![]() |
การเลี้ยงกบและตะพาบน้ำ
Frog and Soft-Shelled Turtle Culture ............................................................................................................................................... วิทย์ ธารชลานุกิจ ประวิทย์ สุรนีรนาถ และ ประทักษ์ ตาบทิพย์วรรณ ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
กบ
สัตว์สะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบกและตะพาบน้ำ เป็นสัตว์ เลื้อยคลานที่พบเห็นทั่วไปตามแหล่งน้ำน้ำจืดและแหล่งน้ำ กร่อยบางแห่งของประเทศไทย และเป็นสัตว์ที่นิยมนำมา บริโภคเป็นอาหารเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความต้องการ สัตว์น้ำทั้งสองชนิดนี้เป็นที่ต้องการเป็นปริมาณมากในตลาด ต่างประเทศ เช่น ความต้องการกบในประเทศฝรั่งเศส และ ความต้องการตะพาบน้ำในประเทศ จีน เป็นต้น ทำให้สัตว์ เหล่านี้ในธรรมชาติลดน้อยลงจนน่าวิตกทำให้คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เริ่มต้นทำการศึกษา ค้นคว้า และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งสองชนิดมาตั้งแต่ปี 2520 จนสามารถเผยแพร่ให้เป็นเป็นอาชีพของเกษตรกร และเป็นสินค้าส่งออกนำรายได้เข้าประเทศมาตลอดจนถึง ปัจจุบัน |
การเลี้ยงกบ ในปี พ.ศ. 2520 คณะประมงได้เริ่มต้นโครงการ ทดลองเพาะ พันธ์กบนา ที่จับได้จากธรรมชาติรวม 2 ชนิด ได้แก่ Rana tigrina และ Rana rugulosa จนสามารถเพาะพันธุ์กบโดยวิธีการเลียนแบบ ธรรมชาติภายใต้การควบคุม ได้พันธุ์กบที่เพียงพอต่อการนำไปเลี้ยง ต่อไป การศึกษาวิจัยในการเลี้ยงกบได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดย การศึกษา รูปแบบการเลี้ยง ลักษณะของบ่อ การให้อาหาร และศึกษา ประเภทอาหารที่ใช้เลี้ยง จากการใช้อาหารธรรมชาติ ได้แก่ หนอน แมลง ปลาเป็ด มาเป็นอาหารสำเร็จรูปเพื่อการเลี้ยงลูกอ๊อด กบวัยอ่อน จน ถึงกบขนาดใหญ่ ในปี พ.ศ. 2521 งานวิจัยที่ดำเนินการได้แก่การ ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่ใช้เลี้ยง ตลอดจนการป้องกัน และรักษากบให้มีสุขภาพดีในระหว่างการเลี้ยง |
พร้อมกับการศึกษาการเพาะเลี้ยงกบนาของไทย
จากการเริ่มต้นจนปัจจุบัน
การเลี้ยงกบได้แพร่หลายทั่ว |
การเลี้ยงตะพาบน้ำ ตะพาบน้ำเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ดำเนินการค้นคว้า ศึกษาวิธีการเพาะขยายพันธุ์และวิธีการเลี้ยงเป็นรายแรกมาตั้งแต่ ปี พ.ศ 2518 โดยที่แต่เดิมนั้นตะพาบน้ำจับจากธรรมชาติ นำมา บริโภคภายในประเทศตลอดมา และส่งไปจำหน่ายยังฮ่องกง ซึ่งบาง ส่วนส่งไปจำหน่ายต่อยังประเทศจีนและบางประเทศในภูมิภาค เอเซีย โดยที่ชาวจีนนิยมใช้เป็นอาหารและเป็นยาบำรุงมีความต้อง การเป็นอันมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ปริมาณตะพาบน้ำตามธรรมชาติลด ลงอย่างรวดเร็ว คณะประมงจึงได้ดำเนินการศึกษาพัฒนาวิธีการ เพาะเลี้ยงตะพาบน้ำ 2 ชนิด คือ ตะพาบน้ำพันธุ์ไทย Trionyx catalageneus และตะพาบน้ำพันธุ์จากไต้หวัน ( Trionyx sianensis ) ซึ่งตะพาบน้ำพันธุ์จากไต้หวัน จะมีขนาดเล็ก และใช้ระยะเวลา การเลี้ยงสั้นกว่าตะพาบน้ำพันธุ์ไทย |