การพัฒนาคุณภาพของฝรั่งด้วยการห่อผล/กวิศร์ วานิชกุล, รณภพ บรรเจิดเชิดชู

เรื่อง  การพัฒนาคุณภาพของฝรั่งด้วยการห่อผล

ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่คนไทยนิยมรับประทานกันมากเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆของไทย เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ตลอดปี มีรสชาติดี ราคาไม่แพง มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะวิตามินซีและวิตามินเอ สามารถนำมาใช้รับประทานผลสด หรือนำผลมาแปรรูปเป็นน้ำฝรั่ง เยลลี่ฝรั่ง แยมฝรั่ง และผลิตภัณฑ์อีกมากมาย

ฝรั่งจัดเป็นผลไม้ที่มีขนาดกลาง มีกิ่งเหนียว แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปกว้าง สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ถ้าปลูกในดินร่วนซุยมีอินทรียวัตถุมาก และมีการระบายน้ำดี ก็จะยิ่งได้ผลดี ฝรั่งมีความต้านทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี จึงนิยมปลูกกันอยู่ทั่วไป ปัจจุบันพื้นที่ที่มีการปลูกกันมากได้แก่ จังหวัดนครปฐม ราชบุรี และบริเวณจังหวัดใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร และเริ่มขยายแหล่งปลูกไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝรั่งที่ปลูกในประเทศไทยมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมรับประทานสด ได้แก่ ฝรั่งที่มีผลใหญ่ ผลดก รสอร่อย เช่น พันธุ์กลมสาลี่ แป้นสีทอง ทูลเกล้า และพันธุ์เย็นสอง ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมที่เกิดการผสมกันระหว่างพันธุ์กลมสาลี่และพันธุ์ทูลเกล้า ซึ่งทั้งสองสายพันธุ์นี้เป็นฝรั่งสายพันธุ์เวียดนามที่มีผลขนาดใหญ่ ผิวขรุขระ กรอบ เนื้อหนา มีเมล็ดจำนวนมาก ผลไทยประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ลักษณะเฉพาะของฝรั่งพันธุ์เย็นสองได้แก่ มีลักษณะเนื้อกรอบ ผิวสวย รสชาติดี จึงเป็นที่นิยมปลูกในหมู่เกษตรกรที่ปลูกฝรั่งเพื่อการค้า

ฝรั่งสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี แต่วิธีที่เกษตรกรนิยม คือ การตอน โดยวิธีการตอนจะเหมือนกับการตอนกิ่งทั่วๆ ไปคือ ใช้มีดควั่นกิ่งให้รอยควั่นอยู่ใต้ข้อฝรั่งเล็กน้อย  รอยควั่นล่างห่างจากรอยควั่นบนเท่ากับเส้นรอบวงของกิ่งลอกเปลือกไม้แล้วขูดเยื่อเจริญออกให้หมด จากนั้นนำตุ้มตอนที่บรรจุด้วยขุยมะพร้าวหุ้มให้รอบรอยควั่นแล้วมัดด้วยเชือกฟางให้แน่น หลังจากทำการตอนแล้วประมาณ 1 เดือน รากจะเริ่มงอก  อย่าเพิ่งรีบตัดควรปล่อยให้รากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก่อน กิ่งฝรั่งที่ตัดออกจากต้น ควรตัดใบและกิ่งที่มีมากเกินไปทิ้งบ้างเพื่อป้องกันการคายน้ำ แล้วนำกิ่งตอนไปแช่ในน้ำให้ท่วมตุ้มตอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปชำต่อไป โดยนำกิ่งตอนที่ได้ชำใสถุงพลาสติกที่บรรจุดินผสม เมื่อต้นแข็งแรงแล้วจึงนำไปปลูกในแปลงต่อไป

การปลูกฝรั่ง เมื่อเลือกพื้นที่ได้แล้ว ก็ควรจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3×3 เมตรในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้น ถ้าปลูกในที่ลุ่มน้ำท่วมถึงการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่องประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง แต่ต้องมีการปรับปรุงดินโดยการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในประมาณที่เท่าๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย ขนาดของหลุมปลูกควรกว้าง 0.5 เมตร ยาว 0.5 เมตร และลึก 0.5 เมตร ที่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้าง เพื่อเปลี่ยนสภาพดินในหลุมให้ดีขึ้น ตากดินไว้ 10-15 วัน ให้แสงแดดส่องฆ่าเชื้อโรคในหลุมปลูกและในดิน ผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ต่อดิน 2 ส่วน และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยร็อคฟอสเฟต 0.5 กิโลกรัม แล้วจึงกลบดินลงไปในหลุมให้ดินมีระดับสูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดา ประมาณ 10 เซนติเมตร เหตุผลที่ต้องกลบดินให้สูงกว่าระดับดินเดิมเนื่องจากเมื่อเวลาปลูกแล้วดินจะมีการยุบตัวเล็กน้อย ซึ่งทำให้พอดีกับระดับดินเดิม และถ้าไม่เผื่อดินไว้ เมื่อดินยุบตัวจะเป็นแอ่งและมีน้ำขังที่หลุมปลูกซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รากเน่าตายได้หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร  แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่ง จนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้

หลังจากที่ได้ทำการปลูกฝรั่งแล้ว ต้องหมั่นรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้ หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณตามความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะทำให้เกิดการร่วง การแตกและขนาดของผลฝรั่ง

ในการปลูกฝรั่งควรมีการใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตรที่แนะนำ คือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้นทุกๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นและปริมาณผลผลิต หากจะให้ฝรั่งมีรสหวานขึ้นให้ใส่ปุ๋ยเกร็ดสูตร 5-30-30 พ่นก่อนเก็บผล 1 เดือน โดยนำปุ๋ยเกร็ดมาผสมน้ำฉีดพ่น ฉีดสัปดาห์ละครั้ง จากนั้นประมาณ 15 วันจึงเก็บผลฝรั่งออกขายได้

ฝรั่งเป็นพืชที่มีรากไม่ลึกมากนัก ดังนั้น เกษตรจึงไม่ควรพรวนดินลึก เพราะจะทำให้รากของต้นฝรั่งขาดได้ และควรมีการกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้วิธีการถางก็ได้ ในระหว่างที่ต้นฝรั่งยังเล็กอยู่ ควรปักไม้ค้ำกันลมป้องกันไม่ให้ต้นโยก เพราะอาจกระทบกระเทือน ทำให้ต้นฝรั่งไม่โต การปักไม่ค้ำกันลมควรใช้ไม้รวกหรือแขนงไม้ไผ่ยาว 1 เมตร ค้ำกิ่งต้นละ 1-2 อัน อายุประมาณ 6 เดือน ฝรั่งจะเริ่มออกผล ควรใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็กยาว 1 เมตร หรือมากกว่านั้น ปักไว้ใกล้กิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้ เพราะถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาด

การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อน และมีช่อดอกออกมาด้วย ทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผลและการพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง นอกจากนี้ ยังทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นอน ผลมีขนาดใหญ่ ควรมีการตัดแต่งกิ่งทุกปี เพื่อกระตุ้นการเจริญและการสร้างตาดอก ถึงแม้ฝรั่งจะเป็นไม้ผลที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตเร็ว แต่ฝรั่งก็มีโรคและแมลงรบกวนเช่นกัน และโรคที่สำคัญก็คือ โรคจุดสนิม เกิดจากเชื้อราเข้าทำลายใบ โดยจะเห็นจุดขนาดเล็ก เริ่มจากจุดสีเขียวแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีสนิมเหล็กและเป็นขุยคล้ายกำมะหยี่  ถ้าเป็นที่กิ่งจะทำให้เป็นขุยและกิ่งแตกแห้งตาย การป้องกันอาจใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา หากเป็นที่กิ่งอาจใช้สารเคมีผสมกับปูนแดงข้นๆ ทาบริเวณที่เป็นโรค

โรคแอนแทรคโนส เกิดจากเชื้อราเข้าไปทำลายผลอ่อน ผลและใบสุก อาการบนใบจะเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ แผลอาจทะลุ ถ้าเป็นผลอ่อนจะทำให้มีสีน้ำตาลและเน่าแห้งไปในที่สุด แต่ถ้าเป็นระยะผลสุกหรือใกล้สุกจะเกิดแผลเน่าสีน้ำตาล อาการจะลุกลาม แผลจะบุ๋มลงเล็กน้อย มีรอยจ้ำสีคล้ำและเมือกสีแสดปรากฏให้เห็น ป้องกันได้โดยใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราโดยพ่นสารเคมีก่อนเก็บผล 1 เดือน

เพลี้ยแป้ง จะดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบอ่อน กิ่งอ่อน และช่อดอกทำให้แห้งเฉาหรือใบผิดรูปร่างและผลผลิตลดลง ป้องกันโดย พ่นสารละลายอโซดริน 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วต้น ใบ กิ่งอ่อนและผลทุกๆ 7 วัน ประมาณ 2-3 ครั้ง และหยุดพ่นสารเคมีอย่างน้อย 7 วันก่อนการเก็บเกี่ยวผล

แมลงที่เป็นปัญหาสำคัญของฝรั่ง คือ แมลงที่เข้าทำลายผลโดยเฉพาะแมลงวันผลไม้ เป็นแมลงที่ทำความเสียหายต่อผลฝรั่งอย่างรุนแรงแมลงวันผลไม้จะวางไข่ใต้ผิวฝรั่งสุก หรือระยะที่ผิวอ่อน พอที่แมลงจะวางไข่ใต้ผิวได้ ตัวอ่อนจะกินเนื้อฝรั่งเป็นอาหารทำให้ผลเสียหาย วิธีการกำจัดแมลงวันผลไม้มีหลายวิธี เช่น การเก็บผลฝรั่งที่ตกอยู่ไปทำลาย การปลูกต้นไม้หรือสารเคมีที่มีกลิ่นดึงดูดแมลงวันผลไม้เข้าไปตอม และใช้สารฆ่าแมลงเข้าไปกำจัด  อีกวิธีหนึ่งคือ การใช้เหยื่อพิษฆ่าแมลงผลไม้ ซึ่งวิธีการกำจัดที่กล่าวมานี้ไม่นิยมปฏิบัติกันเพราะไม่คุ้มค่า วิธีที่ชาวสวนฝรั่งนิยมใช้กันคือการห่อผล นอกจากช่วยป้องกันแมลงวันผลไม้แล้วยังทำให้ผิวฝรั่งสวย

การห่อผลฝรั่ง เกษตรกรจะห่อเมื่อผลยังเล็กมีเปลือกแข็ง แมลงวันผลไม้ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ โดยห่อผลเมื่อผิวมีสีเขียวเข้ม ขนาดผลเท่าลูกหมากดิบ นอกจากฝรั่งแล้ว ยังมีผลไม้หลายชนิดที่นิยมห่อผลด้วย เช่น ชมพู่ มะม่วง กระท้อน ลิ้นจี่ ลำไย ทับทิม กล้วย แตงเทศ แอปเปิ้ล สาลี่ และองุ่น การห่อผลนอกจากช่วยป้องกันโรคและแมลงวันผลไม้แล้ว ยังทำให้ผิวมีสีสวย ช่วยป้องกันสารพิษตกค้างที่เกิดจากการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดโรคและแมลงได้ นอกจากนี้ วัสดุห่อผลที่ต่างชนิดกันยังทำให้คุณภาพของผลแตกต่างกันด้วย ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการห่อผลไม้ ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว ถุงพลาสติกหูหิ้วสีฟ้า กระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ ถุงรีเมย์ ถุงมุ้งไนลอน ใบตองแห้ง และกระดาษแก้ว

วัสดุที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ถุงห่อผลไม้รีเมย์ ทำจากเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ มีน้ำหนักเบา เหนียว มีคุณสมบัติโปร่ง ทำให้แสงแดด อากาศ และน้ำ ผ่านได้สะดวก ช่วยให้สีผิวของผลไม้สวยตามธรรมชาติ และมีรสชาติดีขึ้น เนื่องจากแสงแดดผ่านเข้าไปในผลได้ จึงมีการสะสมอาหารในผลมากขึ้นจนผลโตเต็มที่ ลดการทำลายของศัตรูผลไม้ เช่น แมลงวันผลไม้ หนอนเจาะขั้วผลไม้ และผีเสื้อมวนหวาน ทำให้ผลผลิตสูงขึ้น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของสารฆ่าแมลง สะดวกในการเก็บผล เพราะสามารถมองเห็นผลผ่านถุงได้ ทำให้ทราบกำหนดการเก็บผลเมื่อแก่ได้ มีความทนทานต่อความร้อนและแสงแดด กรดและด่างได้ ไม่เปลี่ยนสภาพเมื่อถูกความชื้นและไม่ขึ้นราหรือเน่าเปื่อย สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกหลายครั้ง

ถุงพลาสติกชนิดมีหูหิ้วหรือถุงสีสำหรับบรรจุสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไป ยกเว้นของร้อน ถุงชนิดนี้ผลิตจากแผ่นโพลีเอทิลีน หรือแผ่นพลาสติกเก่าที่ใช้แล้วนำมาหลอมละลายใหม่ ลักษณะแผ่นบางมีสีสันสวยงาม โพลีเอทิลีนมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นไม่ให้ผ่านเข้าออก แต่ยอมให้ก๊าซผ่านได้ สามารถทนทานต่อการฉีกขาด ไม่เปียกน้ำ  ทำให้ผลไม้ได้รับแสงแดดตลอดเวลา

ถุงกระดาษสีน้ำตาล เป็นกระดาษอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้เป็นวัสดุห่อผล คุณสมบัติต่างๆ คล้ายกระดาษหนังสือพิมพ์ แต่ทนการฉีกขาดได้ดีกว่า

ถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ สามารถป้องกันแสงแดด นก ค้างคาวและแมลงได้ หาง่าย ราคาถูก แต่มีข้อเสียที่ฉีกขาดและเสียหายง่ายทำให้สิ้นเปลืองเวลาและแรงงาน

จากผลงานวิจัยเรื่อง “วัสดุห่อต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของผลฝรั่งพันธุ์เย็นสอง ของ รศ.ดร.กวิศร์ วานิชกุล จากสถานีวิจัยปากช่อง สถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ บางเขน และ อาจารย์รณภพ บรรเจิดเชิดชู จากภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งผลการศึกษาการเจริญเติบโตและคุณภาพของผลฝรั่งพันธุ์เย็นสองที่ไม่ห่อผลและห่อผลด้วยวัสดุต่างชนิดกัน คือ ถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว , ถุงพลาสติกหูหิ้วสีฟ้า , ถุงพลาสติกหูหิ้วสีเหลือง , ถุงกระดาษสีน้ำตาล และถุงรีเมย์ พบว่า วัสดุห่อผลแต่ละชนิดที่ใช้ในการทดลองมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป คือ

– ถุงรีเมย์ ทำให้อากาศและน้ำผ่านได้สะดวก ช่วยลดความเข้มแสงที่ส่องเข้ามายังผล ลดการทำลายของแมลงและโรค สะดวกในการเก็บเกี่ยวผลฝรั่ง เพราะสามารถเห็นฝรั่งผ่านถุงได้

– ถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว สีฟ้า และสีเหลือง มีคุณสมบัติป้องกันความชื้นและอากาศให้ผ่านเข้าออกได้บ้าง ราคาถูก หาซื้อง่าย ช่วยลดความเข้มข้นแสงที่ส่องเข้ามายังผล และลดการทำลายของโรคและแมลงได้ ถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาวมีความหนาน้อยกว่าถุงพลาสติกหูหิ้วสีฟ้า และสีเหลือง เมื่อแดดจัด ถุงพลาสติกสีขาวจะแห้งกรอบ และฉีกขาดได้ง่าย

– ส่วนถุงกระดาษสีน้ำตาล สามารถป้องกันแสงแดด ลดการเข้าทำลายของโรคและแมลงได้ แต่เมื่อเปียกน้ำ ถุงจะเปื่อยขาดง่าย

การใช้วัสดุห่อผลนั้นจะทำให้ความกว้าง น้ำหนักผล ความหนาเนื้อ และรสชาติของฝรั่งเพิ่มขึ้น ส่วนความเสียหายของผลเนื่องจากโรคและแมลงเข้าทำลายผลฝรั่งลดน้อยลง จึงทำให้แน่ใจได้ว่า การห่อผลฝรั่งจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งปลอดภัยจากโรคและแมลงและทำให้คุณภาพของฝรั่งดีขึ้น

เรียบเรียงโดย

วิทวัส ยุทธโกศา นักวิชาการโสตทัศนศึกษา สวพ.มก. 
โทรศัพท์ 0-2561-1474