สถานีวิจัยดอยปุย

         สถานีวิจัยดอยปุย มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีและมีความชื้นสูง เนื่องจากพื้นที่รอบๆ มีสภาพเป็นป่าทึบ ช่วงฤดูฝนจะอยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม และช่วงที่มีอากาศหนาว จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคม ลักษณะเช่นนี้ทำให้สถานีวิจัยดอยปุยมีศักยภาพในการพัฒนาพืชในเขตหนาวอย่างมาก โดยเฉพาะ สตรอเบอรี่ พลับ บ๊วย ท้อ พลัม และ เฮลิโคเนีย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจมีผลตอบแทนสูง

สถานีวิจัยเพชรบูรณ์

           สถานีวิจัยเพชรบูรณ์มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็น และมีความชื้นค่อนข้างสูง ช่วงฤดูฝนจะอยู่ระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม และช่วงที่มีอากาศหนาวจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคม ลักษณะเช่นนี้ทำให้สถานีวิจัยเพชรบูรณ์มีศักยภาพในการพัฒนาพืชในเขตหนาว ทั้งพืชผัก ไม้ดอก และไม้ผล เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดหอมห่อ แครอท บร๊อคโคลี่ ปวยเหล็ง เบญจมาศ ลิลลี่ เยอร์บีร่า เฟิร์น โบตั๋น ปักษาสวรรค์ กุหลาบ เฮลิโคเนีย มะม่วง ฝรั่ง อะโวกาโด้ ส้ม สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ พาสชั่นฟรุต องุ่น กีวี สาลี่ พลับ บ๊วย แอปเปิล ท้อ และพลัม

สถานีวิจัยกาญจนบุรี

          สถานีวิจัยกาญจนบุรีอยู่ในเขตเงาฝน มีสภาพอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง ฤดูร้อนจะร้อนจัด และฤดูหนาวจะหนาวเย็น ฤดูฝนมีความแปรปรวนสูงโดยปกติช่วงฤดูฝนจะอยู่ในระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม และมีช่วงฝนทิ้งช่วงประมาณเดือนกรกฏาคมถึงเดือนสิงหาคม ลักษณะเช่นนี้ทำให้สถานีวิจัยกาญจนบุรีสามารถพัฒนาพืชทนแล้งได้เป็นอย่างดี เช่น มันสำปะหลัง แคนตาลูป องุ่น งา ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ข้าวโพด อ้อย ไผ่รวก พุทรา มะเฟื่อง แก้วมังกร และแคคตัส

สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากร

         สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากรอยู่ติดชายทะเล ทำให้มีสภาพอากาศร้อนชื้นและลมแรง ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมจะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งทำให้ฝนตกหนัก และเกิดพายุลมแรง ฤดูแล้งเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน ทำให้ช่วงนี้มีอุณหภูมิสูงเนื่องจากมีลมร้อนและชื้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากรสามารถพัฒนาพืชแถบร้อนชื้น เช่น สะละ ลองกอง ส้มโชกุน อะเซอโรลาเชอรี่ ยางพารา มะเฟื่องหวาน แคคตัส ข้าวโพด และพืชผักพื้นเมือง