1. ความเป็นมาของโครงการ
ปีพุทธศักราช 2538 ศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้มีโอกาสถวายรายงานเกี่ยวกับการนำก๊าซจากหลุมฝังกลบขยะ มาผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ในวโรกาสเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรอุทยานวิจัยในงานวันเกษตรแห่งชาติประจำปี 2538 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวทางบำบัดและใช้ประโยชน์จากขยะ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือมูลนิธิชัยพัฒนา ฉบับเดือนเมษายน 2538 เกี่ยวกับการกำจัดขยะครบวงจร โดยให้แบ่งพื้นที่ฝังกลบออกเป็น 2 ส่วน ความว่า
ส่วนแรก ให้ใช้แก๊สจากขยะให้หมดก่อน ต่อจากนั้นก็นำขยะไปร่อนแยกส่วนประกอบต่าง ๆ ส่วนที่เป็นสารปรับปรุงดินก็ให้นำไปปลูกพืช สวนที่เหลือที่ยังสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ให้นำไปเผาเพื่อที่จะนำเอาพลังงานความร้อนไปใช้ประโยชน์ เมื่อเกิดเถ้าถ่านขึ้นก็นำไปผสมกับวัสดุที่เหมาะสมเพื่ออัดเป็นแท่ง ซึ่งอาจนำไปใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างต่อไปได้ เมื่อพื้นที่ส่วนแรกว่างลง ก็สามารถนำขยะมาฝังกลบได้ใหม่
ส่วนที่สอง ขณะที่ดำเนินการร่อนแยกขยะในพื้นที่ส่วนแรกก็ใช้ประโยชน์จากแก๊สควบคู่กันไปก่อน เมื่อแก๊สหมดแล้ว จึงดำเนินการลักษณะเดียวกันกับที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ส่วนแรก ซึ่งถ้ากระทำได้อย่างต่อเนื่องโดยจัดเวลาให้เหมาะสม ก็จะนำให้มีพื้นที่ฝังกลบหมุนเวียนตลอดไป
นอกจากพระราชทานพระราชดำริแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวที่คณะฯ ทำงานได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติแล้ว เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชกระแสให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิชัยพัฒนานำเงินที่มูลนิธินายห้างโรงปูนหนึ่งทูลเกล้าถวายเงินสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา จำนวน 1 ล้านบาท จัดตั้งเป็น “กองทุนบำบัดและใช้ประโยชน์จากขยะ” ในมูลนิธิชัยพัฒนา
2. ผลการดำเนินการโครงการบำบัดและใช้ประโยชน์จากขยะ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 2538 จนถึงปัจจุบัน ปี 2552 เป็นระยะเวลาประมาณ 14 ปี
2.1 เทคโนโลยีที่นำมาใช้ ประกอบด้วย
ขั้นตอนที่ 1 พัฒนาองค์ความรู้ในการออกแบบระบบฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานสากล
ขั้นตอนที่ 2 คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการนำก๊าซจากขยะมาผลิตกระแสไฟฟ้าไห้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพตามศักยภาพของพื้นที่ฝังกลบ
ขั้นตอนที่ 3 คิดค้นและพัฒนาวิธีการรื้อบ่อขยะเก่ามาแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดิน วัสดุก่อสร้างและพลังงานรูปแบบต่างๆ ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพตามหลักสถิติ
โดยมีหลักการ ตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 ผังสรุปการบำบัดและใช้ประโยชน์จากขยะ ตามแนวพระราชดำริ
2.2 ผลการดำเนินงาน
การดำเนินงานโครงการเริ่มตั้งแต่ปี 2538 มีผลดำเนินงานดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นที่ปรึกษาออกแบบระบบฝังกลบขยะอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ให้กับหน่วยงานต่างๆ ประมาณ 10 แห่ง ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ของบริษัท กลุ่ม 79 จำกัด ได้เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการออกแบบขยะขนาด 2,000 ตันต่อวัน ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้รับมาตรฐานสากลด้านการฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ (ISO 14001, 2004)
ขั้นตอนที่ 2 พัฒนากระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซขยะ โดยศูนย์ฯ ร่วมมือกับบริษัทกลุ่ม 79 จำกัดและบริษัทมินเซนแมชชีนเนอรี่ จำกัด และหน่วยงานราชการต่างๆ รวบรวมแก๊สขยะเป็นหลุมดูดแก๊สแบบแนวนอน อัตราการดูดแก๊ส 150 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ผลิตกระแสไฟฟ้าเครื่องยนต์ผลิตกระแสฟ้าขนาด 230 กิโลวัตต์ ซึ่งในปี 2552 ผลิตไฟฟ้าได้ 480,000 ยูนิต
ขั้นตอนที่ 3 ศูนย์ฯ ร่วมกับบริษัทเมืองสะอาด จำกัด ทำการพัฒนากระบวนการวางแผนการใช้เครื่องจักรขุดรื้อขยะเก่ามาแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดินวัสดุก่อสร้างและผลิตน้ำมันโดยใช้หลักการทางสถิติ นอกจากนี้ ได้พัฒนาเครื่องจักรด้านการแปรรูปวัสดุเหลือใช้เป็นพลังงานและสารปรับปรุงดินในรูปแบบต่างๆ เช่น ระบบผลิตน้ำมันจากพลาสติก (Plastic Oil) ระบบผลิตวัสดุก่อสร้างไม้พลาสติก (Wood Plastic) ตามรูปที่ 3 เพื่อเป็นต้นแบบการขยายผลในอนาคต
รูปที่ 3 ระบบขุดรื้อขยะเก่ามาใช้ประโยชน์
3. การคิดค้นระบบการแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิงพลังงานและปุ๋ย
องค์ประกอบของขยะชุมชนสามารถแบ่งแยกประเภทได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ขยะนำกลับมาใช้ใหม่ ขยะประเภทสารอินทรีย์ และขยะคัดทิ้ง ขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ สามารถส่งให้กับโรงงาน ขยะคัดทิ้งจะถูกนำไปฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ ส่วนขยะอินทรีย์สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานทางเลือก ปุ๋ยอินทรีย์หมัก ทั้งระบบการใช้อากาศ ไม่ใช้อากาศ รวมทั้งใช้ระบบเครื่องจักรที่ผลิตก๊าซร้อน รูปที่ 4, 5, 6 เป็นตัวอย่างผลการดำเนินการที่สามารถใช้เป็นต้นแบบใช้งานในชุมชนได้
รูปที่ 4 อุปกรณ์ผลิตถ่านอัดแท่ง
รูปที่ 5 ระบบผลิตก๊าซร้อนจากแก๊สซิฟายเออร์
รูปที่ 6 ระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากเศษอาหาร
4. สรุปผลการดำเนินงาน
การบำบัดและใช้ประโยชน์จากขยะเป็นเทคโนโลยีที่ดำเนินการตามแนวพระราชดำริ ในการจัดการขยะอย่างครบวงจรและยั่งยืน โดยการหมุนเวียนพื้นที่ ด้วยเทคโนโลยี 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 นำขยะมาฝังกลบอย่างถูกลักษณะ ขั้นตอนที่ 2 การรวบรวมแก๊สขยะผลิตกระแสไฟฟ้า ขั้นตอนที่ 3 เมื่อดูดแก๊สหมด นำขยะที่ผ่านการย่อยสลายแล้วมาแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดิน วัสดุก่อสร้าง และพลังงานในรูปแบบต่างๆ เมื่อพื้นที่ว่างลง สามารถนำขยะมาฝังกลบต่อไปได้ และเข้าสู่ระบบหมุนเวียนพื้นที่แบบยั้งยืน โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ในลักษณะการเรียนรู้แบบปฏิบัติงานจริง (Learning by doing) นำอุปสรรคและปัญหาข้อขัดข้องมาแก้ไข ปรับปรุงจนเป็นนวัตกรรมใหม่ในกระบวนการจัดการขยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไป
|