![]() |
การเพิ่มมูลค่าปลานิลด้วยกรดไขมันโอเมก้า
3 โดยการใช้น้ำมันปลาทูน่าในอาหาร
Value Added of Tilapia by Omega - 3 Fatty Acid form Tuna Oil Supplemented Diet ................................................................................................................................................ อรพินท์ จินตสถาพร ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีอาหารสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
จากสภาวะการณ์ในปัจจุบันที่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นจึง มีความต้องการอาหารประเภทโปรตีนสูงมากขึ้น ปลานิลจัด เป็นแหล่งของโปรตีนที่ไม่ด้อยไปกว่าสัตว์บก ซึ่งโดยทั่วไป แล้วปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลานิลมีต่ำกว่าในปลา ทะเลมาก ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 3 จะมีผลต่อการพัฒนาของ สมอง และการมองเห็นในเด็กทารก ช่วยลดปริมาณ ไตรกลีเซอไรด์ หรือโคเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรค หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคหัวใจ ลดการปวดไมเกรน ลดอาการอักเสบของข้อชนิดรูห์มาตอยด์ และยังช่วยในการรักษาโรคความจำเสื่อม เป็นต้น |
![]() ![]() |
ดังนั้นผู้ที่บริโภคปลาทะเลจึงได้รับกรดไขมันโอเมก้า
3 เพียงพอ ซึ่งแนวทางหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าปลานิลด้วยกรด ไขมันโอเมก้า 3 เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 เพียงพอเช่นเดียวกับการบริโภคปลาทะเล สามารถทำได้โดย การใช้น้ำมันปลาทูน่าผสมในอาหารปลานิล เนื่องจากน้ำมัน ปลาทูน่าเป็นแหล่งของกรดไขมันโมก้า 3 |
ซึ่งพบว่าการใช้น้ำมันปลาทูน่าที่ระดับ
9 เปอร์เซ็นต์ ในสูตร อาหารปลานิล เลี้ยงเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ก่อนการจับขาย มีผล ทำให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ในเนื้อปลาเพิ่มขึ้นสูงจาก 13.24 % เป็น 18.00 % โดยมีค่าใกล้เคียงกับปลาทะเล และการบริโภค เนื้อปลานิลนี้ 3-4 กรัม/สัปดาห์ ก็ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 เพียงพอแล้ว การยอมรับผลิตภัณฑ์ด้านกลิ่นคาว รสชาติ แล ะความพึงพอใจ พบว่าการใช้น้ำมันปลาทูน่าไม่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงคุณภาพเนื้อ |
ขั้นตอนการผลิตอาหาร สูตรอาหารมีระดับโปรตีนที่ 30 เปอร์เซ็นต์ และพลังงานย่อยได้ที่ 3100 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัม วัตถุดิบ ประกอบด้วยปลาป่น 23 กก. กากถั่วเหลือง 35 กก. รำละเอียด 10 กก. ข้าวโพด 18 กก. สารเหนียว 2 กก. พรีมิกซ์ 2 กก. สารเติมเต็ม 1 กก. และน้ำมันปลาทูน่า9 กก. ควรเติมสารกันหืน BHT ที่ระดับ 250 ส่วนใน ล้านส่วน (250 กรัม/อาหาร 100 กิโลกรัม) เพื่อชะลอการเกิดความหืนเนื่องจากน้ำมันปลาทูน่าเกิดความหืน ได้ง่าย |
![]() |
อาหารปลานิลที่มีการใช้น้ำมันปลาทูน่าที่ระดับ
9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับอาหาร ปลานิลโดยทั่วไป พบว่ามีปริมาณกรด ไขมันโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้นจาก 9.00 มก./กรัม เป็น 35 มก./กรัม ดังนั้นจึงได้อาหารปลานิลที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เมื่อ มีการใช้น้ำ |