เอนไซม์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพที่ในปัจจุบันมีการนำมาใช้กันเป็นอย่างกว้างขวาง
ทั้งในการศึกษาวิจัยและการพัฒนาระดับภาคอุตสาหกรรม คุณสมบัติของเอนไซม์ที่สำคัญ
ได้แก่ เอนไซม์มีประสิทธิภาพสูงแม้ในระดับไมโครโมลาร์ก็สามารถเร่งปฏิกิริยาได้อย่างรวดเร็วถึง
106-102 เท่า เปรียบเทียบกับปฏิกิริยาที่ไม่ใช้เอนไซม์ การทำงานของเอนไซม์ไม่ต้องใช้อุณหภูมิหรือความดันสูงมาก
ซึ่งต่างจากตัวเร่งอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น เอนไซม์ไม่เปลี่ยนแปลงทางเคมีหลังทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาแล้วทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
เอนไซม์มีความจำเพาะต่อตัวทำปฏิกิริยา คือ สับสเตรทสูงมาก การทำงานของเอนไซม์ถูกควบคุมได้
เช่น โดยปริมาณของสับสเตรท ปริมาณของเอนไซม์ อุตสาหกรรมหลักที่ใช้เอนไซม์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ได้แก่ อุตสาหกรรมเนยแข็ง เบียร์ น้ำผลไม้ น้ำเชื่อมจากแป้ง เส้นใย
และผงซักฟอก เป็นต้น โดยทั่วไป เอนไซม์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหรือที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรมมาจาก
3 แหล่ง คือ พืช สัตว์ และจุลินทรีย์ เอนไซม์จากพืชซึ่งรู้จักกันดี
ได้แก่ โบรมิเลนจากสับปะรด ไฟซินจากมะเดื่อ ปาเปนจากมะละกอ ไลพอกซิเจนเนสจากถั่วเหลือง
เป็นต้น เอนไซม์จากสัตว์ ได้แก่ เพพซิน ทริปซิน เป็นต้น และเอนไซม์จากจุลินทรีย์
ได้แก่ อะไมเลส ไซลาเนส เป็นต้น ในปัจจุบันเอนไซม์ทางการค้าซึ่งต้องผลิตในปริมาณมากและมีความต้องการจำเพาะที่กำหนดไว้จึงต้องอาศัยวิธีการทางพันธุวิศวกรรมเพื่อดัดแปลงยีนของจุลินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพในการผลิตเอนไซม์ได้มากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลงได้เป็นจุลินทรีย์ชนิด
GMO (Genetically Modified/Manipulated Organisms) เช่น การผลิตไคโมซินสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเนยแข็ง
โดยการใช้วิธีถ่ายทอดดีเอ็นเอสายผสมที่เกิดจากการตัดต่อและขยายยีนที่ควบคุมการสร้างไคโมซินไปที่
E. coli เป็นต้น
การใช้เอนไซม์สำหรับอุตสาหกรรมมีปัจจัยหลายอย่าง
แต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ แนวทางที่แน่ชัดแล้วว่าจะได้ประโยชน์จากเอนไซม์
ดังนั้นจึงต้องมีงานวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลดีและผลเสียสำหรับอุตสาหกรรม
เพื่อให้เข้าใจและเป็นแนวทางในการใช้เอนไซม์นั้นๆ ปัจจัยดังกล่าว
ได้แก่ ความจำเพาะของเอนไซม์ต่อปฏิกิริยาที่ต้องการ ระดับพีเอชและอุณหภูมิที่ใช้ในปฏิกิริยา
วิธีการวิเคราะห์กิจกรรมของเอนไซม์ ตัวกระตุ้นหรือตัวยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
แหล่งของเอนไซม์ และราคาของเอนไซม์
การใช้เอนไซม์สำหรับอุตสาหกรรมมีปัจจัยหลายอย่าง
แต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ แนวทางที่แน่ชัดแล้วว่าจะได้ประโยชน์จากเอนไซม์
ดังนั้นจึงต้องมีงานวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลดีและผลเสียสำหรับอุตสาหกรรม
เพื่อให้เข้าใจและเป็นแนวทางในการใช้เอนไซม์นั้นๆ ปัจจัยดังกล่าว
ได้แก่ ความจำเพาะของเอนไซม์ต่อปฏิกิริยาที่ต้องการ ระดับพีเอชและอุณหภูมิที่ใช้ในปฏิกิริยา
วิธีการวิเคราะห์กิจกรรมของเอนไซม์ ตัวกระตุ้นหรือตัวยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
แหล่งของเอนไซม์ และราคาของเอนไซม์
1. การผลิตเอนไซม์จากผลผลิต/ของเหลือทางการเกษตร

การผลิตเอนไซม์โบรมิเลนจากเปลือกและเหง้าสับปะรด
โบรมิเลนเป็นเอนไซม์ย่อยโปรตีนที่พบเฉพาะในสับปะรดเท่านั้น ใช้มากในอุตสาหกรรมอาหาร
ยา ผงซักฟอก ฟอกหนัง และอุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ในอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้ในการป้องกันการเกิด
Chill-proofing ของเบียร์ ทำให้เนื้อสัตว์นุ่ม ใช้ในการผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสท
และทำขนมปัง อุตสาหกรรมยาใช้เป็นยาช่วยย่อย ยาแก้ปวด และเครื่องสำอาง
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในการผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสทจากโปรตีนแหล่งต่างๆ
ได้

การผลิตเอนไซม์เพคติเนสจากจุลินทรีย์สายพันธุ์คัดเลือก
เอนไซม์เพคติเนสเป็นกลุ่มเอนไซม์ที่มีความสามารถในการตัดย่อยสารประกอบเพคติน
พบได้ทั่วไปในพืชชั้นสูงและจุลินทรีย์หลายชนิด ได้แก่ ยีสต์ รา และแบคทีเรีย
สามารถจำแนกชนิดของเพคติเนสออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เพคติเนสในกลุ่มไฮโดรเลส
เพคติเนสในกลุ่มไลเอส และเพคติเนสในกลุ่มเอสเทอเรส มีการนำไปใช้กับอุตสาหกรรมหลายประเภท
ได้แก่ น้ำผลไม้ ไวน์ น้ำมันจากพืช กาแฟและใบชา หมักและลดยางไม้ที่มีในเส้นใย
และเยื่อและกระดาษ
2. การใช้เอนไซม์เพื่อการเพิ่มมูลค่าผลผลิต/ของเหลือทางการเกษตร

การผลิตผงโปรตีนไฮโดรไลเสทไหมจากดักแด้และรังไหม
ผงโปรตีนไฮโดรไลเสทไหมเป็นโปรตีนจากไหมที่ถูกย่อยจนเป็นกรดอะมิโนอิสระ
มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังและป้องกันแสงยูวี สามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบได้ในหลายผลิตภัณฑ์
เช่น เครื่องสำอาง เคลือบเส้นด้ายให้เกิดความเงางาม อุตสาหกรรมสิ่งทอ
และอื่นๆ

การผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสทจากปลา หัวหุ้ง และกากสบู่ดำ
โปรตีนไฮโดรไลเสทเป็นโปรตีนที่ถูกย่อยจนได้เป็นกรดอะมิโนอิสระ มีคุณสมบัติในการดูดซึมเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็ว
เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนของสัตว์ เช่น ลูกกุ้ง
ลูกปลา นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นธาตุอาหารเสริมในดินด้วย

การเพิ่มมูลค่าวัสดุชีวมวลลิกโนเซลลูโลสเป็นสารเคมีต่างๆ
ชีวมวลประเภทลิกโนเซลลูโลส เช่น ทะลายปาล์มน้ำมัน ชานอ้อย ฟางข้าว
แกลบ ต้นทานตะวันหรือซังข้าวโพด เป็นต้น เป็นชีวมวลที่มีองค์ประกอบหลัก
คือ เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส ลิกนิน และสารแทรกอื่นๆ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้
เช่น เซลลูโลสนำไปผลิตเป็นเอธานอล การผลิตคาร์บอกซิเมธิลเซลลูโลสเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
หรือใช้ผลิตโปรตีนเซลล์เดียว เป็นต้น เฮมิเซลลูโลสของไซแลนที่มีไซโลสเป็นองค์ประกอบหลักสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไซลิทอลในอุตสาหกรรมอาหาร
เฟอร์ฟูรอลใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเคมี และลิกนินสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตกาวไม้ได้

การลดสีน้ำทิ้งโรงงานเยื่อกระดาษโดยเชื้อราเส้นใยสีขาว
เชื้อราเส้นใยสีขาวเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนขอนไม้ผุ
สามารถผลิตเอนไซม์ที่มีความสามารถในการย่อยสารประกอบลิกนินในเนื้อไม้ได้เป็นอย่างดี
จึงสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและลดสีน้ำทิ้งจากโรงงานเยื่อกระดาษได้
เนื่องจากสีคล้ำของน้ำทิ้งจากโรงงานดังกล่าวมีสารประกอบลิกนินเป็นส่วนประกอบ

การผลิตไซรัปกล้วยหอมจากกล้วยหอมที่ไม่ได้มาตรฐานการส่งออก
กล้วยหอมที่ไม่ได้มาตรฐานการส่งออกเมื่อสุกนอกจากสามารถนำไปแปรรูปเป็นขนมต่างๆ
แล้ว ยังสามารถนำมาสกัดน้ำกล้วยหอมโดยใช้เอนไซม์เพคติเนส แล้วนำมาทำให้เข้มข้นเป็นไซรัปกล้วยหอมที่มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของกล้วย
เป็นสารความหวานที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถใช้รับประทานแทนน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้เข้มข้นได้
|