การเสวนา หัวข้อ “ประสบการณ์และโอกาสการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” โดย KUIAS

การเสวนา หัวข้อ “ประสบการณ์และโอกาสการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” สถาบันวิทยาการขั้นสูงแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ – KUIAS วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โดย
1. ศาสตราจารย์ ดร. อรินทริพย์ ธรรมชัยพิเนต (ผู้ดำเนินรายการ): ผู้อำนวยการศูนย์โอมิกส์ด้านเกษตร ทรัพยากรชีวภาพ อาหารและสุขภาพ มก.
การร่วมมือระดับนานาชาติในด้านการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยการวิจัยพื้นฐานที่ช่วยสร้างองค์ความรู้พื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในหลายสาขา การวิจัยระดับโลกที่มีความสำคัญในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการวิจัยที่มีผลกระทบ (Impact) ทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่สำคัญในระดับโลก โดยมุ่งหวังให้การวิจัยที่ดำเนินการร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติสามารถส่งเสริมความยั่งยืนและสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งในด้านความรู้และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างแท้จริง
2. ศาสตราจารย์ ดร.ธีรภาพ เจริญวิริยะภาพ: ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านกีฏวิทยาชุมชนและสิ่งแวดล้อม
การสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเครือข่ายที่มั่นคงและแข็งแกร่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้การดำเนินพันธกิจของมหาวิทยาลัยมีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างและส่งเสริมให้เครือข่ายมีความยั่งยืน ได้แก่
1). ความศรัทธาและซื่อสัตย์ – การมีศรัทธาในเป้าหมายและความสามารถของเครือข่าย รวมถึงความซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยกับพันธมิตร ช่วยสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจซึ่งกันและกัน ความซื่อสัตย์นี้ยังช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล การช่วยเหลือ และการทำงานร่วมกันได้อย่างโปร่งใส
2). การมีวินัย – วินัยในการทำงานร่วมกันเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เครือข่ายดำเนินไปตามแผนและเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกรอบการทำงานร่วมกันอย่างมีระเบียบวินัย ซึ่งช่วยลดข้อขัดแย้งและทำให้โครงการต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงตามที่วางไว้
3). เจตจำนง – การมีเจตจำนงแน่วแน่ในการสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืน ช่วยให้ทุกฝ่ายมีความมุ่งมั่นในเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งการมีเจตจำนงที่ชัดเจนจะช่วยให้เครือข่ายสามารถเผชิญและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคงและมีสติ
นอกจากนั้น การมีเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญก่อนจะขยายไปสู่ระดับนานาชาติ ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนนิสิต การสนับสนุนการวิจัยในศาสตร์ต่าง ๆ และการร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งในด้านการพัฒนาบุคลากรและการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้กับมหาวิทยาลัย
3. ศาสตราจารย์ ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์: ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการไทย-ฝรั่งเศส
กล่าวถึงความสำคัญของการเข้าใจบทบาทและภารกิจในฐานะบุคลากรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่า “เราคือใคร ทำอะไร และทำไปเพื่อใคร” โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อขับเคลื่อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ประเทศชาติ และโลกใบนี้ การที่บุคลากรของ มก. ทำงานตามบทบาทของตนและร่วมกันผลักดันพันธกิจของมหาวิทยาลัยจึงเปรียบเสมือนการร่วมมือกันทำเพื่อส่วนรวม เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดีขึ้น และเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของ มก. ที่มีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
ยกคำพูด “Make new friends, but keep the old. One is silver and the other gold” เปรียบเสมือนการย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการรักษามิตรภาพเก่า เช่นเดียวกับที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ใหม่ ในขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งพันธมิตรที่มีอยู่เดิม ซึ่งมีคุณค่าและมีบทบาทสำคัญมาตลอด
ในการสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน การใช้ Key Strategic and Systematic Approaches เหล่านี้เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยวางรากฐานและเสริมสร้างความสำเร็จของความร่วมมือในระยะยาว โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. Identify key stakeholders
2. Define clear objectives
3. Engage early and often
4. Co-create solutions
5. Showcase benefits
6. Build trust and relationships
7. Multiply opportunities
8. Flexibility and adaptation
9. Legal and ethical frameworks
10. Sustainability plan
11. Provide incentives
12. Communication strategy
13. Celebrate successes
14. Manage conflicts
15. Measurable impact
16. Evaluation and feedback
4. ศาสตราจารย์ ดร. สาวิตรี ลิ่มทอง: นายกสมาคมสารพิษจากเชื้อราแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ
การสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีสองระดับหลัก ๆ ได้แก่
1). ความร่วมมือระหว่างองค์กรกับองค์กร: เป็นความร่วมมือที่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อให้เกิดกรอบการทำงานที่ชัดเจน มีเป้าหมายและโครงการต่าง ๆ ที่ตกลงร่วมกันล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือระหว่างหลายมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมหาวิทยาลัยโอซากาและมหาวิทยาลัยยามากูจิเป็นแกน และมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง มก. โดยกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นด้านการวิจัยเป็นสำคัญ เช่น การแลกเปลี่ยนนักวิจัย การจัด training courses ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และการแลกเปลี่ยนนิสิต ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการพัฒนาทักษะของนิสิตและการผลิตบัณฑิตที่จบการศึกษาจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์ของ มก. กำลังดำเนินการฟื้นฟูความร่วมมือทางการวิจัยกับมหาวิทยาลัยโอซากา ซึ่งจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
2). ความร่วมมือระหว่างบุคคลกับบุคคล: เป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากความสนใจและความเชี่ยวชาญในด้านเดียวกันระหว่างบุคคล เช่น อาจารย์หรือนิสิตระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่เดินทางไปทำงานร่วมกับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในประเทศอื่น ๆ ความร่วมมือแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีการลงนาม MOU แต่สร้างคุณค่าผ่านการทำงานร่วมกัน เช่น การผลิตผลงานวิจัยและการตีพิมพ์บทความวิชาการร่วมกัน ซึ่งช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญที่สามารถร่วมงานได้ในระยะยาว
5. รองศาสตราจารย์ ดร. วราภา มหากาญจนกุล: ผู้อำนวยการศูนย์ประสานเพื่อการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ
การสนับสนุนความร่วมมือกับนานาชาติและแหล่งทุนภายนอกของสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นการส่งเสริมศักยภาพและขยายขอบเขตความรู้ไปสู่ระดับสากล โดยมีแนวทางและกิจกรรมสำคัญดังนี้
1). การสนับสนุนโครงการประชุมวิชาการนานาชาติ – ส่งเสริมให้บุคลากรและนักวิจัยเข้าร่วมและนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีประชุมวิชาการนานาชาติ ซึ่งช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับนักวิจัยทั่วโลก
2). การสนับสนุนการเดินทางไปแสดงผลงานต่างประเทศ – ให้การสนับสนุนด้านการเดินทางสำหรับบุคลากรที่ต้องการแสดงผลงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการในต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ผลงานของนักวิจัย มก. ได้รับการยอมรับในระดับสากล
3). ประสานงานและจัดการสัมมนาทุนวิจัยจากแหล่งทุนต่างประเทศ – การประสานงานกับหน่วยงานผู้ให้ทุนต่างประเทศ เพื่อจัดการสัมมนาหรือเวิร์กชอปที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยได้เรียนรู้วิธีการขอทุน และสร้างความเข้าใจในกระบวนการและข้อกำหนดของแหล่งทุนเหล่านั้น
4). การพัฒนาข้อเสนอโครงการ – ช่วยให้คำแนะนำและสนับสนุนการพัฒนาข้อเสนอโครงการให้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของแหล่งทุน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการได้รับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก
5). โครงการสนับสนุนการวิจัยระยะสั้น CLMV – การสนับสนุนการวิจัยในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเฉพาะการทำวิจัยระยะสั้น เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือและพัฒนาความรู้ที่เป็นประโยชน์ระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับประเทศเหล่านี้
การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้นักวิจัยและบุคลากรของ มก. ได้รับโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในวงกว้าง ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพของมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ