ระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มก. (KUR3)
การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งวารสาร (Simultaneous Submission) ควรทำหรือไม่
ตอบ
การส่งบทความตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งวารสาร (Simultaneous submission) หมายความถึง การส่งบทความวิจัยเพื่อการตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งวารสาร โดยอาจส่งในเวลาเดียวกัน หรือส่งไปวารสารหนึ่งแล้วยังไม่ได้รับคำตอบจึงส่งเรื่องเดียวกันไปยังอีกวารสารหนึ่ง
วารสารส่วนใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรค่อนข้างมากในการพิจารณาลงตีพิมพ์บทความใดบทความหนึ่งไม่ว่าจะเป็นบุคลากรที่ดำเนินเอกสาร เวลา และผู้พิจารณาให้ความเห็น (peer reviewer) ดังนั้นการส่งบทความตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งวารสาร จึงเป็นการใช้ทรัพยากรต่างๆ เหล่านี้อย่างไม่เหมาะสม และหากบทความที่ส่งไปได้รับการตีพิมพ์ทั้งสองแห่งหรือมากกว่าสองแห่ง โดยมีเนื้อหาเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกันอาจก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดจริยธรรมในประเด็นอื่นๆอีก (ดูหัวข้อ plagiarism, salami publicationและ redundant publication ประกอบ)
อนึ่ง ปัจจุบันได้มีความพยายามในการสร้างระบบขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเอื้อให้เกิดการแข่งขันกันระหว่างวารสารอย่างยุติธรรม โดยให้ผู้นิพนธ์สามารถส่งตีพิมพ์ผ่านระบบนี้ได้มากกว่าหนึ่งวารสาร อย่างไรก็ตามระบบนี้ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นด้วยหลักการของการใช้ทรัพยากรร่วมการส่งตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งวารสารในเวลาเดียวกันจึงยังเป็นเรื่องไม่ควรปฏิบัติอยู่
แนวทางการปฏิบัติ
- เมื่อส่งเรื่องตีพิมพ์ไปยังวารสารใดวารสารหนึ่งแล้ว ควรรอจนได้รับการปฏิเสธจากวารสารนั้นก่อนที่จะส่งไปยังวารสารอื่น หากกระบวนการประเมินยังไม่เสร็จสิ้นแต่จำเป็นต้องเปลี่ยนวารสาร (เช่นมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ทำให้คุณค่าของผลงานเพิ่มขึ้นหรือลดลง) ควรแจ้งยกเลิกการส่งตีพิมพ์กับวารสารนั้นและรอจนได้รับการยืนยันจากบรรณาธิการก่อนจึงพิจารณาส่งไปยังวารสารอื่นต่อไป
- เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการส่งผลงานตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ในกรณีที่มีผู้นิพนธ์มากกว่าหนึ่งคนซึ่งต่างคนต่างส่งโดยไม่ได้แจ้งผู้ร่วมนิพนธ์ทั้งหมดก่อน (เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ) คณะผู้นิพนธ์ควรยึดหลักการเป็นผู้นิพนธ์
(ดูหัวข้อ authorship ประกอบ) โดยเคร่งครัด และตกลงร่วมกันว่าใครจะมีหน้าที่เป็นผู้ส่งผลงานตีพิมพ์และให้ผู้นั้นเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบติดต่อประสานงานกับบรรณาธิการ ตั้งแต่ส่งผลงานจนถึงการตีพิมพ์ในที่สุด
- ในการประชุมวิชาการ บางครั้งผู้จัดประชุมจะให้ผู้นำเสนอผลงานส่งบทความเพื่อพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารที่ผู้จัดประชุมเป็นเจ้าของอยู่ และในบางกรณีอาจให้ผู้นิพนธ์ลงนามโอนลิขสิทธิ์ให้ไว้ล่วงหน้า ในกรณีเหล่านี้ผู้นิพนธ์ควรปฏิบัติเสมือนตนได้ส่งเรื่องไปให้วารสารพิจารณา กล่าวคือหลังการประชุมเมื่อผู้นิพนธ์ต้องการส่งไปยังวารสารอื่น ให้แจ้งผู้จัดประชุมว่าตนจะส่งไปลงตีพิมพ์ยังวารสารอื่น แล้วรอคำตอบจากผู้จัดประชุมก่อนเสมอ
แหล่งอ้างอิง : (สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, มาตรฐานการเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการ, หน้า 28)
ข้อมูลจากระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มก. นำไปใช้ทำอะไรบ้าง
ตอบ
- ใช้ข้อมูลรายงานผลต่อสํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
- ใช้ข้อมูลรายงานผลต่อสํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
- คณะ/สถาบัน/สํานัก ใช้ในการรายงานผลต่อสํานักประกันคุณภาพในระบบประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยฯ
- ข้อมูลโครงการวิจัย/ผลงานตีพิมพ์ทางวิชาการ/ผลงานตีพิมพ์ในการประชุมวิชาการ/สิทธิบัตร และ อนุสิทธิบัตร ข้อมูลเชื่อมโยงไปยังระบบภาระงานอาจารย์
- อาจารย์/นักวิจัย สามารถพิมพ์รายงานประวัติผลงานวิจัยทั้งหมดที่มีระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ได้ตลอดเวลา
คู่มือการใช้งานระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มก.
ต้องการสมัครเป็นนักวิจัย ทำอย่างไร
ตอบ กรณีไม่เคยสมัครเป็นนักวิจัยของ สวพ. มาก่อน
- อาจารย์/นักวิจัย Login โดยใช้ E-mail ของมหาวิทยาลัยฯ กรอกผ่านระบบฯ ซึ่งระบบจะทำการตรวจสอบ หากยังไม่มีรายชื่อเป็นนักวิจัยจะแสดงหน้าต่างให้ลงทะเบียน Online โดยอัตโนมัติ
- เจ้าหน้าที่ สวพ.มก. จะทำการตรวจสอบข้อมูลการสมัครเป็นนักวิจัย โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ
- เมื่อ สวพ.มก. ลงทะเบียนเป็นนักวิจัยเรียบร้อยแล้ว ระบบจะมีการแจ้งเตือนโดนผ่านทาง E-mail ที่ได้ลงทะเบียนไว้
- กรณีไม่สามารถลงทะเบียนได้ ติดต่อ ฝ่ายสารสนเทศงานวิจัย สวพ.มก. โทร. 0-2561-4640 สายใน 61-1459 และ 61-1805
ต้องการแก้ไขข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบจาก สวพ.มก. ไปแล้วต้องทำอย่างไร
ตอบ จากรูป ในตารางสรุปรายชื่อผลงาน ให้คลิกคำว่า “ขอแก้ไข” โดยนักวิจัยกรอกรายละเอียดที่ต้องการแก้ไขผ่านระบบ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ สวพ.มก. ดำเนินการตรวจสอบ/แก้ไขให้ต่อไป หากนักวิจัยต้องการนำข้อมูลไปรายงานผลเร่งด่วนสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศงานวิจัย สวพ.มก. โทรสายใน 61-1459, 61-1805 สายนอก 0-2561-4640
ทำไมต้องกรอก “รายชื่อผู้ร่วมวิจัย” ให้ครบทุกคน
ตอบ บทความหรือรายงานวิจัยต้องไม่มีการละเมิดสิทธิความเป็นผู้นิพนธ์ คือต้องใส่ชื่อผู้มีส่วนร่วมในการผลิตผลงานวิจัยให้ครบถ้วนไม่เพิ่มเติมชื่อผู้ที่มิได้มีคุณสมบัติเป็นผู้นิพนธ์ (Guest or Honorary และ Planned authorship) เข้าไป (โดยเจ้าตัวอาจทราบหรือไม่ทราบ) หรือไม่ใส่ชื่อผู้สมควรเป็นผู้นิพนธ์ไว้ด้วย (Denial of authorship) หรือใส่ชื่อผู้ไม่สมควรเป็นผู้นิพนธ์แทนตัวนักวิจัยเอง (Relinquished authorship) หรือระบุชื่อนักวิจัยเป็นผู้นิพนธ์ทั้งๆ ที่ผู้อื่นเป็นผู้เขียนผลงานให้ (ดังที่เรียกว่า “ความเป็นผู้นิพนธ์แฝง” Ghost authorship)
แห่งอ้างอิง :
ทำไมต้องระบุข้อมูล “โครงการวิจัยที่เกี่ยวข้อง” และ “การใช้ประโยชน์”
ตอบ การระบุ “โครงการวิจัยที่เกี่ยวข้อง” หมายถึง การได้ผลงานวิจัย (บทความตีพิมพ์ทางวิชาการ/บทความตีพิมพ์ในการประชุมวิชาการ/ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา/ผลงานอื่นที่เกี่ยวขัองกับงานวิจัย) ที่สืบเนื่องจากโครงการวิจัยที่ได้ทำหรือกำลังดำเนินการอยู่ เมื่อระบุชื่อโครงการ แล้วรายชื่อผลงานเรื่องนั้นจะไปปรากฎยังเมนู “การใช้ประโยชน์” ต่อไป
การใช้ประโยชน์ หมายถึง งานวิจัยที่นำมาใช้ประโยชน์อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน ไม่รวมผลงานที่ได้รับการอ้างอิง (Citation) ซึ่งการใช้ประโยชน์ต้องมาจากผลงานวิจัย โดยแบ่งออกเป็น 4 เชิง ดังนี้
- เชิงวิชาการ เช่น การใช้ประโยชน์ในการให้บริการวิชาการ(สอน/บรรยาย/ฝึกอบรม) การใช้ประโยชน์ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน การเขียนตำรา แบบเรียน การใช้ประโยชน์ในด้านการให้บริการ หรือ เป็นงานวิจัยเพื่อต่อยอดโครงการวิจัย เป็นต้น
- เชิงนโยบาย/บริหาร เช่น งานวิจัยเชิงนโยบายไม่ว่าจะเป็นการนำผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ ไปเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของการประกาศใช้กฎหมาย หรือมาตรการต่าง ๆ โดยองค์กร หรือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน
- เชิงสาธารณะ เช่น งานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่สร้างองค์ความรู้แก่สาธารณชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น องค์ความรู้ในด้านศิลปวัฒนธรรม สาธารณสุข การบริหารจัดการสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ประชาธิปไตยภาคประชาชน อันเป็นผลมาจากการนำความรู้จากการวิจัยไปใช้ เป็นสิ่งสะท้อนถึงการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์
- เชิงพาณิชย์ เช่น งานวิจัย และ/หรืองานสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ หรือผลิตภัณฑ์ซึ่งก่อให้เกิดรายได้ตามมา
โดยข้อมูลการใช้ประโยชน์นี้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่มหาวิทยาลัยฯ ต้องนำข้อมูลรายงานผลต่อ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และสถาบันฯ นำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาจัดสรรทุนต่อไป
ผลงานวิจัยจากระบบ KUR3 ที่สามารถนำไปคิดภาระงานอาจารย์ได้
ตอบ
- โครงการวิจัยจากทุกแหล่งทุน
- บทความ
- สิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร ที่ยื่นจดทะเบียนแล้ว
- บทความที่มีเชื่อมโยงกับโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว จะสามารถนำไปคิดในเมนู “แบบรายงานภาระงานงานทางวิชาการ” สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ (ศ. รศ. และ ผศ.)
ผลงานวิจัยที่ไม่ต้องกรอกเข้าระบบ เนื่องจากสถาบันฯจะทำการ Import ข้อมูลให้อัตโนมัติ
ตอบ
- ผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่สามารถสืบค้นได้จากฐานข้อมูล Scopus
- ข้อมูลโครงการวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุนวิจัย มก.
- ผลงานตีพิมพ์ในวารสารเกษตรศาสตร์ (Kasetsart Journal)
ระบบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มก. (KUR3) เก็บข้อมูลอะไร
ตอบ คือ ระบบที่รวบรวมข้อมูล ดังต่อไปนี้
- โครงการวิจัยที่ได้รับทุนจากแหล่งทุนต่างๆ “ที่ไม่ใช่ทุนอุดหนุนวิจัย มก.”
- บทความตีพิมพ์ทางวิชาการ (Journal)
- บทความนำเสนอในการประชุมทางวิชาการ (Conference)
- ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบด้วย
- ขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช , พันธุ์สัตว์ และ สิ่งประดิษฐ์ มก.
- การรับรองพันธุ์พืชกรมวิชาการเกษตร
- สิทธิบัตร
- อนุสิทธิบัตร
- เครื่องหมายการค้า
- ลิขสิทธิ
- ผลงานอื่นๆ (คือ ผลงานที่เกิดจากงานวิจัยเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ผลงานตามข้อ 2-4 ข้างต้น)
- การใช้ประโยชน์ – งานวิจัยที่นำมาใช้ประโยชน์อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน ไม่รวมผลงานที่ได้รับการอ้างอิง (Citation) ซึ่งการใช้ประโยชน์ต้องมาจากผลงานวิจัย โดยแบ่งออกเป็น 4 เชิง ดังนี้
- เชิงวิชาการ
- เชิงนโยบาย/บริหาร
- เชิงสาธารณะ
- เชิงพาณิชย์
- รางวัล
- รางวัลโดยบุคคล
- รางวัลโดยผลงานสิ่งประดิษฐ์
- รางวัลโดยผลงานนำเสนอในการประชุมวิชาการ
หากต้องการกรอกข้อมูลโครงการวิจัยย้อนหลัง ต้องทำอย่างไร
ตอบ อาจารย์/นักวิจัย สามารถกรอกข้อมูลได้ตามปกติ โดยกรอกปี พ.ศ. ที่ได้รับทุนของโครงการวิจัยไว้ในวงเล็บ หน้าชื่อโครงการ หลังจากบันทึกข้อมูลเข้าระบบแล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแก้ให้ต่อไป
ใครที่สามารถกรอกข้อมูลผลงานวิจัยเข้าระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มก. ได้บ้าง
ตอบ
- อาจารย์/นักวิจัย ที่เป็นบุคลากรประจำของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และลงทะเบียนเป็นนักวิจัยของ สวพ.มก. แล้ว
- ผู้แทนหน่วยงาน คือ ผู้ที่หน่วยงานกำหนดให้มีหน้าที่ในการกรอกข้อมูลผลงานวิจัยของบุคลากรภายในหน่วยงานระดับภาควิชา แทนเจ้าของผลงานโดยสามารถขอรับ User และ Password สำหรับเข้าระบบฯ ได้ที่ ฝ่ายสารสนเทศงานวิจัย สวพ.มก. โทรภายใน 61-1459, 61-1805 สายนอก 0-2561-4640