การศึกษาการปลูกไม้ผลยืนต้นแบบผสมผสานเพื่อการพัฒนาการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
ณ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา จังหวัดน่าน
 The Study on Integrated Fruit Trees Plantation for Sustainable of  Land Use
 at  Phufa Development Center, Nan Province

             ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ตั้งอยู่ ณ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ต้นแบบของการวิจัยที่นำผลไปพัฒนาพื้นที่เป้าหมายอีก 2 อำเภอคือ อำเภอบ่อเกลือและอำเภอเฉลิมพระเกียรติ สภาพนิเวศเกษตรของศูนย์ภูฟ้าพัฒนา มีลักษณะภูมิประเทศ เป็นสภาพพื้นที่ภูเขาจนถึงพื้นที่ภูเขาสูงชันมากไม่เหมาะสมสำหรับการทำการเกษตรเชิงเดี่ยว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 400-800 เมตร พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเกษตร  ภายใต้ระบบการอนุรักษ์ดินและน้ำมีเนื้อที่ประมาณ 1,150 ไร่  พื้นที่ไม่เหมาะต่อการเกษตรมีเนื้อที่ประมาณ  2,580 ไร่ ประชาชนที่อยู่โดยรอบศูนย์มีความเป็นอยู่ที่ยากจนประกอบอาชีพการทำการเกษตรเป็นหลัก   ปลูกข้าวไร่  ข้าวโพด  และนาข้าวมีการปลูกไม้ผลบ้างจำนวนเล็กน้อย  ปัญหาที่พบคือ การเพาะปลูก พืชที่ไม่ถูกวิธีในพื้นที่ดังกล่าวเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการกร่อนของดินหรือการชะล้างพังทลายของดินมากขึ้น    รวมทั้งดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

             การปลูกพืชผสมผสานเป็นระบบหนึ่งของการใช้ประโยชน์ที่ดินปลูกพืชอย่างยั่งยืน  เป็นการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ภายในไร่นา เช่น ดิน น้ำ  แสงแดด อย่างเหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุลของสภาพแวดล้อมและเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ การปลูก พืชผสมผสานมีหลักการสำคัญคือ ปลูกพืชหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน แบ่งระดับการปลูกพืชตั้งแต่ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ผลขนาดต่าง ๆ และพืชที่ระดับคลุมดิน ได้แก่ พืชสวนครัว พืชสมุนไพร เป็นต้น  โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้เกษตรกรมีอาหารและปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ทำให้เกษตรกรมีความมั่นคงทางรายได้ และยังช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อม โดยไม้ยืนต้นและพืชคลุมดินจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน  และช่วยลดการบุกรุกทำลายป่าไม้ 

             ดังนั้นจึงควรที่จะหาวิธีการเพาะปลูกในเชิงอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่นระบบวนเกษตร การปลูกไม้ยืนเช่นไม้ผลเพื่อทดแทนป่าไม้ที่ถูกถากถางเพื่อทำไร่เลื่อนลอย เพื่อเป็นรายได้และลดการทำลายสภาพแวดล้อม  แหล่งน้ำ    ให้เกิดความยั่งยืนและความอุดมสมบูรณ์ของที่ดิน    เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในการดำเนินโครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาและการถ่ายทอดความรู้การพัฒนาไปสู่ราษฎรในท้องที่อำเภอบ่อเกลือและอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน

             ไม้ผล 5 ชนิด ได้แก่ มะม่วง อะโวกาโด   มะคาเดเมีย  พลับ  และมะไฟจีน ปลูกทดสอบที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ตำบลบ่อเกลือ ที่ความสูงของพื้นที่ประมาณ  500-600 เมตร  เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีความลาดเอียงของแปลงประมาณ  5-15 %   เมื่อเดือนกรกฎาคม  2545   จากการศึกษาการเจริญเติบโต  และการให้ผลผลิตพบว่ามะม่วงพันธุ์ปาล์มเมอร์และมะม่วงมหาชนก มีการเจริญเติบโตและออกดอกติดผลได้ดีกว่ามะม่วงแก้วน่าน  อะโวกาโดพันธุ์ปิเตอร์สัน  สามารถออกดอกและติดผลได้เร็วกว่าพันธุ์อื่น   มะคาเดเมีย พันธุ์เบอร์ 508 และ พันธุ์H2 ออกผลได้ เมื่ออายุประมาณ 6 ปีหลังปลูก   มะไฟจีนมีการเจริญเติบโตไม่ดีทุกพันธุ์    ในปี 2552  ได้ปลูกกาแฟอีก 2 ชนิด ได้แก่ พันธุ์อราบีก้า  และกาแฟ โรบัสต้า  เพื่อทดลองเปรียบเทียบผลผลิต   ปลูกสมุนไพร  3 ชนิด ได้แก่ ชมิ้นชัน  ไพล และกระชายดำโดยทดลองปลูกสภาพกลางแจ้ง  และพรางแสงใต้ไม้ผล เพื่อเปรียบเทียบการให้ผลผลิต  การเก็บข้อมูลของการทดลองจะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2553

ผลการดำเนินการในรอบปี พ.ศ. 2552

1) ไม้ผล 
       1.1 มะม่วง   ในปี 2552  มะม่วงพันธุ์ ปาล์มเมอร์และพันธุ์มหาชนก ออกดอกได้ดีในเดือน 
      มกราคมถึงกุมภาพันธุ์  คุณภาพผลดีเมื่อมีการห่อผลป้องกันแมลงวันทอง
       1.2 อะโวกาโด   พันธุ์  Peterson  เริ่มออกดอกติดผลในเดือนเมษายนก่อนพันธุ์อื่นๆพันธุ์ Buccaneer ให้การเจริญเติบโตด้านความสูงและทรงพุ่มมากกว่าพันธุ์อื่น
       1.3 พลับ     พันธุ์อังไสเริ่มออกดอกในเดือนเมษายนและติดผลก่อนพันธุ์อื่นๆ 
       1.4 มะคาเดเมีย  เริ่มออกดอกและติดผลในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2551  ในพันธุ์ เบอร์ 508 และ เบอร์ H2  เมื่ออายุประมาณ 6 ปี 
       1.5 มะไฟจีน  ต้นเจริญเติบโตช้าหรือมีการเพิ่มทางความสูงน้อยมากทุกพันธุ์ และยังไม่ออกดอก
2)  กาแฟ  เริ่มปลูกทดสอบ เมื่อ สิงหาคม 2552 ใช้พันธุ์ อราบีก้า เป็นพันธุ์หลัก และพันธุ์ โรบัสต้าปลูกเปรียบเทียบโดยปลูกใต้ทรงพุ่มไม้ผลทั้ง 4 ชนิด  ระยะปลูก 2 x 1.5 เมตร การเจริญเติบโตมีการแตกยอดใหม่แล้ว 1 ครั้ง  ทั้ง 2 พันธุ์    
3) พืชสมุนไพร  ได้แก่ ขมิ้นชัน ไพล และ กระชายดำ  ที่ปลูกกลางแจ้งมีการเจริญเติบโตดีกว่าที่ปลูกใต้ทรงพุ่มมะม่วงที่แสงน้อยกว่า
4) ต้นไม้ป่า ได้แก่ มะแข่น เป็นไม้ทรงพุ่มโปร่ง สูง ปลูกเป็นระยะ 12×12 เมตรห่างกว่าไม้ผลทุกชนิดเริ่มออกดอกและติดเมล็ด ในปี พ.ศ. 2551  ใช้ในการประกอบอาหารของภาคเหนือเช่นลาบ

สรุป

             ไม้ผล 4  ชนิด มะม่วง อะโวกาโด   มะคาเดเมีย  พลับ  มีการเจริญเติบโตดี ยกเว้นมะไฟจีนซึ่งเติบโตช้ามาก  ซึ่งจะต้องศึกษาการเจริญเติบโตของไม้ผลทุกชนิดต่อไป    กาแฟต้องศึกษาต่อไปเพราะเพิ่งเริ่มปลูกยังไม่มีข้อมูลการเจริญเติบโตและผลผลิต  ส่วนพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด เจริญเติบโตในสภาพกลางแจ้งได้ดีกว่าใต้ทรงพุ่มไม้ผล  มะแข่นสามารถปลูกร่วมในแปลงไม้ผลได้ดี

ภาพแปลงทดลองและผลไม้ชนิดต่างๆที่ดำเนินงานในปี  พ.ศ. 2552

 

 
คณะผู้วิจัย
นายโรจน์รวี  ภิรมย์ 1    นางวีระศรี   เมฆตรง1   น.ส. ทองยืน1  นายวรวิทย์   ยี่สวัสดิ์ 2   น.ส.บัวบาง  ยะอูป2   และ นายวิสิฐ กิสมพร2
1ศูนย์วิจัยระบบนิเวศเกษตร   2สถานีวิจัยดอยปุย  
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร 02-5795556, 081-8907494