การพัฒนาการเลือดจระเข้แห้งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
       

              จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis) เป็นสัตว์สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ประชาชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศนำมาบริโภคเป็นอาหารเสริมและบำรุงร่างกาย  นำมาใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะในจีน  ฮ่องกง และไต้หวัน นิยมบริโภคเลือดจระเข้เพื่อบรรเทาอาการหอบหืด  บำรุงร่างกาย  และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
             เลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการศึกษาพบว่ามีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส  และโปรโตซัวได้  การศึกษาหนอนพยาธิในเลือดและลำไส้จระเข้ที่เพาะเลี้ยงในประเทศไทย  พบว่าปราศจากหนอนพยาธิในเลือดและลำไส้ และเมื่อทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองที่บริโภคเลือดจระเข้  พบว่าไม่มีพิษแบบเฉียบพลัน กึ่งเรื้อรังและเรื้อรัง และไม่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพในไต  ตับ  และอวัยวะภายในของสัตว์ทดลอง
             การพัฒนาการเจาะเก็บเลือดจระเข้ปริมาณมากและการผลิตเลือดจระเข้แห้ง คณะวิจัยสามารถคิดอุปกรณ์ที่ใช้ในการเจาะเก็บเลือดปริมาณมาก และกระบวนการผลิตเลือดจระเข้ระเหิดแห้ง  และได้มีการจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรในนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้มีภาคเอกชนได้ลงนามกับมหาวิทยาลัยในการใช้สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรในการผลิตแล้วตั้งแต่ปลายปี 2551
            การศีกษาประสิทธิภาพของเลือดจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในหนูทดลอง พบว่าสามารถช่วยให้หนูมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นในการต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารในหนูทดลอง
            การเสริมสร้างฮีโมโกลบินของหนูทดลองที่อยู่ในสภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กหลังจากการบริโภคเลือดจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยที่ทำให้แห้งภายใต้ความเย็นจัด  พบว่าช่วยให้หนูทดลองที่เป็นโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก มีค่าฮีโมโกลบินเฉลี่ย 5.8 กรัมเปอร์เซนต์ มีค่าฮีโมโกลบินสูงขึ้นเป็น 13.7 กรัมเปอร์เซนต์ ภายใน 4 สัปดาห์ และจากการให้หนูผสมพันธ์กันตามธรรมชาติ พบว่าหนูทดลองกลุ่มควบคุมมีปริมาณลูกเฉลี่ยต่อแม่เท่ากับ 8 ขณะที่หนูทดลองที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กที่บริโภคเลือดจระเข้แห้ง 4 สัปดาห์ แล้วมีลูกเฉลี่ยต่อแม่เท่ากับ 11 แสดงให้เห็นว่าเลือดจระเข้ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้สมบูร์แข็งแรงได้และยังช่วยให้หนูทดลองมีสมรรถนะทางเพศดีขึ้นด้วย

องค์ประกอบภายในเลือดจระเข้ประกอบด้วย

สารอาหาร

ปริมาณ

หน่วย

โปรตีน

83.1%

 

เกลือแร่และแร่ธาตุต่าง Mineral

เหล็ก

164

มิลลิกรัม/100กรัม

แคลเซียม

90

มิลลิกรัม/100กรัม

โซเดียม

22.5

มิลลิกรัม/100กรัม

ฟอสฟอรัส

1,458

มิลลิกรัม/100กรัม

แมกนีเซียม

574

มิลลิกรัม/100กรัม

วิตามิน Vitamin

วิตามิน เอ

10.61

ไมโครกรัม/100กรัม

 

วิตามิน บี1

0.17

มิลลิกรัม/100กรัม

 

วิตามิน บี2

0.23

มิลลิกรัม/100กรัม

 

วิตามิน บี6

0.22

มิลลิกรัม/100กรัม

 

วิตามิน บี12

0.20

ไมโครกรัม/100กรัม

 

ปัจจุบันคณะวิจัยได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคตจะมีจระเข้ที่บริจาคเลือดมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับบำรุงร่างกาย

กรรมวิธีการผลิต  แคปซูลเลือดจระเข้แห้ง

1. คัดเลือกจระเข้ที่มีสุขภาพดี แข็งแรง จากฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ได้รับการอนุญาตจาก กรมประมง อายุอย่างน้อย 3 ปี ขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร
2. เจาะเก็บเลือดจระเข้ปริมาณมาก ทำความสะอาดบริเวณที่เจาะด้วย 70% แอลกอฮอล เจาะเก็บเลือดโดยใช้อุปกรณ์และภาชนะที่ผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อโรค และภาชนะเก็บเลือดมีลักษณะปิด เพื่อให้ได้เลือดปริมาณมากที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อนของแบคทีเรีย (ภาพที่ 1-2)
3. นำเลือดจระเข้ที่ได้มาทำการฆ่าเชื้อ ด้วยวิธี Pasturization  ที่ 60oC 30  นาที (ภาพที่ 3-4)
4. นำเลือดจระเข้มาทำระเหิดแห้งโดยใช้ Freeze-der or lyophilizer เพื่อรักษาคุณภาพขององค์ประกอบโปรตีนที่สำคัญในเลือดจระเข้ (ภาพที่ 5-6)
5.  นำเลือดจระเข้ระเหิดแห้ง มาบดให้ละเอียด โดยใช้โถบดสแตนเลส ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และบรรจุในแคปซูล ภายในตู้ควบคุมการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย (ภาพที่ 7-8)
6. บรรจุใส่ชวดสีชาเพื่อป้องกันแสงและความร้อน (ภาพที่ 9)
7. ตรวจสอบคุณภาพ โดยหาค่าเฉลี่ยน้ำหนักเลือดด แห้งต่อแคปซูล  ปริมาณแบคทีเรียที่ปนเปื้อน


ภาพที่1  ขั้นตอนการผลิตเลือดจระเข้ระเหืดแห้ง

 

ภาพที่ 2   (ก) ลูกหนูทดลองที่เกิดจากแม่หนูทดลองที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและบริโภคเลือดจระเข้ระเหิดแห้ง มีลักษณะแข็งแรงสมบูรณ์ สีแดงชัดเจน (ข) ลูกหนูทดลองที่เกิดจากแม่หนูทดลองที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก มีลักษณะไม่แข็งแรง สีซึดกว่ากลุ่มบริโภคเลือดจระเข้แห้งชัดเจน



ภาพที่ 3  จระเข้บริจาคเลือดเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร



  
คณะผู้วิจัย :
วิน  เชยชมศรี และ จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ
ภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์