พันธุ์งาที่ปลูกเป็นการค้าทั่วโลกเกือบทั้งหมดเป็นพันธุ์ฝักแตกเมื่อสุกแก่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เมล็ดร่วงก่อนหรือขณะเก็บเกี่ยวหรือหลังเก็บเกี่ยว โครงการปรับปรุงพันธุ์งา ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แนะนำพันธุ์งาดำ มก.18 ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 ซึ่งงาดำพันธุ์ มก.18 เป็นงาที่มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอม สีดำสนิทและไม่ละลายเมื่อแช่น้ำ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น แต่พันธุ์ มก.18 มีข้อบกพร่องคือฝักแตกเมื่อสุกแก่
งาดำพันธุ์ CM - 07 มีลักษณะฝักต้านทานการแตกเป็นพันธุ์แท้ (pure line variety)
พัฒนาพันธุ์มาจากคู่ผสม KUsr6040 x China2 โดยวิธีการคัดเลือกแบบจดประวัติ (pedigree selection) ได้สายพันธุ์ TQ8069 (KUsr6040 x China2 – 3 – 2 – 2 – 1) เมื่อเกษตรกรปลูกงาพันธุ์นี้ สามารถเก็บเมล็ดไว้เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกต่อได้
ลักษณะฝักต้านทานการแตก (shatter resistance) หมายถึง เมื่อฝักสุกแก่ ปลายฝักเปิดอ้า เมล็ดร่วงจากฝักเล็กน้อย งาดำพันธุ์ CM - 07 เมื่อตรวจสอบการร่วงของเมล็ดจากฝักโดยการเขย่าฝักและนำฝักมาคว่ำปลายฝักลง พบว่ามีเมล็ดคงเหลืออยู่ในฝักประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับงาดำพันธุ์ CM - 07 นี้ พบว่ามีต้นงาที่ฝักปิดสนิท (closed capsule) ด้วยประมาณ 2 – 50 เปอร์เซ็นต์ สามารถนำเครื่องนวดข้าว ถั่วเหลืองหรือถั่วเขียวมาใช้ในการกะเทาะเมล็ดได้ ซึ่งเปลือกหุ้มเมล็ดไม่ได้รับความเสียหาย ลักษณะฝักต้านทานการแตกนี้ช่วยลดการสูญเสียผลผลิตจากเมล็ดร่วงได้ ซึ่งแตกต่างจากพันธุ์งาฝักแตกที่ปลูกกันอยู่ทั่วไป
ลักษณะประจำพันธุ์
อายุวันออกดอก 36 วัน
อายุเก็บเกี่ยว 92-100 วัน
ช่วงการออกดอก 34 วัน
ความสูง 93-100 ซม.
ทรงต้น แตกกิ่ง จำนวน 2-4 กิ่ง
จำนวนฝักต่อต้น 106 ฝัก
เมล็ดคงเหลืออยู่ในฝัก 95 เปอร์เซ็นต์
ลักษณะฝัก 2 คาร์เพล (bicarpellate)
การเรียงตัวของฝัก แบบตรงกันข้าม และเวียนสลับรอบลำต้น
จำนวนฝักต่อมุมใบ 1 ฝัก/มุมใบ
น้ำหนัก 1,000 เมล็ด 3.96 กรัม
ผลผลิต 360 กก./ไร่
สีเมล็ด สีดำเปลือกหุ้มเมล็ดชั้นเดียว
|
|
เมล็ดงาดำพันธุ์ใหม่ |
|
ฝักต้านทานการแตก |
ลำต้นแตกกิ่ง 2 – 5 กิ่ง |
ภาพที่ 1 ลักษณะงาดำพันธุ์ใหม่ CM - 07 (TQ8069)
|