มินิพิรุณ ฝรั่งพันธุ์แคระ

 

ฝรั่งพันธุ์ “มินิพิรุณ” เป็นลูกผสมที่ได้จากการผสมพันธุ์แบบควบคุม โดยการนำพันธุกรรมแคระจากฝรั่ง “Diminutive”  และพันธุกรรมลูกดกจากฝรั่ง “แดงสยาม” มาใส่ให้กับฝรั่ง “หวานพิรุณ”  ซึ่งเป็นฝรั่งที่รสชาติดี เนื้อกรอบละเอียด เก็บรักษาได้นานและคุณค่าโภชนาการสูง จึงทำให้ฝรั่งพันธุ์ มินิพิรุณ มีทรงต้นเล็กเนื่องจากพันธุกรรมแคระออกดอกและติดผลดก ให้ผลฝรั่งที่รสชาติอร่อย เก็บรักษาได้นานและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ซึ่งต้นฝรั่ง “มินิพิรุณ” มีทรงต้นเล็ก มีข้อสั้นและใบขนาดเล็กเนื่องจากพันธุกรรมแคระ กิ่งแผ่ลู่ลง ต้นจึงไม่สูงมาก ทรงพุ่มกระชับ จึงสามารถปลูกในภาชนะหรือพื้นที่จำกัดได้  ต้นเจริญเติบโต กิ่งแข็งแรง แตกตาข้าง กิ่งข้างมาก ออกดอกและติดผลดกตลอดทั้งปี การดูแลง่ายและสะดวกเพราะไม่จำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งเหมือนฝรั่งปกติ ต้นฝรั่งสามารถทยอยออกดอกชุดใหม่ได้อย่างต่อเนี่องเพราะกิ่งใหม่ๆ เกิดจากตาข้างที่ซอกใบได้ตลอด หรือถ้าต้องการผลิตให้ได้ผลผลิตเป็นรุ่นๆ พบกว่า หลังจากการปลิดผลและดอกออกทั้งหมดแล้ว ต้นฝรั่งใช้เวลา ประมาณ 5-8 สัปดาห์ เพื่อสร้างดอกรุ่นใหม่ แล้วเริ่มบานและติดผล ผลฝรั่งใช้เวลาจากดอกบานถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 14-15 สัปดาห์ ดังนั้นถ้าต้องการให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเวลาใด ให้เตรียมการก่อนประมาณ 19-23 สัปดาห์ ด้วยการปลิดผลและดอกออกให้หมด

 

ลักษณะทั่วไป 
1. ทรงต้นเล็ก ดูแลง่าย สามารถปลูกในกระถางได้
2.การเจริญเติบโตแข็งแรงออกดอก และติดผลดี
3.รสชาติเข้มข้น  (TSS12-15ํBRIX;TAประมาณ1%)
4.มีวิตามินซีสูง (90 มิลลิกรัมต่อผล) สามารถเก็บรักษาในตู้เย็นได้นาน

วิธีการดูแลรักษา สถาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ต้นฝรั่ง  “มินิพิรุณ” ชอบแสงแดด ดังนั้นควรเลือกมุมที่ได้รับแสงแดดทั้งวัน หรืออย่างน้อยก็ควรได้รับแสงแดดครึ่งวัน ต้นฝรั่งชอบดินร่วนระบายน้ำดี ต้องสะอาดปราศจากไส้เดือนฝอยรากปม หรือถ้าปลูกในวัสดุปลูกไร้ดินก็ควรเป็นวัสดุปลูกที่อุ้มน้ำได้ดีแต่ไม่แฉะ เช่น ส่วนผสมของ ขุยมะพร้าว ทราย แกลบ และถ่านแกลบ ในอัตราส่วน 3:1:1:1

การให้ปุ๋ย

การให้ปุ๋ยจึงต้องให้อย่างสม่ำเสมอ ภาควิชาพืชสวนกำลังทดสอบเรื่องปุ๋ยอยู่ในขณะนี้ ผลการทดสอบในระยะแรกพบว่าต้นฝรั่งอายุประมาณ 1 ปี ที่ปลูกในกระถาง 19 นิ้ว ตอบสนองต่อปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 15 กรัม สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เมื่อต้นใหญ่ขึ้นหรืออายุมากขึ้น การให้ปุ๋ยต้องเพิ่มขึ้นด้วย

การรดน้ำ

การให้น้ำต้องพิจารณาจากอายุและขนาดของต้น รวมถึงสภาพแวดล้อม เช่น ต้นที่อายุน้อยกว่า 1 ปี และมีขนาดใหญ่มาก ปลูกอยู่ในพื้นที่รับแสงแดดทั้งวัน อาจให้น้ำ วันเว้นวันได้ในขณะที่ต้นที่อายุมากกว่า 1 ปี และมีขนาดใหญ่ขึ้น และปลูกในพื้นที่รับแสงแดดทั้งวัน จำเป็นต้องให้น้ำวันละครั้ง แต่ถ้าต้นฝรังอยู่ในพื้นที่รับแสงแดดไม่เต็มทั้งวัน ปริมาณการให้น้ำปรับลดลงได้

ผลงานวิจัยโดย
รศ.ดร.อุณารุจ  บุญประกอบ  และทีมผู้ร่วมวิจัย
ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
โทร. 08 -1482-5186

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
รศ.ดร. อุณารุจ บุญประกอบ

✍ ผลิตสื่อโดย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย
🌟 แนะนำ/ติชม https://forms.gle/e3MzPqrb2V9QE9Tp6