มลพิษอากาศและองค์ประกอบธาตุจากฝุ่นในอากาศที่เก็บจากสถานีตรวจวัด คุณภาพอากาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
Air Pollutions and Elemental Compositions in the Particulate Matter Measured by
AQM Si Racha, Chonburi

                 ปัจจุบันอากาศทั่วโลกซึ่งรวมประเทศไทยด้วยนั้นมีมลพิษปนเปื้อนอยู่มาก ทั้งอากาศที่ใช้หายใจภายนอกอาคาร (Outdoor Air Pollution) และภายในอาคาร (Indoor Air Pollution) และเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้สูญเสียค่าจ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นอย่างมาก การวิจัยในเมืองต่างๆทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าระดับของฝุ่นละอองฝนอากาศมีความสัมพันธ์ต่ออัตราการตายก่อนเวลาอันควร และการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด หวัด โดยเฉพาะผู้ที่มีความต้านทานของร่างกายต่ำ เช่น คนสูงอายุ และเด็กเล็ก ในขณะที่ฝุ่นละอองซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่เป็นฝุ่นที่ทำให้เกิดความรำคาญ จากข้อมูลทางสถิติ ซึ่งรวบรวมโดยสำนักงานสาธารณะสุข อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี (แบบ รง.504) พบว่ามีผู้ป่วยใน อำเภอศรีราชา ที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ (Diseases of respiratory system) ในสถานพยาบาลของรัฐ (สถานีอนามัย 12 สถานี รวมโรงพยาบาลอ่าวอุดมและโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา) ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึงเดือน กันยายนของทุกปี รวม 5 ปี แสดงในตารางที่ 1

ตารางที่ 1 จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคระบบทางเดินหายใจในอำเภอศรีราชาระหว่างปี พ.ศ. 2547-2552

ปี พ.ศ.

2548

2549

2550

2551

2552

จำนวน  (คน)

46163

56593

65136

59030

58016

(ที่มา: แบบ รง.504, สำนักงานสาธารณะสุข อำเภอศรีราชา)

                 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าประตู 1 เป็นสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่ใช้สำหรับตรวจวัดปริมาณ CO  O3 SO2 NOx  PM10 สารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ  Volatile Organics Compounds, VOCs ไม่น้อยกว่า 5  ชนิด ได้แก่ Benzene, Toluene, Ethyl benzene, m&p-Xylene  และ O-Xylene ) และสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยา ( wind speed, wind direction, rain gauge etc. )พร้อมการบันทึก วิเคราะห์ผลการตรวจวัดและจัดทำรายงาน)

รูปที่1 (ก) แสดงตำแหน่งของ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา (ข) สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ (ค) ห้องควบคุม

            งานวิจัยนี้เป็นการตรวจติดตามคุณภาพอากาศในรอบปีที่ผ่านมาโดยเก็บตัวอย่างจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ของคณะทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา และต้องการวิเคราะห์ลักษณะจุลโครงสร้างของฝุ่น และองค์ประกอบธาตุที่ปะปนกับฝุ่น 2 ชนิดคือฝุ่นละอองรวม TSP และ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) โดยเก็บตัวอย่างจากสถานีตรวจวัดฯ วิธีการศึกษาจะใช้เทคนิค SEM/EDS

วิธีการและเครื่องมือที่ใช้

              สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา โดยคณะทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับผิดชอบตั้งอยู่บริเวณทางเข้าประตู ๑ (13º07´15.42´´N, 100º55´09.28´´E) เป็นสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่ใช้สำหรับตรวจวัดปริมาณก๊าซพิษต่างๆ แสดงในตารางที่ 2 และวัดปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศ สารอินทรีย์ระเหยในบรรยากาศ ได้แก่ เบนซีน โทลูอีน เอธทิล เบนซีน เมตา,พาราไซลีน และโอไซลีน และวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยา (ความเร็วลม ทิศทางลม และปริมาณน้ำฝน เป็นต้น) พร้อมบันทึก วิเคราะห์ผลการตรวจวัดและจัดทำรายงาน เครื่องมือที่ใช้ตรวจวัดแต่ละชนิดเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน โดยได้รับการรับรองจาก US.EPA (1987)

ก๊าซพิษ

               มลพิษทางอากาศประเภทก๊าซพิษ ที่วัดได้จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อาศัยเทคนิคการวัดต่างๆ กันรายละเอียดด้านเทคนิค ความแม่นยำในการวัด และค่าต่ำสุดที่สามารถวัดได้ แสดงในตารางที่ 2 สามารถตรวจวัดและแสดงค่าการตรวจวัดได้แบบต่อเนื่อง

ฝุ่นละออง

                 ฝุ่นละอองที่ PM10 เก็บโดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศซึ่งภายในระบบมีทำงานแบบอัตโนมัติใช้หลักการ Tapered Element Oscillating Microbalance (TEOM) สามารถตรวจวัดและแสดงค่าการตรวจวัดได้แบบต่อเนื่องฝุ่นละอองรวม (TSP) ซึ่งเก็บตัวอย่างได้จากเยื่อกรอง (Teflon) ที่ใช้ดักฝุ่นละอองรวมในท่อก๊าซหลัก (Main Flow, stack filter unit) บันทึกน้ำหนักของเยื่อกรองก่อน และหลังการเก็บตัวอย่าง บันทึกอัตราการไหลของอากาศและช่วงเวลาที่เก็บตัวอย่างฝุ่นเพื่อคำนวณปริมาณฝุ่นละอองในอากาศฝุ่นละอองที่มีขนาดไม่เกิน 10 µm ได้จากฝุ่นละอองที่ถูกคัดแยกขนาดแล้วตกโดยอิสระลงบนกระดาษกรอง (gent PM10 air sampler)

ตารางที่ 2 รายละเอียดของอุปกรณ์วัดมลพิษทางอากาศประเภทก๊าซพิษ

มลพิษอากาศ/ชื่อ

เทคนิค/หลักการ

ช่วงการวัด

ความแม่นยำ

ค่าต่ำสุดที่วัดได้

SO2 ANALYZER

UV Fluorescence

0-50 0 ppb ถึง
0-20 ppm

1 %
จากค่าที่อ่านได้

0. 5 ppb  

NO-NO2-NOx ANALYZER

Chemiluminescence

0-50 0 ppb ถึง
0-20 ppm

1 %
จากค่าที่อ่านได้

0.5 ppb 

CO ANALYZER

Non-Dispersive Infrared Detection (NDIR)

0-50 ppm ถึง
0- 2 00 ppm

1 %
จากค่าที่อ่านได้

0.0 5 ppm

OZONE ANALYZER

UV Absorption

0-500 ppb ถึง
0-10 ppm

1 %
จากค่าที่อ่านได้

0.5 ppb

หมายเหตุ เครื่องมือวัดทุกชนิดได้รับการรับรองจาก U.S.EPA

การวิเคราะห์จุลโครงสร้างและองค์ประกอบธาตุของฝุ่นละออง

                การวิเคราะห์องค์ประกอบของตัวอย่างฝุ่นละอองที่เก็บได้จากกระดาษกรอง ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (Scanning Electron Microscope, SEM Phillips: XL30&EDAX) โดยการติดกระดาษกรองที่มีฝุ่นขนาดประมาณ 2x2 mm2 บนที่จับยึดสารตัวอย่าง (Stub or Sample Holder) เคลือบทองบนผิวแล้วนำไปถ่ายภาพด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด และวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุที่จุดต่างๆ ด้วยการวัดพลังงานที่เกิดจากการกระเจิงรังสีเอ็กซ์

ผลการทดลองและวิจารณ์

ตารางที่ 3 แสดงความเข้มข้นมลพิษอากาศจากเดือนกรกฎาคม 2550 ถึง เดือนกรกฎาคม 2551

month

Average

CO (1 hr)

NO2 (1 hr)

SO2 (1 hr)

O3 (1 hr)

PM10 (24 hr)

Jul-07

Min-Max

0.23-1.43

3.9-64

0.3-76.3

0.6-109

18-64

Aug-07

Min-Max

0.27-3.08

1.9-52.6

0.4-55.8

0.1-7.3

27-50

Sep-07

Min-Max

0.78-2.54

0-37.5

0-91.3

0.1-20.3

22-76

Oct-07

Min-Max

0.74-2.48

0.3-42.2

2.2-41.7

0.4-47.7

24-114

Nov-07

Min-Max

0.73-2.49

1.3-56

2.3-10.2

1.1-47

24-129

Dec-07

Min-Max

0.44-2.31

1.7-66.7

2.5-39.4

0.9-91.5

30-101

Jan-08

Min-Max

0.55-2.76

0-80.3

2.6-84.2

1.8-96.7

37-123

Feb-08

Min-Max

0.68-2.47

0-67.2

0.8-62.9

0.4-90.2

24-100

Mar-08

Min-Max

0.72-2.14

0-73.3

0.8-81.3

0-95.8

29-125

Apr-08

Min-Max

0.4-1.7

0-40.1

0.2-41.7

1.3-114.3

18-56

May-08

Min-Max

0.46-1.56

0.6-33.7

0.8-49.2

0.4-37.8

21-61

Jun-08

Min-Max

0.38-2.27

0.4-47.3

0.7-58.1

0.5-47.5

26-53

Jul-08

Min-Max

0-1.52

0.2-22.7

0.8-61.2

0-21.7

23-46

Standard

30 ppm

170 ppb

300 ppb

100 ppb

120 µg/m3

               จากตารางที่ 3 แสดงให้เห็นว่าก๊าซพิษในรอบปีที่ผ่านมามีค่าต่ำกว่าที่เกณฑ์มาตรฐานกำหนด มีเพียงก๊าซโอโซนในเดือนกรกฎาคม 2550 และเดือนเมษายน 2551 เท่านั้นที่เกินกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน (109 และ 114 ppb ตามลำดับ) ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะอุณหภูมิของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

                สำหรับปริมาณฝุ่น PM10 พบว่า เดือนพฤศจิกายน 2550 เดือนมกราคม และมีนาคม 2551 มีค่าเกินกว่ามาตรฐานค่าเฉลี่ยรายวันที่เกินมาตรฐานนั้นมีเพียง 5 วันเท่านั้น (9 และ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2550,  9 มกราคม 6 เมษายน พ.ศ.2551) ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์ร่วมกับทิศทางลมที่พัดพาฝุ่น จะพบว่าฝุ่นมาจากกิจกรรมการแข่งขันกีฬากลางแจ้งในวันดังกล่าว ซึ่งโดยภาพรวมปริมาณฝุ่นมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามความเป็นพิษของฝุ่น ขึ้นอยู่กับลักษณะจุลโครงสร้างและองค์ประกอบธาตุของฝุ่นด้วย

การวิเคราะห์ลักษณะจุลโครงสร้างของฝุ่น

              ลักษณะฝุ่นละอองรวมจากภาพถ่าย SEM พบว่าฝุ่นละอองรวมมีหลากหลายอนุภาคและมีขนาดและลักษณะที่แตกต่างกัน (ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับที่มาของฝุ่น) ฝุ่นละอองรวมที่มีขนาดใหญ่ ในภาพที่ 2 ประมาณ 7 µm รูปร่างไม่แน่นอนเกาะติดกันเป็นกลุ่มบนเยื่อกรองดังแสดงในภาพที่ 3 ฝุ่นละอองรวมที่มีลักษณะเป็นแท่งยาว ประมาณ 10 µm บริเวณรอบๆ มีอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กปะปนอยู่ด้วย ภาพที่ 4 แสดงอนุภาคฝุ่นที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอกปรากฏอยู่ ซึ่งรายล้อมด้วยอนุภาคฝุ่นลักษณะอื่นๆ  และเมื่อฉายรังสีตรงตำแหน่งของอนุภาค (เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุด้วยเทคนิค EDS) พบว่าหลังการฉายรังสีเอ็กซ์อนุภาคดังกล่าวยุบตัวหรือฝ่อตัวลงดังภาพแทรกด้านบนมุมขวา (Adamo et. al, 2008) ทำให้คาดเดาได้ว่าอนุภาคนี้เป็นอนุภาคทางชีวะภาพ เพราะเมื่อได้รับพลังงานจากลำรังสีเอ็กซ์ก็จะเกิดการเผาไหม้ (Tomohiro and Masaaki, 2002)

             ลักษณะฝุ่นละออง PM10 เมื่อนำมาฉายภาพด้วย SEM พบว่าอนุภาคฝุ่นที่ปรากฏจะมีขนาดเล็กกว่า 10 µm ทั้งหมด (ภาพที่ 5) และมีอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากอยู่จำนวนหนึ่ง (น้อยกว่า 1 µm) ลักษณะเป็นแท่งเรียวยาวปลายแหลม อนุภาคลักษณะนี้สามารถผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจจนถึงเนื้อเยื่อของปอดได้และจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง (Marcazzan et. al, 2002) ดังนั้นจึงใช้เทคนิค EDS เพื่อวิเคราะห์หาองค์ประกอบธาตุของฝุ่นเหล่านี้ในแต่ละอนุภาค โดยจุดที่ฉายลำแสงรังสีเอ็กซ์ เป็นจุดในภาพที่ 5 จำนวน 3 จุดเปรียบเทียบกัน และผลของการวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุรวมแสดงในตารางที่ 4

Text Box:    ภาพที่ 2 ตัวอย่างฝุ่นที่ติดอยู่บนกระดาษกรอง
รูปภาพ102.png

ภาพที่ 2 ตัวอย่างฝุ่นที่ติดอยู่บนกระดาษกรอง

ภาพที่ 3 ตัวอย่างฝุ่นที่ติดอยู่บนกระดาษกรอง

sem before and after eds.TIF
sem sp3ectrum 2 3 4 of PM10.bmp

ภาพที่ 4 อนุภาคฝุ่นก่อน และหลังการวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุ

ภาพที่ 5 ตัวอย่างฝุ่นที่ติดอยู่บนกระดาษกรอง

การวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุของฝุ่น

               จากตารางที่ 4 จุดที่ระบุ Spectrum 2 พบว่ามีธาตุ O และ Ca ในสัดส่วนที่สูงกว่าธาตุอื่นๆ เป็นไปได้ว่าอนุภาคตรงจุดนี้อาจจะเป็นฝุ่นที่มาจากไอทะเลโดยอาศัยกระแสลมพัดพา (sea spray) (Dordevic et al., 2004) ในจุด Spectrum 3 มีธาตุ O และ Si คาดว่าจะเป็นอนุภาคฝุ่นจากฝุ่นดินทรายจากท้องถนน (SiO2) (Margarida et.al, 2008) สำหรับจุด Spectrum 4 มีปริมาณของ C และ Fe สูงมาก อาจเป็นเพราะอนุภาคนี้มาจากฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถบรรทุกบนท้องถนน (Marcazzan et. al, 2001)

ตารางที่ 4 แสดงองค์ประกอบธาตุในแต่ละจุด

Spectrum 2

Spectrum 3

Spectrum 4

Element

Weight %

Element

Weight %

Element

Weight %

C

19.71

C

22.54

C

28.34

O

34.5

O

38.91

O

24.09

Na

0.52

Na

0.71

Na

0.82

Al

1.89

Al

6.03

Al

3.61

Si

5.76

Si

19.2

Si

12.68

S

15.03

S

2.1

S

2.97

Cl

0.98

Cl

0.72

Cl

1.23

K

1.61

K

7.25

K

1.87

Ca

18.46

Ca

1.34

Ca

2.21

   

Fe

1.21

Mn

1.12

       

Fe

18.8

       

Zn

1.44

       

Mg

0.8

วิเคราะห์ผลและสรุป

             ปริมาณมลพิษอากาศประเภท CO, O3, SO2, NOx  และปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศ ในรอบปีที่รายงานมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่ในบางช่วงเวลา อาจจะมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ เนื่องจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นบริเวณรอบๆ สถานีฯ และทิศทางลมที่พัดพามลพิษดังกล่าวมาที่สถานีฯ

             การนำเทคนิค SEM/EDS มาวิเคราะห์ตัวอย่างฝุ่นทำให้พบว่าลักษณะจุลโครงสร้างของฝุ่นมีความแตกต่างกัน ขนาดของฝุ่นมีขนาดเล็ก ตั้งแต่ 1 µm จนถึง 10 µm ฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ดีกว่าและเป็นอันตรายโดยตรงต่อปอด สำหรับฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และหากฝุ่นดังกล่าวมีองค์ประกอบธาตุที่เป็นพิษต่อร่างกาย หรือมีส่วนประกอบของสารกัมมันตรังสีบางประเภทปะปนอยู่ ก็จะทำให้เพิ่มความเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้นและความแตกต่างขององค์ประกอบธาตุที่ได้จากฝุ่นสามารถคาดคะเนแหล่งที่มาของฝุ่นได้คร่าวๆ เช่นถ้าพบธาตุ Si และ O ในสัดส่วนที่มากก็จะระบุได้ว่าเป็นฝุ่นจากดินทราย หากพบ C และ Fe อาจจะคาดเดาได้ว่าเป็นฝุ่นที่มาจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ด้วยบรรทุกเป็นต้น อย่างไรก็ตามเทคนิค SEM/EDS เป็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพเท่านั้น หากต้องการวัดปริมาณองค์ประกอบธาตุและปริมาณโลหะหนักจะมีเทคนิค ICP/AES ซึ่งงานวิจัยนี้จะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

 

คณะผู้วิจัย
ดร.ปัญญา แขน้ำแก้ว* ดร.พรรณศักดิ์ เอี่ยมรักษา อ.สันติ รักษาวงศ์ อ.เกริก วงศ์สอนธรรม นายชลชาย อังวณิชย์สกุล และ ผศ.สุนทรี ขุนทอง
คณะทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
โทร. 038 354 587-8 ต่อ 2773 มือถือ 085-0933013