ส้มแก้วสมคิด (Garcinia siripatanadilokii): พรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก
นักวิจัยไทยค้นพบพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกในสกุล Garcinia วงศ์ Clusiaceae (ชื่อเดิม Guttiferae) และตั้งชื่อว่า “ส้มแก้วสมคิด” (Garcinia siripatanadilokii Ngerns., Meeprom, Boonth., Chamch. & Sinbumr.) เพื่อเป็นเกียรติแก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สมคิด สิริพัฒนดิลก อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการศึกษาวิทยาศาสตร์ป่าไม้ของไทย
การค้นพบนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างนักพฤกษศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีผู้ร่วมวิจัยและระบุชื่อผู้ค้นพบอย่างเป็นทางการ ดังนี้:
- รศ.ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย – ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ (หัวหน้าคณะวิจัย)
- นายณัฐนนท์ มีพรหม – นิสิตเก่าภาควิชาพฤกษศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และนักศึกษาปริญญาเอก University of Reading, สหราชอาณาจักร
- นางสาววีรีศา บุญทะศักดิ์ – นิสิตเก่าภาควิชาพฤกษศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
- นางสาวปวีณา เวสภักตร์ – นิสิตปริญญาเอก ภาควิชาพฤกษศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
- ผศ.ดร.สุธีร์ ดวงใจ – ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
- ดร.วรดลต์ แจ่มจำรูญ – นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กรมอุทยานฯ
- นายอรุณ สินบำรุง – นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติสุราษฎร์ธานี

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
“ส้มแก้วสมคิด” เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ สูง 2–4 เมตร เส้นรอบวงลำต้น 7–15 ซม. กิ่งเรียงตรงข้าม สลับฉากตามแนวนอน กิ่งย่อยมีลักษณะเป็นเหลี่ยม สีน้ำตาล เปลือกแตกเป็นสะเก็ดทุกส่วนมีน้ำยางสีเหลืองเหนียว ยอดอยู่ในซอกก้านใบปลายกิ่ง ใบสดเปราะ เมื่อขยี้มีกลิ่นเปรี้ยว ดอกและผลออกมากกว่าหนึ่งครั้งต่อปี ดอกออกช่วงเดือนตุลาคมถึงกรกฎาคม และผลระหว่างเดือนธันวาคมถึงสิงหาคม ลักษณะคล้ายกับ Garcinia lanceifolia (มะแปม) แต่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาบางประการที่แตกต่างกัน เช่น กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ยอดเกสรเพศเมียเป็นแฉกตื้นตามรัศมี และมีตุ่มเล็ก
การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย
พบเฉพาะในประเทศไทย บริเวณจังหวัดตรัง จังหวัดสตูล และจังหวัดนราธิวาส ในต่างประเทศมีแนวโน้มอาจพบที่คาบสมุทรมาเลเซียพบในป่าดิบชื้นระดับต่ำ ความสูงจากระดับทะเล 50–200 เมตร จัดอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered)
ประโยชน์
- ผลรับประทานได้ มีรสเปรี้ยว
- เปลือกเมล็ดชั้นนอกมีเนื้อนุ่ม
- ยอดอ่อน ใบ และดอก ใช้ปรุงอาหาร
- มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ประดับ



ประวัติการเก็บตัวอย่าง
- 2471: A.F.G. Kerr เก็บตัวอย่างจากคลองทอน จ.สตูล
- 2512: Sarmrong เก็บที่เขาช่อง จ.ตรัง
- 2544: ดร.เชาวลิต นิยมธรรม เก็บที่น้ำตกสิรินธร จ.นราธิวาส
- 2552: นายพาโชค พูดจา และ นายจันดี เห็มรัตน์ เก็บที่ฮาลา-บาลา จ.นราธิวาส
- 2554: ดร.วรดลต์ แจ่มจำรูญ และคณะ เก็บจากเขาช่อง จ.ตรัง
- 2559: รศ.ดร.ฉัตรชัย, นายณัฐนนท์, ผศ.ดร.สุธีร์ เก็บจากเขาช่อง (ตัวอย่างหาย แต่มีภาพถ่าย)
- 2561: รศ.ดร.ฉัตรชัย, นายณัฐนนท์, นางสาววีรีศา, นางสาวปวีณา เก็บตัวอย่างผล (G25-17032018)
- 2565: ทีมเดียวกันรวมถึง นายจรรยา เจริญรัตตวงค์ และนายปรีชา พุทธรักษ์ เก็บตัวอย่างดอกเพศเมียและผล (G26-18022022) และอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 (G30-08032022)
ตัวอย่าง G26-18022022 ได้รับการกำหนดให้เป็น “ต้นแบบแรก (Holotype)” สำหรับการบรรยายลักษณะพืชอย่างเป็นทางการ
การตีพิมพ์และยืนยันสถานะพรรณไม้ชนิดใหม่
ผลงานวิจัยเรื่อง “Garcinia siripatanadilokii (Clusiaceae), a new species from Peninsular Thailand” ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Kew Bulletin และเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565
DOI: 10.1007/s12225-022-10059-8
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
รศ.ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย และคณะ
ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 0-2562-5444 ต่อ 1308 E-mail: fsciccn@ku.ac.th