สถานีวิจัยปากช่อง เป็นสถานีที่วิจัยงานทางด้านไม้ผลเขตร้อนของมหาวิทยาลัย- เกษตรศาสตร์มากว่า 50 ปี กล้วยเป็นไม้ผลที่ทางสถานีฯให้ความสนใจได้รวบรวมและทำงานวิจัยมาช้านาน ในวาระครบรอบ 50 ปีของสถานีฯ ในปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา ทางสถานีฯได้เปิดตัวกล้วยน้ำว้าสายพันธุ์ใหม่ ได้แก่ “กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50” ที่เกิดจากการคัดเลือกสายพันธุ์กล้วยน้ำว้าไส้เหลืองที่เก็บรวบรวมพันธุ์ไว้ที่สถานีฯกว่า 10 สายพันธุ์ โดยพบว่าสายพันธุ์ที่คัดเลือกได้นี้มีคุณสมบัติที่เหมาะในการปลูกเพื่อการค้า ลักษณะเด่นคือ เครือใหญ่น้ำหนักเครือมากกว่า 30 กิโลกรัม(ไม่รวมก้านเครือ) จำนวนหวีมากกว่า 10 หวี จำนวนผลต่อหวีประมาณ 18 ผล ผลกล้วยใหญ่อ้วนดีน้ำหนักผลโดยเฉลี่ยประมาณ 140 กรัม/ผล ไส้กลางไม่แข็งออกสีเหลืองเนื้อแน่นเมื่อสุกมีความหวานประมาณ 26 %Brix แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกลับการดูแลรักษาเนื่องจากกล้วยเป็นไม้ผลที่ตอบสนองได้ดีกลับสภาพอากาศ ดินและปุ๋ยเป็นอย่างมาก หากการดูแลรักษาไม่ดีขาดน้ำ ขาดปุ๋ย สภาพพื้นที่แห้งแล้งเกินไป กล้วยพันธุ์นี้จะให้ผลผลิตเพียง 7-8 หวีเท่านั้นแต่ผลยังอ้วนใหญ่ไส้กลางไม่แข็งเนื้อยังแน่นเหมือนเดิม ดังนั้นการนำกล้วยสายพันธุ์นี้ไปปลูกให้ได้ได้ผลคุ้มค่าสูงสุดจึงจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาที่ดีควบคู่ไปด้วย
ต้นกล้วยที่ได้รับจากสถานีฯจะเป็นต้นกล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่มีความสูงมากกว่า 15 ซม. ซึ่งสามารถลงปลูกในแปลงปลูกได้เลย ข้อดีของการใช้ต้นกล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คือ ขนย้ายต้นพันธุ์สะดวก ต้นพันธุ์ปลอดจากโรคและแมลงที่เป็นปัญหาในปัจจุบันได้แก่โรคตายพราย และหนอนกอ การเก็บเกี่ยวทำได้พร้อมกันจำนวนมาก ส่วนการไห้ผลผลิตจะเร็วหรือช้ากว่าหน่อพันธุ์ขึ้นอยู่กับขนาดต้นพันธุ์และการดูแลรักษา
การปลูกและดูแลรักษา
ใช้ต้นกล้วยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่มีขนาดตั้งแต่ 15 ซม.ขึ้นไป การเตรียมแปลงให้เตรียมหลุมขนาด 50x50x50 ซม.(หลุมปลูกขนาดใหญ่ การขึ้นโคนของต้นกล้วยที่ทำให้ต้นกล้วยล้มจะช้ากว่าหลุมขนาดเล็ก) รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2-3 กก./หลุม (ห้ามใช้ขี้วัวเพื่อป้องกันหนอนกอระบาด) ปลูกต้นกล้วยกลบดินให้สูงจากโคนประมาณ 5 ซม. รดน้ำให้ชุ่มและอย่าให้น้ำขังเกิน 3 วันต้นจะตาย เมื่อต้นโตครบ 1 เดือนให้ปุ๋ยสูตรเสมอ 100-150 กรัม/ต้น โรยรอบโคนและรดน้ำตาม ในช่วงนี้ต้องถากหญ้ารอบโคนให้สะอาดและรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอต้นกล้วยจะตั้งตัวได้เร็ว เมื่อต้นกล้วยเริ่มแตกใบใหม่และลอกกาบเก่าทิ้งให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรอบโคนและสับปุ๋ยผสมกับดิน หรือใส่ปุ๋ยสูตรเสมอตามอัตราข้างต้น จนครบเดือนที่ 4 ต้นกล้วยจะเจริญเติบโตสูงใหญ่เทียบเท่ากับหน่อพันธุ์ ในเดือนนี้ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ถ้าไม่มีใส่ปุ๋ยสูตรเสมอก็ได้ และจะใส่ทุกๆ 3 เดือนจนกระทั่งเก็บเกี่ยว การให้น้ำจะให้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งตามสภาพอากาศ การกำจัดวัชพืชหลังจาก 4 เดือนสามารถใช้สารเคมีจำจัดวัชพืชกลุ่ม พาราควอต ได้แต่พยายามอย่าให้โดนใบโดยเฉพาะใบอ่อนเพราะจะทำให้ชงักการเจริญเติบโตหรือถึงตายได้ การขยายพันธุ์สามารถใช้หน่อจากต้นปลูกขยายต่อไปได้เลย
|
|
|
|
|
คนเดียวยกไม่ไหว |
|
เครือนี้ต้อง 2 คนยก |
|
น้ำหนักหวี 2-3 กิโลกรัม |
 |
|
 |
เครือนี้น้ำหนัก 40 กว่ากิโลกรัม |
|
ไส้สีเหลืองอ่อนเนื้อแน่น |
 |
|
 |
ลูกอ้วนสม่ำเสมอ |
|
นาดผลหวีต้นและหวีท้าย |
|