การพัฒนาและเดินถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้แสงในสภาวะไร้อากาศร่วม
กับการใช้เยื่อกรองไมโครฟิลเตรชันในการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมอาหาร
                Development and operation of anaerobic photo-bioreactor coupled with MF membrane for
food industrial wastewater reclamation

                ระบบบำบัดน้ำเสียแบบไร้ออกซิเจนเป็นที่ได้รับความนิยมสำหรับใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงและมีแดดจัดตลอดปี มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่ำ และควบคุมการเดินระบบง่าย อย่างไรก็ตามระบบบำบัดน้ำเสียแบบนี้ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งสูง และอาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวน รวมทั้งมีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ เช่น ก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปรากฏการณ์โลกร้อน (Global Warming)

                 การใช้แบคทีเรียสังเคราะห์แสง (Photosynthetic Bacteria; PSB) ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียแบบไร้ออกซิเจนสามารถนำสารอินทรีย์ในน้ำเสีย รวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นไปใช้ในการสร้างเซลล์ ซึ่งช่วยลดการปล่อยสารมลพิษและก๊าซเรือนกระจกจากการบำบัดน้ำเสียดังกล่าว งานศึกษาวิจัยนี้มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้งานระบบบำบัดน้ำเสียแบบไร้ออกซิเจนโดยใช้แบคทีเรียสังเคราะห์แสงสีม่วงร่วมกับการใช้เทคโนโลยีเยื่อกรองในการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมอาหาร โดยศึกษาประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียของถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้แสง 2 รูปแบบ คือ ถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบ Sequencing batch reactor (SBR) ซึ่งอาศัยการแยกเซลล์แบคทีเรียด้วยการตกตะกอน และถังปฏิกรณ์ชีวภาพร่วมกับการกรองเซลล์แบคทีเรียโดยใช้เยื่อกรองไมโครฟิลเตรชัน

               ถังปฎิกรณ์ชีวภาพที่ใช้ในการทดลองเป็นระดับห้องปฏิบัติการ  มี ปริมาตรใช้งาน 8 ลิตร ติดตั้งชุดใบกวน และแหล่งกำเนิดแสงได้แก่ หลอดไส้ทังสเตน ขนาด 60 วัตต์ จำนวน 3 หลอด เพื่อให้แสงตลอด 24 ชั่วโมง ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการโดยใช้น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร โดยน้ำเสียที่ป้อนเข้าระบบมีปริมาณสารอินทรีย์ในรูปซีโอดีและบีโอดีเฉลี่ย  38,000 และ16,500 มก./ล ตามลำดับ กำหนดให้ระยะเวลากักน้ำในถังปฏิกรณ์ชีวภาพคงที่เท่ากับ 10 วัน

ภาพที่ 1 ผังและรูปการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการ

 

               จากการทดลองพบว่า ถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้แสงร่วมกับการใช้เยื่อกรองไมโครฟิลเตรชัน มีประสิทธิภาพในการกำจัดสารอินทรีย์สูงกว่าและมีเสถียรภาพดีกว่าเนื่องจากเซลล์แบคทีเรียถูกเก็บกักไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ยกเว้นเมื่อมีการระบายตะกอนส่วนเกินออก เมื่อประเมินปริมาณการผลิตเซลล์แบคทีเรียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้แสงร่วมกับการใช้เยื่อกรองไมโครฟิลเตรชัน พบว่ามีผลผลิตใกล้เคียงกับถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบให้แสงแบบเอสบีอาร์ แต่เนื่องจากไม่มีการหลุดลอดของเซลล์แบคทีเรียออกจากระบบ จึงส่งผลให้ความเข้มข้นของเซลล์แบคทีเรียในถังปฏิกรณ์สูงกว่า ซึ่งเซลล์แบคทีเรียที่อยู่ในถังปฏิกรณ์ชีวภาพดังกล่าวมีคุณสมบัติสามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นโปรตีนเซลล์เดี่ยว (Single cell protein) เพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงปลา ใช้ทำยาหรือเครื่องสำอางค์ได้ เนื่องจากประกอบด้วยวิตามินและสารที่เป็นประโยชน์ในรูปต่างๆ ระบบถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้แสงที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถนำไปใช้งานในการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมได้หลายประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตร ยา เคมีและปิโตรเลียม เป็นต้น

 

 



คณะผู้วิจัย
นางสาว สุขุมา ชิตาภรณ์พันธุ์ รศ.ดร. ชาติ เจียมไชยศรี รศ.ดร. วิไล เจียมไชยศรี Dr. Ryo Honda และ Prof. Kazuo Yamamoto
ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และ Environmental Science Center, University of Tokyo
โทร. 0-2942-8555 ต่อ 1003