สมุนไพรหลายชนิดมีศักยภาพสูงในการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้แก่
ขมิ้นชัน พลู แพทชูลี และไม้กฤษณา โดยสมุนไพรเหล่านี้สามารถนำมาสกัดได้หลายรูปแบบ
ได้แก่ การสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาหรือการสกัดด้วยตัวทำละลายอื่นๆ
เพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้
ขมิ้นชัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma longa Linn.
วงศ์ : Zingiberaceae
ส่วนที่ใช้ประโยชน์ : เหง้าสดและแง่ง
การใช้ประโยชน์ : เป็นส่วนผสมในเครื่องแกง เครื่องสำอาง
และรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โรคผิวหนัง
แหล่งขมิ้นชันที่มีสารเคอร์คูมินอยด์สูง : ราชบุรี และกาญจนบุรี
|
 |
เปอร์เซ็นต์ผลิตผลของสารสกัดและกลุ่มสารออกฤทธิ์ที่ได้จากขมิ้นชัน
1. Turmuric oil : 3-5% สารสำคัญได้แก่ Turmerone ,Zingiberene ,Borneol
และ Limonene เป็นต้น
2. สารสกัดขมิ้นชัน : สารสำคัญหลัก คือ สารกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ 5-8%
( isolated yield ) และ 11-15% ( วิเคราะห์ด้วย HPLC )
3. เตตระไฮโดรเคอร์คูมินอยด์ ( THCs ) : เกิดจากการทำปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนลงไปในสารเคอร์คูมินอยด์ที่ได้จากขมิ้นชัน
การออกฤทธิ์
• น้ำมันขมิ้นชัน : ต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านเชื้อรา
• สารสกัดหยาบ : ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา
ต้านเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น
• เคอร์คูมินอยด์ : ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ป้องกันรังสี
UV-B เป็นต้น
• เตตระไฮโดรเคอร์คูมินอยด์ ( THCs ) : ออกฤทธิ์สูงกว่าเคอร์คูมินอยด์ในการต้านการอักเสบ
และยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส
ผลิตภัณฑ์
: สบู่ ครีมทาหน้า โลชั่นกันยุง น้ำมันไล่ยุง
พลู
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper betle Linn.
วงศ์ : Piperaceae
ลักษณะ : เป็นไม้เถา มีรากเกาะ ใบเดี่ยวรูปหัวใจ
แหล่งกำเนิด : พบทั่วไป
การออกฤทธิ์
|
|
•
สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในสารสกัดจากใบพลู : ยูจีนอล และไฮดรอกซีชาวิคอล
ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย พลูแต่ละแหล่งถึงแม้จะเป็นพันธุ์เดียวกัน
พบว่ามีปริมาณสาร 2 ชนิดนี้ไม่เท่ากันจึงควรจะมีการควบคุมคุณภาพ โดยการวิเคราะห์หาปริมาณสาร
2 ชนิดนี้
ก่อนนำมาใช้ประโยชน์
การควบคุมคุณภาพ : วิเคราะห์สารยูจีนอลและไฮดรอกซีชาวิคอล ด้วยเทคนิค
GC-MS
ผลิตภัณฑ์ : สบู่รักษาสิว และผลิตภัณฑ์ล้างมือที่ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์
แพทชูลี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pogostemon cablin.
วงศ์ : Libiatae
ส่วนที่ใช้ประโยชน์ : ใบ
การใช้ประโยชน์ : ใ ช้ในการบำบัดสุขภาพด้วยการใช้กลิ่น
ป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ลดการตึงเครียด
เป็นตัว fix กลิ่นในน้ำหอม ใช้ผสมเป็นยา เป็นสุคนธบำบัด และคลายความเครียด
|
 |
เปอร์เซ็นต์ผลิตผลของสารสกัดชนิดต่างๆ
1. น้ำมันหอมระเหยแพทชูลี
( Patchouli oil ) 2.48 %
2. สารสกัดแพทชูลี
( Patchouli extract ) 4.97%
การออกฤทธิ์ •
น้ำมันหอมระเหยแพทชูลี และสารสกัดหยาบแพทชูลี : ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด
เช่น propionibacterium acnes เป็นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
• สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในสารสกัดแพทชูลี
: แพทชูลี แอลกอฮอล์ ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์ : ธูปหอม
ธูปไล่ยุง สบู่ โฟมล้างหน้า
กฤษณา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aquilaria crassna
วงศ์ : Thymelaeaceae
ส่วนที่ใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้ส่วนของลำต้นและกิ่ง
การใช้ประโยชน์ : ใช้เป็นเครื่องสำอาง และส่วนผสมใน
เครื่องสำอาง ยารักษาโรค พิธีกรรมทางศาสนา
|
 |
สารสำคัญในสารหอมกฤษณา
ตัวอย่างเช่น
 |
ผลิตภัณฑ์
: น้ำหอม ตัว fix กลิ่นในน้ำหอม ธูป กำยาน
วิธีการใหม่ในการกระตุ้นให้เกิดสารหอมในไม้กฤษณาโดยเชื้อราและสารอินทรีย์ที่ปลอดภัย
ที่มาของงานวิจัย
ไม้กฤษณาเป็นไม้ยืนต้นที่มีการปลูกกันแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทยเพื่อต้องการให้ผลิตสารหอมเนื่องจากราคาของไม้หอมกฤษณาหรือน้ำหอมจากกฤษณามีราคาแพงมาก
สารหอมกฤษณาหรือเรียกว่าสารกฤษณามีประโชน์หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นน้ำหอม
ใช้เป็นตัวที่ทำให้น้ำหอมติดทนนาน (fix กลิ่น) ใช้เป็นยาสมุนไพร
ใช้เป็นเครื่องหอมหรือกำยานในธูปในพิธีกรรมทางศาสนา ตามธรรมชาติไม้กฤษณาที่ปลูกจะมีการผลิตสารหอมน้อยมาก
ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์หรือต่ำกว่า หรือไม่ผลิตสารหอมเลย ไม้กฤษณาจะผลิตสารหอมเมื่อเกิดแผล
ดังนั้นเกษตรกรจึงทำการเจาะรูต้นกฤษณาโดยในแต่ละต้นมีจำนวนรูมาก
ประมาณ 1,000-2,000 รูต่อต้น ซึ่งอาจทำให้ไม้กฤษณาตาย และปริมาณสารหอมที่ได้ก็ยังมีปริมาณน้อย
ปัญหาจากการที่ไม้กฤษณาผลิตสารหอมได้น้อยและไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มากนัก
จึงทำให้คณะวิจัยเห็นความสำคัญและมีแนวคิดในวิธีการที่จะกระตุ้นไม้กฤษณาผลิตสารหอม
ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร และยังเป็นการเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับต้นกฤษณา
เนื่องจากราคาที่ไม้กฤษณาผลิตสารหอมทั้งต้นจะซื้อขายอยู่ในราคา 1-2
แสนบาทต่อ 1 ต้น
คณะวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และเจ้าของไร่กฤษณา ลุงสมพร-คุณครูไพจิต สิงห์คำจันทร์
|
 |
แนวคิดในการกระตุ้นคือการใช้เชื้อราและสารอินทรีย์ที่ปลอดภัยใส่เข้าไปในต้นกฤษณาเพียงไม่กี่รู(ประมาณ
20-40 รูต่อต้น) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตสารหอม
คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ประดิษฐ์วิธีการใหม่ในการกระตุ้นให้เกิดสารหอมในไม้กฤษณาโดยเชื้อรา
และสารอินทรีย์ที่ปลอดภัย ซึ่งวิธีการมีดังนี้
1. ใช้สว่านเจาะเข้าไปในต้นกฤษณา
2. ใส่เชื้อราและสารอินทรีย์ที่ปลอดภัย เข้าไปในต้นกฤษณา
3. ทำการใส่เชื้อรา และสารอินทรีย์ที่ปลอดภัย เข้าไปในต้นกฤษณา ซ้ำอีก
1 ครั้งหลังจากการใส่ครั้งแรก 2-3 เดือน
|
|
ภาพที่ 1 แสดงการใช้สว่าน
เจาะเข้าไปในต้นกฤษณา |
ภาพที่ 2 แสดงการฉีดเชื้อราและสารอินทรีย์เข้า
ไปในรูต้นกฤษณา
|
|
|
ภาพที่ 3 เนื้อไม้กฤษณาจากการใส่เชื้อราและสารอินทรียเปรียบเทียบกับ์
|
control ที่ใส่น้ำกลั่น โดยการเจาะด้วย Increment borer
|
|
|
ก. เนื้อไม้กฤษณาจากการใส่น้ำกลั่น
(Control) |
ข. เนื้อไม้กฤษณาจากการใส่เชื้อราและสารอินทรีย์ |
ภาพที่
4 เนื้อไม้กฤษณาจากการใส่เชื้อราและสารอินทรีย์ เปรียบเทียบกับ
control ที่ใส่น้ำกลั่น โดยการถากด้วยสิ่ว
สรุปผลการทดลอง
พบว่าไม้กฤษณาสามารถสร้างสารหอมขึ้นหลังจากใส่เชื้อราและสารอินทรีย์ที่ปลอดภัยภายใน
1 เดือน และเพิ่มมากขึ้น จนถึง 4-6 เดือนพบว่าในบริเวณรูที่เจาะทั้งด้านบนและล่างมีการสร้างสารหอมขึ้นเป็นบริเวณแนวระดับและแนวกว้างเป็นความยาวประมาณ
15-20 เซนติเมตร (ภาพที่ 4) และพบว่าไม้กฤษณายังสามารถสร้างสารหอมตามธรรมชาติได้ต่อโดยไม่ต้องกระตุ้นอีก
จากการสกัดสารหอมด้วยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ และวิเคราะห์องค์ประกอบสารหอมด้วยวิธี
Gas Chromatography-Mass Spectroscopy (GC-MS) พบว่าน้ำหอมที่กลั่นได้มีองค์ประกอบทางเคมีคล้ายกับน้ำหอมกฤษณาเกรด
A ในท้องตลาด
ผู้ใดสนใจกรรมวิธีรายละเอียดวิธีการกระตุ้นไม้กฤษณาให้เกิดสารหอม
โปรดติดต่อ
รศ. ดร. งามผ่อง คงคาทิพย์ โทรศัพท์ 02-562-5444 ต่อ 2139 มือถือ
089-828-7987
แหล่งทุนสนับสนุน
1. สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KIRDI)
2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
3. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (NRCT)
4. ศูนย์นวัฒกรรมทางเคมี : โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัยทางเคมี
(PERCH-CIC)
ต้นกฤษณา |
คณะวิจัยไม้กฤษณา |
|