การวิจัยเรื่องนี้เป็นการสังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดหนี้สินและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินของครูภูมิปัญญาซึ่งได้รับการยกย่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาต
วิธีการวิจัยใช้หลักศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตการณ์ในพื้นที่จริง การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อตอบโจทย์งานวิจัยจากครูภูมิปัญญา 5 รายในเขตภาคกลาง ที่นำความรู้ในพื้นที่มาใช้แก้ปัญหาหนี้สินได้ ดังนี้
- นายเลี่ยม บุตรจันทา ครูภูมิปัญญาด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผลงานดีเด่นด้านการรวมกลุ่มธุรกิจชุมชน เช่น จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ ธนาคารข้าว ธนาคารปลาการสร้างป่าชุมชน และกลุ่มอาชีพเพาะกล้าไม้ เป็นต้น
- นายสมชาย สมานตระกูล ครูภูมิปัญญาด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเขตหนองจอก กรุงเทพฯ เป็นผู้นำหลักศาสนาอิสลามมาใช้จัดการปัญหาหนี้สิน ด้วยการดูแล สุขอนามัยของครอบครัว การสร้างอาชีพเสริม การประหยัด การส่งเสริมการออม
การลดต้นทุนการผลิต และความพอเพียงในการดำเนินชีวิต
- นายบุญเลิศ ไทยทัตกุล ครูภูมิปัญญาด้านเกษตรกรรม อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้ศึกษาวิจัยการเพาะเห็ดครบวงจร ตั้งแต่ การผลิต การแปรรูป การจำหน่าย และการถ่ายทอดความรู้ให้แก่สาธารณชน
- พระครูสุธรรมนาถ ครูภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ริเริ่มสร้างสวนป่าสมุนไพรเป็นแหล่งรวบรวมและเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรของชุมชนเพื่อการพึ่งตนเอง
- นางปราณี สวัสดิ์แดง ครูภูมิปัญญาด้านโภชนาการ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ผู้นำที่ปลดหนี้ด้วยการรวมกลุ่มแปรรูปผลผลิตการเกษตรที่ได้มาตรฐาน อย. และถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจใฝ่เรียนอย่างไม่ปิดบัง
ผลการวิจัยพบว่าครูภูมิปัญญาเป้าหมาย 5 ราย ระบุเหตุแห่งหนี้สินและแนวทางแก้ไขดังนี้
เหตุแห่งหนี้สิน
1. การลืมวิถีชีวิตเดิมของตนเอง ลืมความเป็นตัวของตัวเอง ด้วยการเข้าสู่กระแสโลกาภิวัตน์
การใช้ชีวิตไปตามการบริโภคนิยม ติดความสุขสบาย ติดเครื่องอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากที่เคยบริโภคอาหารในท้องถิ่น กลับหันไปซื้ออาหารจากภายนอกชุมชน ก่อให้เกิดหนี้สินและรายจ่ายที่เกินความจำเป็น
2. เกิดความท้อถอยต่ออุปสรรค ปล่อยชีวิตให้ผู้อื่นชี้นำ โดยลืมไปว่าตนเองควรเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตของตนเอง การเข้าสู่วังวนของอบายมุข มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และความขัดแย้งในครอบครัว เกิดปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรม มีรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งๆ ที่สามารถป้องกันปัญหาได้ล่วงหน้า
3. การปลูกพืชเชิงเดี่ยว เน้นการปลูกพืชเพื่อจำหน่ายเป็นหลัก เป็นการพึ่งพิงภายนอกชุมชนมากขึ้น เนื่องจากเมื่อขายผลผลิตของพืชที่ปลูกแล้ว กลับต้องซื้อทุกอย่างบริโภค
4. การละเลยภูมิปัญญาท้องถิ่น เหตุเพราะให้ความสำคัญกับภายนอกชุมชน เช่น
แหล่งเงินทุนจากภายนอก เพื่อกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวหรือการลงทุนในธุรกิจ แม้ว่าการลงทุนดังกล่าวทำให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ แต่ในทางกลับกัน การพึ่งพิงจากภายนอกชุมชน ทำให้ละเลยการช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในชุมชน และขาดการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์
แนวทางแก้ไข
1. ยึดหลักการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง การวางแผนชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ
ครูภูมิปัญญาระบุว่า ต้องรู้การประมาณตนในการดำเนินธุรกิจ ตามกำลังความสามารถ ส่วนภาคเกษตรนั้นควรส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยบริหารความเสี่ยง ด้วยการปลูกพืชหลากชนิดเพื่อบริโภคในครัวเรือน เหลือจากการบริโภคจึงจำหน่าย เป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว
2. ดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม โดยยึดหลักของฮาลาล และตอยยีบัน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของคนในชุมชนแขวงโคกแฝด เขตหนองจอก ได้แก่ การรับประทานอาหารที่สะอาด
การอนุรักษ์ และการดำเนินชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี กล่าวคือ สภาพพื้นที่ทำการเกษตรและพื้นที่พักอาศัยต้องปราศจากสารพิษปนเปื้อน น้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภคต้องสะอาด ไม่เน่าเสีย และพื้นที่นั้นมีอากาศบริสุทธิ์ ทั้ง 3 ประการนี้เกี่ยวข้องกับอนามัยที่ดีของคนในชุมชนเพราะเป็นการลดปัญหาการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และส่งผลให้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
3. การจัดการทรัพยากรและใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่า เครื่องอุปโภคและบริโภค หากใช้หลัก 4 r จะเป็นการใช้อย่างรู้คุณค่า ได้แก่ การนำมาใช้ซ้ำ (reuse)
การหมุนเวียนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์อีก (recycle) การลดการใช้เท่าที่จำเป็น (reduce)
และการซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้อีก (repair)
4. การทำบัญชีครัวเรือนเพื่อหลุดพ้นจากการเป็นหนี้สิน การบันทึกรายรับและรายจ่ายทั้งหมดของสมาชิกในครอบครัว แล้ววิเคราะร่วมกันว่า ค่าใช้จ่ายใดที่ควรละเว้น
ค่าใช้จ่ายใดที่ไม่จำเป็น ค่าใช้จ่ายใดที่สมชิกในครอบครัวสามารถผลิตได้เองและ
ทำรายได้ให้กับครอบครัว เช่น การละเว้นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอบายมุข การปลูกพืชผักสวนครัว
การเลี้ยงปลา การปลูกพืชสมุนไพรและการจำหน่ายผลผลิตที่ได้
5. การรวมกลุ่มทำธุรกิจชุมชน ผลของการวิเคราะห์บัญชีครัวเรือนในระดับครอบครัวและระดับชุมชน ทำให้มีการวางแผนการจัดการทั้งระบบ อันได้แก่ การวางแผนการเงิน การสร้างอาชีพ การจัดตั้งกองทุนข้าวและโรงสีมือชุมชน การสร้างป่าชุมชน การตั้งธนาคารปลาเพื่อแบ่งปันอาหารให้กับชุมชน การตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อระดมทุนและคืนประโยชน์ให้กับสมาชิก
การตั้งกองทุนส่งเสริมการศึกษา กองทุนเสริมชีวิตและสิ่งแวดล้อมเพื่อดูแลพี่น้องในชุมชนให้อยู่ดีมีสุข
“ ปัญหาของแต่ละคนเกิดจากเงินเป็นตัวปัญหา จึงเอาเงินเป็นเครื่องมือ สร้างกิจกรรมแก้ไขปัญหาขึ้น การบริหารจัดการคือให้คนในชุมชนร่วมกันแก้ปัญหา เช่นกิจกรรมออมทรัพย์ ใครมีปัญหาก็เอาเงินไปใช้ มีอะไรก็แบ่งปัน ถ้าเรามีแต่เอา แล้วใครจะมาให้
เราต้องรู้จักแบ่งปันส่วนที่เราไม่เดือดร้อน อันนี้คือหลักสำคัญ ” |