ปัญจขันธ์ หรือ มีชื่อจีนว่า เจียวกู่หลาน ( สมุนไพรอมตะ )มีชื่อญี่ปุ่นว่า อะมาซาซูรู (ชาหวานจากเถา ) และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gynostemma pentaphyllum Makino เป็นพืชในวงศ์ Cucurbitaceae เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา เลื้อยขนานกับพื้นดิน และมีมือที่อยู่ตรงข้ามกับใบสามารถเกาะยึดพื้นผนัง หรือ ตาข่าย ที่สามารถทำให้เถาเลื้อยขึ้นบนที่สูงได้ รากของเจียวกู่หลานจะออกจากข้อที่สัมผัสกับพื้นดิน ประเภทเดียวกับแตงกวาและตำลึง มีใบ 3 – 5 ใบ ด้านบนและด้านล่างใบมีขนสีขาวปกคลุม เป็นพืชที่สามารถขึ้นได้ดีตามธรรมชาติ ตามป่าในสภาพที่มีความชื้นสูงและอากาศเย็น และในสภาพพื้นที่แสงแดดไม่ร้อนจัดเกินไป ส่วนใหญ่จะพบมากในแถบภาคเหนือของประเทศไทย ส่วนที่นำมาใช้คือส่วนเหนือดินของพืชที่มีอายุ 4 – 5 เดือนขึ้นไป สมุนไพรชนิดนี้มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ และมีประโยชน์ทั้งเป็นยาและเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร และมีรายงานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทั้งด้านเคมี เภสัชวิทยา และพืชวิทยามากมาย ที่สนับสนุนการใช้สมุนไพรชนิดนี้ เช่น ปัญจขันธ์ มีสารสำคัญชื่อ Gypenosides เป็นสารประเภทไตรเทอร์ปีนซาโปนิน (triterpene saponins) ที่พบในโสม ( Panax ginseng )( อ้างอิงจากสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ) ข้อมูลการวิจัยของนักวิจัยชาวจีนและญี่ปุ่น พบว่า สารจำพวก Saponin ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยกว่า 80 ชนิด จากผลวิจัยในห้องปฏิบัติการพบว่า ปัญจขันธ์ มีสารที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้นอนหลับ ลดระดับไขมันในเลือด เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเจริญของเซลมะเร็งบางชนิด ต้านการอักเสบ และลดระดับความดันโลหิตสูง รวมทั้งลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ปัจจุบันเจียวกู่หลาน หรือ ปัญจขันธ์ สามารถนำมาทำการขยายพันธุ์ โดยการปลูกเป็นแปลงทดลองที่สถานีวิจัยดอยปุย สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ. เชียงใหม่ เป็นการปลูกในแปลง 2 ลักษณะ คือการปลูกในแปลงให้ต้นเลื้อยไปกับพื้นดินในโรงเรือนที่มีหลังคาพลาสติกคลุมเปรียบเทียบกับการปลูกในโรงเรือนที่มีหลังคาพลาสติกคลุมพร้อมกับตาข่ายกั้นและปิดรอบเพื่อให้ต้นเจียวกู่หลานเกาะยึดขึ้นบนตาข่าย ผลจากการปลูกเปรียบเทียบ 2 ลักษณะ พบว่าวิธีการปลูกต้นเจียวกู่หลานในโรงเรือนที่มีหลังคาพลาสติกคลุมและมีตาข่ายกั้นปิดรอบช่วยทำให้ได้ปริมาณต้นเจียวกู่หลานเลื้อยเกาะมากขึ้น ต้นเจริญเติบโตเร็ว ใบมีขนาดใหญ่มากกว่าการปลูกแบบให้ต้นเลื้อยไปกับพื้นดิน ซึ่งสะดวกต่อการเก็บเกี่ยวและการทำความสะอาด ก่อนการนำต้นเจียวกู่หลานมาทำการอบแห้ง ปลอดจากการปนเปื้อนเชื้อโรคจากพื้นดิน โดยน้ำหนักจากต้นเจียวกู่หลานสด 10 กิโลกรัมเมื่อนำไปทำการอบให้แห้งแล้วจะได้เจียวกู่หลานแห้งโดยเฉลี่ย 1.1-1.5 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าการปลูกแบบให้เลื้อยไปกับพื้นดิน ในปัจจุบันสถานีวิจัยดอยปุยได้ทำการแปรรูปเจียวกู่หลานอบแห้งเป็น 2 ลักษณะ คือการป่นเป็นผงบรรจุในซองขนาดเล็กปริมาณ 1.5 กรัมสะดวกกับการชงกับน้ำร้อนดึ่มรวมทั้งการเก็บรักษา และอีกลักษณะหนึ่งคือการอบแห้งแบบเป็นข้อหรือท่อนบรรจุใส่ถุงพลาสติกปริมาณ 40 กรัม พร้อมกับการทดลองวิธีการเก็บรักษา เพื่อศึกษาและวิจัยถึงคุณประโยชน์ต่อการนำไปบริโภค เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพต่อไป ในอนาคต
การปลูก 2 วิธี
วิธีที่ 1 ใช้ต้นเจียวกู่หลานปักชำ ในแปลงขนาด 1X 10 ตารางเมตร ภายใต้โรงเรือนที่มีหลังคาพลาสติกคลุมให้ต้นเจียวกู่หลานเลื้อยขนานไปกับพื้นดิน
วิธีที่ 2 ใช้ต้นเจียวกู่หลานปักชำ ในแปลงขนาด1X 10 ตารางเมตร ภายใต้โรงเรือนที่มีหลังคาพลาสติกคลุม และมีมุ้งลวด หรือตาข่ายกั้นรอบโรงเรือนให้ต้นเจียวกู่หลานสามารถเลื้อยยึดเกาะบนตาข่าย
การดูแลรักษา
1.เตรียมพื้นที่โดยการขึ้นแปลงและพรวนดินใส่ปุ๋ยคอกให้ทั่วทั้งแปลงก่อนการปลูกต้นเจียวกู่หลาน
2.ทำการให้น้ำหลังจากการปลูกอย่างสม่ำเสมอโดยเฉลี่ยวันละ 1 ครั้ง
3.ใส่ปุ๋ยคอกหลังจากพืชเจริญเติบโตอายุ 2-3 เดือน
4. จัดยอดของต้นเจียวกู่หลานให้เลื้อยเกาะกับผนังหรือตาข่าย (ปลูกในสภาพโรงเรือนที่มีตาข่ายปิดกั้น)
5. คอยดูแลกำจัดวัชพืชตลอดระยะเวลาของการปลูก
ลักษณะทั่วไปของต้นเจียวกู่หลาน
ปัญจขันธ์ หรือ มีชื่อจีนว่า เจียวกู่หลาน เป็นพืชวงศ์ Cucurbitaceae ซึ่งเป็นพืชวงศ์เดียวกับแตงกวาและตำลึง มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Gynostemma pentaphyllum Makino เป็นพืชล้มลุกชนิดเถาเลื้อยขนานกับพื้นดิน รากงอกออกจากข้อมีใบ 3-5 ใบด้านบนและด้านล่างของใบมีขนสีขาวปกคลุม มีมือที่อยู่ตรงข้ามกับใบปลายแยกเป็น 2 แฉก สามารถยึดเกาะกับพื้นผนังหรือตาข่ายและเลื้อยขึ้นบนที่สูงได้ ใบเป็นใบประกอบ เรียงตัวสลับ ไม่มีหูใบ ดอกช่อชนิด raceme ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวมีขนปกคลุมกลีบดอก 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันสีขาวอมเหลืองมีขนปกคลุมเกสรตัวผู้ 5 อัน filament เชื่อมติดกันเป็นมัด ดอกตัวเมีย มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนดอกตัวผู้ รังไข่ 1อัน แบบ inferior ovary มี 3 carpel 3 locule ภายในแต่ละ locule มี 1 ovule ติดแบบ axile placentation style 3-4 อัน มี stigma แยกเป็น 2 แฉก ผล แบบ berry ทรงกลม ผิวสีเขียว เมื่อแก่จัดเป็นสีเขียวเข้มถึงดำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-0.6 เซนติเมตร (ผลงานวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวง ประจำปี 2545 )
การแปรรูปเจียวกู่หลาน
1.ทำการตัดต้นเจียวกู่หลานเหนือพื้นดินที่มีอายุตั้งแต่ 4-5 เดือนขึ้นไปนำมาชั่งน้ำหนักสดและล้างน้ำให้สะอาดรวมทั้งแยกเศษวัชพืชและใบที่แห้งออก
2. นำต้นเจียวกู่หลานมาทำการหั่นและตัดเป็นท่อนๆขนาด2-3 เซนติเมตรโดยแยกทำแต่ละโรงเรือน
3. นำชิ้นส่วนของต้นเจียวกู่หลานที่ตัดแล้วแต่ละโรงเรือนมาทำการนวดให้เกิดฟองโดยผสมเกลือป่น ปริมาณ 5 กรัมต่อน้ำหนักสดเจียวกู่หลาน 1 กิโลกรัม
4. นำเจียวกู่หลานที่ผ่านการนวดแล้วไปผึ่งให้หมาด ก่อนที่จะนำไปอบให้แห้งในตู้ที่ควบคุมอุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียสใช้ระยะเวลาในการอบแห้ง 24 ชั่วโมง
5.ในการอบแห้งเจียวกู่หลานต้องคอยกลับหรือสลับชั้นวางเพื่อให้ความร้อนภายในตู้อบกระจายได้อย่างทั่วถึง
6. นำเจียวกู่หลานที่ผ่านการอบแห้งแล้วมาทำการชั่งน้ำหนักรวมโดยแยกแต่ละโรงเรือน ผึ่งให้เย็นก่อนการนำไปทำการป่นให้ละเอียดบรรจุลงในซองขนาดเล็กหรือคัดแยกบรรจุใส่ถุงเพื่อจำหน่ายต่อไป
|