การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง
Central Thailand Food Valley Development
หัวหน้าโครงการวิจัย
ผศ.ดร.วราภา มหากาญจนกุล
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
E-mail: warapa.m@ku.ac.th
คณะผู้วิจัย/ผู้ร่วมโครงการ
- รศ.ดร.วราภา มหากาญจนกุล
- รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี
- นางพัชรี ตั้งตระกูล
- ผศ.ดร.พงษ์เทพ วิไลพันธ์
- ดร.เรืองรอง ทองตัน
- นางสาวโสภิดา ชิดชื่นเชย
- นางสาวอรญา ศรีอนันต์
- นางรัตนาภรณ์ ไชยแสน
- นายธีรศักดิ์ สุนทรา
วัตถุประสงค์
- เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายความร่วมมือ 3 ภาคส่วน และเพื่อสร้างต้นแบบการบริหารจัดการโครงการ Food Valley ในพื้นที่ภาคกลาง
- เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และต้นแบบผลิตภัณฑ์ต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรม โดยโครงการย่อยจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการคัดเลือกข้อเสนอโครงการ กลุ่มเรื่อง Food Valley
แนวคิดเรื่อง Food Valley หรือหุบเขาอาหาร
แนวคิดเรื่อง Food Valley หรือหุบเขาอาหาร เป็นแนวคิดในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารแบบครบวงจร (จิต, 2555) โมเดลนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศเนเธอร์แลนด์กำลังประสบกับปัญหาด้านปริมาณและคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลง รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จึงใช้แนวคิดเพื่อพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในคลัสเตอร์อาหารให้มีความเข้มแข็ง ผ่านการสร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ สถาบันวิจัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อผลักดันให้องค์ความรู้ และผลงานวิจัยทางวิชาการต่างๆ ได้รับการพัฒนาและต่อยอดให้เห็นเป็นรูปธรรม สามารถผลักดันให้ออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้จริงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมากถึงกว่าปีละ 48 พันล้านยูโรแล้ว ยังกลายเป็นสนามแม่เหล็กชั้นดีที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลเข้าประเทศ (โชติกา, 2556) ซึ่งตัวอย่างโมเดล Food Valley นี้เป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันและเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ที่สามารถนำมาปรับใช้กับบริบทของประเทศไทยได้
อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2559 มีแนวโน้มส่งออกเติบโต 5% มูลค่า 9.5 แสนล้านบาท จากปี พ.ศ. 2558 ที่มีมูลค่า 9 แสนล้านบาท โดยเฉพาะอาหารเพื่อสุขภาพจะมีแนวโน้มการเติบโตได้ดี ควบคู่กับภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ย่อมก่อให้เกิดอุปสงค์ต่อสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แม้ปัญหาภัยแล้งอาจส่งผลกระทบการส่งออกแต่คงไม่มาก เพราะจะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น (ที่มา: ข่าวสด วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9175)
ภาคกลางครอบคลุมพื้นที่ 21 จังหวัด มีบทบาทเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรกรรมและประมงที่สำคัญของประเทศ ความเข้มแข็งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของภาคกลาง สามารถอ้างอิงรายงานของกรมโยธาธิการและผังเมืองว่า โครงสร้างผังเมืองของภาคกลางมีการพัฒนาด้านเกษตรกรรมเพื่อสนับสนุนบทบาทการเป็น “ครัวของโลก” และมีการพัฒนาโครงการ Contract Farming ขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพตรงกับข้อกำหนดมาตรฐานสุขอนามัยในเวทีการค้าโลก รวมทั้งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดนี้เอื้อต่อการผลิตอาหารจากผลผลิตทางการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง
ประเด็นการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำ เป็นประเด็นที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เนื่องจากในแต่ละปีประเทศไทยมีปริมาณและมูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ เช่นในปี พ.ศ. 2558 มีการส่งออกสัตว์น้ำในกลุ่มปลาและผลิตภัณฑ์ประมาณ 1,044,646 ตัน คิดเป็นมูลค่า 109,293 ล้านบาท รวมถึงในกลุ่มกุ้งและผลิตภัณฑ์ประมาณ 120,269 ตัน คิดเป็นมูลค่า 97,103 ล้านบาท (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2558) จากผลผลิตปริมาณมากที่มีการส่งออกดังกล่าวย่อมส่งผลให้มีเศษเหลือจากการแปรรูปตามมาจำนวนมาก เช่น หัว หาง ก้าง หนัง อวัยวะภายใน เปลือก และเศษเหลือส่วนอื่นๆ เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณมากถึงร้อยละ 40 ของปริมาณวัตถุดิบตั้งต้นที่นำมาใช้ในการแปรรูป ซึ่งหมายถึงว่าจะมีเศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำภายในประเทศอย่างน้อย 776,610 ตันต่อปี ที่ผ่านมาเศษเหลือดังกล่าวมักถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างไม่คุ้มค่า เช่น การนำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีราคาถูก การนำไปใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อการผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงในบางครั้งเศษเหลือดังกล่าวยังสร้างผลกระทบโดยทางตรงและทางอ้อมต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จึงทำให้ภาคส่วนต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในกลุ่มที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์ รวมถึงในรูปแบบอื่นๆ ประกอบกับในพื้นที่ภาคกลางโดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม มีโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำอยู่จำนวนมาก จึงทำให้เป็นแหล่งที่สำคัญและง่ายต่อการเข้าถึงเศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำที่หลากหลายเพื่อนำมาสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง รวมถึงอาจสามารถใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำให้กับภูมิภาคอื่นๆ และ/หรือการรวมกันเป็นเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีในระหว่างแต่ละภูมิภาคเพื่อให้อุตสาหกรรมการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์น้ำมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ในส่วนองค์ประกอบเรื่องความพร้อมของสถานศึกษาในพื้นที่ภาคกลางนั้น อาจารย์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัยในภาคกลางได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการผลิตอาหารอย่างต่อเนื่องและได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารแปรรูปจากผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งเศษเหลือจากอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อมุ่งเน้นเรื่องโภชนาการ และมีความปลอดภัย จนมีองค์ความรู้และเทคโนโลยีพื้นฐานที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และมีความหลากหลายทั้งในเชิงของ Functional food ผลงานวิจัยบางส่วนได้รับการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร ซึ่งพร้อมจะขยายผลและถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการทั้งในระดับใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด
โครงการ Food Valley ภาคกลาง 2559 นี้จึง “มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารมูลค่าสูงเพื่อสุขภาพกลุ่ม Functional food” เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ และการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีโภชนาการสูงจากเศษเหลือของอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารกลุ่มนี้ให้เติบโต ควรเน้นการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และพัฒนามาตรฐานสู่ระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายเป็น “ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมอาหารของเอเชีย” โครงการ Food Valley ภาคกลาง เลือกกลุ่มเอกชนเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการอาหารขนาดกลาง เนื่องจากมีความพร้อมทางด้านการลงทุนและเทคโนโลยีในระดับที่สามารถพัฒนาต้นแบบได้
ภาพความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์กันในระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิดเป็น Food Valley ในแต่ละภูมิภาค
(ที่มา: การประชุมพัฒนากรอบงานวิจัย Food Valley วันที่ 4 ก.พ. 2559
และการประชุมพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัย Food Valley วันที่ 12 ก.พ. 2559)
Concept Food Valley การพัฒนาโครงการภายใต้งานวิจัยเพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐ กลุ่มเรื่อง Food Valley จะต้อง มีความร่วมมือของ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ถือเป็นปัจจัย/องค์ประกอบสำคัญ ทั้งนี้ควรเน้นการวิจัยเชิงพื้นที่ (Area Based Development Research) และงานวิจัยที่หน่วยงานมีศักยภาพต่อยอดได้ (Functional Based Research) โดยมีแต่ละความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์กันในแต่ละภาคส่วน ดังนี้