วัคซีนป้องกันไวรัสชนิดใหม่ในปลานิลและปลานิลแดง
นักวิจัย ม.เกษตร พัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสสาเหตุของโรคตายเดือนในปลานิลและปลานิลแดง เพิ่มอัตราการรอดตาย และลดอัตราป่วยจากเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ ลดการนำเข้ายาและสารเคมีจากต่างประเทศ ลดค่าใช้จ่ายต้นทุนการเลี้ยงปลา ช่วยให้ปลาปลอดโรค เพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
ปลานิลและปลานิลแดง เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก เช่น จีน อินโดนีเซีย อียิปต์ ฟิลิปปินส์ และอิสราเอล เป็นต้น สำหรับประเทศไทย ปลานิลและปลานิลแดงจัดเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมและปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว จึงมีการเพาะเลี้ยงทำเป็นฟาร์มปลานิลมากที่สุด ประมาณกว่า 200,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 9,700 ล้านบาทต่อปี การเลี้ยงปลานิลในประเทศไทยมีทั้งรูปแบบกระชังและบ่อดินตามแหล่งน้ำสำคัญทั่วทุกภูมิภาค มีเกษตรกรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้มากกว่า 300,000 ครอบครัว ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลและปลานิลแดงในประเทศไทยมักประสบปัญหาการระบาดของโรคตายเดือน โดยพบการตายในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่ย้ายปลาลงเลี้ยงในกระชังหรือบ่อดิน จึงเรียกว่า “โรคตายเดือน” อัตราการตายอยู่ระหว่าง 20- 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ลูกปลาที่รอดตายจากปัญหานี้หรือที่ผ่านเชื้อขนาด 10-30 กรัม จะมีราคาสูงขึ้นอย่างน้อยตัวละ 2-4 บาท ประเมินความเสียหายจากปัญหาโรคตายเดือนจะมีจำนวนลูกปลาสูญเสียระหว่าง 200-300 ล้านตัว ถ้าลูกปลาราคาตัวละ 1 บาท มูลค่าทางเศรษฐกิจของปัญหานี้อาจสูงถึง 300 ล้านบาทต่อปี
ผศ.น.สพ.ดร.วิน สุรเชษฐพงษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยาและวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะผู้วิจัย ได้ทำการศึกษาสาเหตุของปัญหาโรคตายเดือน โดยนำตัวอย่างปลาที่มีอาการตายเดือนมาตรวจวิเคราะห์ ทำให้ทราบว่าเชื้อที่ก่อโรคตายเดือน เป็น “ไวรัสชนิดใหม่” ที่เรียกว่า Tilapia Lake Virus (TiLV) ที่ยังไม่เคยมีรายงานมาก่อนในประเทศไทย จากการวิจัย พบว่า ปลาที่รอดตายจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้และไม่พบความเสียหายอีกตลอดช่วงเวลาที่เหลือของการเลี้ยง ดังนั้นการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ชนิดนี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นวัตกรรมนี้เป็นการพัฒนาวัคซีนทั้งในรูปแบบเชื้อตายและเชื้อเป็นเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ในปลานิลและปลานิลแดง รวมถึงกรรมวิธีการเพาะเลี้ยงเชื้อและการตรวจวินิจฉัยโรคในปลาที่ติดเชื้อ
การวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีน TILAVAC เพื่อป้องกันโรคตายเดือนที่เกิดจากเชื้อไวรัสอุบัติใหม่สายพันธุ์ไทยในปลานิลและปลานิลแดง ที่เรียกว่า ทิลาเปียเลคไวรัส ประกอบด้วย การเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อให้ได้ปริมาณเชื้อที่มากเพียงพอ การทำให้เชื้ออ่อนแรง (เชื้อเป็น) หรือฆ่าด้วยสารเคมี (เชื้อตาย) การเตรียมแอนติเจนสำหรับผลิตเป็นวัคซีน การพัฒนาวิธีตรวจหาปริมาณเชื้อในปลาที่ได้รับวัคซีน หรือติดเชื้อในธรรมชาติ การพัฒนาวิธีตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันในปลาที่ได้รับวัคซีน และการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและภาคสนาม วัคซีนจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของปลาให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายประมาณ 65-70% เปรียบเทียบกับปลาที่ไม่ได้รับวัคซีน ช่วยลดปัญหาปลาตายเดือนที่สร้างความเสียหายของเกษตรกร วัคซีนที่พัฒนาขึ้นนี้ มีทั้งแบบให้โดยการฉีดและโดยการแช่ในน้ำ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันปลา ทำให้เพิ่มอัตราการรอดตาย และลดอัตราป่วยจากเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ ลดการใช้ยาและสารเคมีที่ไม่จำเป็น ลดการนำเข้ายาและสารเคมีจากต่างประเทศ ช่วยลดค่าใช้จ่ายต้นทุนการเลี้ยงปลา เป็นการลดปัญหาเชื้อดื้อยา ขณะเดียวกันเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
ขอขอบคุณที่ท่านเข้ามาอ่านบทความวิจัยนี้ และขอความกรุณาสละเวลาตอบแบบสอบถามการให้บริการข้อมูล เพื่อการปรับปรุงต่อไปด้วย จะขอบคุณยิ่ง
คลิกที่นี่เพื่อตอบแบบสอบถาม—> https://goo.gl/forms/hcBXc1080pJmdUmF3
ผศ.น.สพ.ดร.วิน สุรเชษฐพงษ์ |
ที่มาข้อมูล : นิทรรศการงานวันเกษตรแฟร์ ประจำปี 2561 “เทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาเศรษฐกิจไทยไป 4.0” เจ้าของผลงาน : ผศ.น.สพ.ดร.วิน สุรเชษฐพงษ์ และคณะวิจัย ภาควิชาจุลชีววิทยาและวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตสื่อเผยแพร่ :วันเพ็ญ นภาทิวาอำนวย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มก. โทร. 02 561 1474 e-mail : rdiwan@ku.ac.th |