คุณภาพของน้ำมันทีทรีที่ผลิตในประเทศไทยและการใช้ประโยชน์ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
Quality of Tea Tree Oil in Thailand and Its Applications in Healthcare Products

        น้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) ที่ผลิตได้จากแหล่งปลูกที่ระดับความสูงต่างๆ ในประเทศไทย มีลักษณะเป็นของเหลวใส มีสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเย็น จากการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของน้ำมันทีทรีที่ผลิตในประเทศไทย พบว่า สมบัติทางเคมี-ฟิสิกส์ และองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหย มีค่าเฉลี่ยอยู่ในมาตรฐานที่กำหนดของประเทศออสเตรเลีย   (International standard ISO 4730 (2004)    และ  Australian standard AS 2782-2009)  ได้ระบุคุณลักษณะของน้ำมันทีทรีที่มีคุณภาพตามมารตรฐาน คือ  มีสมบัติทางเคมี-ฟิสิกส์ ได้แก่ ค่าความถ่วงจำเพาะที่ 20 °C อยู่ในช่วง 0.885- 0.906  ค่าดัชนีการหักเหของแสงที่ 20° C  อยู่ในช่วง 1.475-1.482 และค่าการหมุนระนาบแสงโพลาไรซที่ 20° C  อยู่ในช่วง  อยู่ในช่วงระหว่าง + 5° - + 15° สารสำคัญในน้ำมันทีทรีที่ได้มาตรฐานต้องมีปริมาณสาร terpinen-4-ol (30-48 %), 1,8-cineole (<15%), g-terpinene (10.0-28.0%), α-terpinene (5-13 %)  และมีปริมาณ p-cymene (0.5-8%)   และจากการวิเคราะห์สมบัติทางเคมี-ฟิสิกส์ และองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากกิ่ง/ใบทีทรีสดที่ปลูกในประเทศไทย พบว่า น้ำมันหอมระเหยที่ผลิตได้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน  โดยมีคุณสมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ในช่วง 0.900 - 0.905  ค่าดัชนีการหักเหของแสงอยู่ในช่วง 1.475 - 1.481 และค่าการหมุนระนาบแสงโพลาไรซ์ อยู่ในช่วง + 5.25° - + 6.15° ตามลำดับ  และพบสารสำคัญ terpinen-4-ol (30.42-34.76 %) 1,8-cineole (5.99-9.08%), g-terpinene (25.08-26.23%),
α-terpinene (12.31-12.43%) และมีปริมาณ p-cymene (2.17-3.58%)  

        การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของน้ำมันทีทรีที่ผลิตในประเทศไทยพบว่า มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อBacillus cereus , Escherichai coli, Salmonella Typhimurium , Pseudomonas aeruginosa , Staphylococcus aureus, Staphylococcus epidermidis, Propionibacterium acnes, Vibrio cholerae,   Curvularia lunata,   Klebsiella pneumoniaeProteus mirabilis  และShigella flexneri โดยมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus   ได้ดีที่สุด   และยังพบว่าน้ำมันทีทรีที่ผลิตในประเทศไทยมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา Aspergillus niger, Aspergillus flavus, Penicillium sp. และChaetomium globosum โดยมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา C. globosum ได้ดีที่สุด ในการประเมินกิจกรรมตานอนุมูลอิสระด้วยวิธีดีพีพีเอช  พบ วาน้ำมันทีทรีมีกิจกรรมตานอนุมูลอิสระที่ดี  มีค่า IC50  29.34-38.68 มก./มล.

        จากความสำเร็จในการนำทีทรีเข้ามาปลูกในประเทศไทย และศึกษาประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่มเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคที่ผิวหนัง (skin infection) สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรจึงมีความสนใจที่จะนำน้ำมันทีทรีที่ผลิตในเมืองไทยมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ที่มีน้ำมันหอมระเหยทีทรีเป็นองค์ประกอบหลักในเชิงการค้า  ได้แก่ เจลล้างมือทีทรี  เจลแต้มสิวทีทรี  สเปรย์ต้านสิว สบู่เหลวทีทรี สบู่ก้อนใสทีทรี สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า  และแผ่นป้องกันกลิ่นเท้า  เป็นต้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ทางสถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตรมีความสนใจในการนำสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากทีทรีมาใช้ในการยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิตทางเกษตรที่เกิดการเน่าเสียจากเชื้อรา  เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการวิจัย และเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ของทีทรีที่ปลูกในประเทศไทย ทั้งในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทางการเกษตรต่อไป

เจลล้างมือชนิดไม่ต้องล้างน้ำ
(Tea tree hand cleansing gel)

เจลแต้มสิว
(Tea tree anti-acne gel)

สเปรย์ต้านสิวที่ลำตัว
(Tea tree anti-acne body spray)

สบู่ชำระร่างกาย
(Tea tree soap)

สเปรย์ดับกลิ่นเท้า
(Tea tree foot deodorant spray)

แผ่นป้องกันกลิ่นเท้า
(Tea tree shoe pad)

ผลิตภัณฑ์สุคนธบำบัด (น้ำมันนวด และเทียนหอม)
(Aromatherapy products)

สเปรย์ปรับอากาศ
(Tea tree room spray)

 
การใช้ประโยชน์น้ำมันหอมระเหยทีทรีในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชนิดต่างๆ

 

 

 

 
คณะผู้วิจัย
น.ส.อุดมลักษณ์ สุขอัตตะ1, นายโอฬาร  ตัณฑวิรุฬห์ 2, นางวีระศรี เมฆตรง2,นางอุไรวรรณ  ดิลกคุณานันท์1 และ น.ส.ประภัสสร รักถาวร
1
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร 0-29428600-3 ต่อ 402
2สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศนเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร 0-2579-2291