“ชมพูพิรุณ” ฝรั่งเนื้อชมพูพันธุ์ใหม่

ชมพูพิรุณ’ เกิดจากการผสมพันธุ์แบบควบคุมระหว่างพันธุ์ พ.จ. 13-10 เป็นพันธุ์แม่ กับพันธุ์แป้นสีทอง เป็นพันธุ์พ่อ โดย ‘ชมพูพิรุณ’ นั้นมีการเจริญเติบโตดี ต้นแข็งแรง ให้ผลดกผลมีขนาดใหญ่ เนื้อมีสีชมพูอ่อน ไส้มีสีชมพูเข้ม ผิวผลสีเขียวปนเหลืองอ่อน ผลมีขนาดประมาณ 460 กรัม มีปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ (ความหวาน) 10.9 ºBrix มีวิตามินซี 120 mg/100 g FW มีปริมาณเส้นใยและสารต้านอนุมูลอิสระประมาณ 0.37% และ 12.2 (µMol/g FW โดยลักษณะเด่น ของฝรั่งพันธุ์ ‘ชมพูพิรุณ’ คือ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เหมาะสำหรับการรับประทานสดและการนำ ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

ลักษณะประจำพันธุ์
ลักษณะวิสัยการเจริญเติบโต: แบบแผ่ออก
ใบ: ใบรูปใบหอก ใบแก่สีเขียวแกมเทาอ่อน แผ่นใบไม่บิด ผิวใบด้านบนเรียบฐาน
ใบนหรือป้าน ปลายใบมนหรือป้าน
ดอก: การเกิดช่อดอกต่อตา มี 1 ช่อ จำนวนดอกบนช่อ มี 1 ดอก กลีบดอกสีขาว
ผล: ผลทรงกลม ฐานผลบุ๋ม ไม่มีจุก ผิวผลสีเขียวปนเหลืองอ่อน ผิวผลเรียบ ไม่มีสัน
เป็นแนวยาวบนผล
เนื้อ : สีชมพูอ่อน และไส้สีชมพูเข้ม

การนำไปใช้ประโยชน์

ผลฝรั่ง ‘ชมพูพิรุณ’ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งรับประทานสดและแปรรูปโดยเอกลักษณ์ของ ‘ชมพูพิรุณ’ คือ เนื้อมีสีชมพู สวยงาม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และเมื่อนำไปแปรรูปสีและกลิ่นของเนื้อฝรั่งยังคงอยู่ ในปัจจุบันภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน ได้ทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนในการนำฝรั่งพันธุ์ ‘ชมพูพิรุณ’ ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สมูทตี้ ไอศกรีม หรือเบเกอรี่เพื่อให้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้การปลูกฝรั่งยังสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มการดูดชับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
รศ.ดร.อุุณารุุจ บุุญประกอบ ผศ.ดร.เกรีียงศัักดิ์ ไทยพงษ์์ และ อ.ดร.ปณวััตร สิิขััณฑกสมิต
ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
โทร. 09-9516-2564  E-mail: panawat.sik@ku.th