การเพิ่มมูลค่าของลาเวนเดอร์ด้วยวิธีการสกัดน้ำมัน
ปัจจุบันต้นลาเวนเดอร์เป็นไม้ดอกไม้ประดับ ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากทั้งเรื่องของกลิ่นที่หอม ดอกสีม่วงที่สวยงาม และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของลาเวนเดอร์ แต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ต่างประเทศหรือไม่ก็ที่ภาคเหนือ สถานีวิจัยเพชรบูรณ์มีพื้นที่แปลงทดลองงานวิจัยอยู่ที่ภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี จึงเหมาะสมสำหรับการทดลองปลูกลาเวนเดอร์จากเดิมที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ที่มีการใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก จากการปลูกที่เกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ผลลัพธ์คือ ต้นมีการเจริญเติบโตค่อนข้างดี ทางสถานีวิจัยเพชรบูรณ์จึงได้นำเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันโดยนำดอกและยอดของต้นมาผ่านกรรมวิธีการสกัดเย็น จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
ช่วยเพิ่มมูลค่าของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ในประเทศไทยให้อยู่ในตลาดเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศที่มีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และสามารถส่งเสริมการปลูกที่จะสร้างอาชีพ ทั้งในเชิงการท่องเที่ยวและเชิงอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดรายได้ในเชิงพาณิชย์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของคนไทยให้เป็นที่ยอมรับ
การเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรด้วยวิธีการสกัดเย็น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น การปลูกที่หลากหลายสายพันธุ์ ความหลากหลายรูปแบบการปลูกทั้งในโรงเรือนและนอกโรงเรือน โดยมุ่งเน้นความต่อเนื่องของผลผลิตและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมคุณภาพผลผลิต เพื่อการส่งเสริมการปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพบริบทพื้นที่ ทั้งการปลูกในเชิงท่องเที่ยวและการปลูกเพื่อเป็นวัตถุดิบในการสกัดน้ำมันหอมระเหย ก่อให้เกิดอาชีพและสร้างรายได้ใหม่ที่มีความมั่นคงแก่เกษตรกร
ผลงานวิจัยโดย :
นายเจรศักดิ์ แซ่ลี, นายปรเมศ แสนยากุล, นางสาววริยา ด่อนศรี,
รองศาสตราจารย์ธานี ศรีวงศ์ชัย, นายวีระยุทธ แสนยากุล,
นายสันติพงษ์ วงมีแก้ว สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ คณะเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 08-8633-5071
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
นายปรเมศ แสนยากุล
✍ ผลิตสื่อโดย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย
🌟 แนะนำ/ติชม https://forms.gle/e3MzPqrb2V9QE9Tp6