ต้นกล้วยไม้ที่เป็นโรคใบด่างซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิด cymbidium mosaic virus (CyMV) โดยทั่วไปมักพบใบแสดงอาการด่าง มีแผลไหม้ อาการจุดช้ำน้ำ หรือจุดด่างเป็นสีเหลือง ยอดบิด ลำต้นแคระแกร็น ให้ดอกเล็ก ลักษณะดอกไม่สมบูรณ์ กลีบดอกบิด ดอกมีสีซีด หรือดอกด่าง ช่อดอกสั้น คุณภาพของดอกต่ำไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มูลค่าของผลผลิตลดลง ทำให้เป็นอุปสรรคกับวงการไม้ตัดดอกส่งต่างประเทศ เชื้อไวรัส CyMV นี้สามารถถ่ายทอดได้โดยติดไปกับหน่อหรือต้นพันธุ์ที่เป็นโรค และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดแต่ง จากการที่ลักษณะของต้นกล้วยไม้เป็นโรคดูไม่แตกต่างจากต้นปกติ จึงทำให้ไม่สามารถแยกต้นเป็นโรคออกจากต้นปกติได้อย่างชัดเจน ดังนั้นถ้านำต้นกล้วยไม้ที่เป็นโรคไวรัสมาใช้ในการขยายพันธุ์ ต้นกล้วยไม้ที่ได้มีเชื้อไวรัสติดไป ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค และเนื่องจากเชื้อ CyMV สามารถเข้าทำลายกล้วยไม้ได้หลายชนิด จึงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางโดยไม่สามารถแก้ไขได้ ดังที่มีรายงานว่าต้นกล้วยไม้สกุลหวายที่ปลูกเป็นการค้าในประเทศสิงคโปร์มากกว่า 80 % พบมีเชื้อ CyMV อยู่เกือบทั้งหมด
สำหรับในประเทศไทยปัจจุบันนี้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้เป็นการค้านิยมขยายพันธุ์ต้นกล้วยไม้โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ดังนั้นถ้าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ CyMV ไม่ให้แพร่ขยายไปกับต้นพันธุ์ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ก็จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการควบคุม และกำจัดโรคใบด่างในสวนกล้วยไม้ได้ คณะผู้วิจัยจึงได้ทำการศึกษาหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการผลิตต้นพันธุ์กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium spp.) ให้ปลอดจากเชื้อไวรัส CyMV โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเจริญ รวมทั้งการพัฒนาเทคนิคในการตรวจสอบเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพควบคู่กันไปด้วย จากผลการทดลองนำเนื้อเยื่อเจริญที่มีขนาดประมาณ 0.2-0.3 มม. จากส่วนปลายยอดของหน่ออ่อนจากต้นกล้วยไม้สกุลหวายสายพันธุ์โซเนีย (บอม 17) มาเพาะเลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อ (ภาพที่1) พบว่าสูตรอาหารที่เหมาะสมในการชักนำให้เนื้อเยื่อเจริญของกล้วยไม้สามารถพัฒนาเป็นโปรโตคอร์มได้ดีนั้นได้แก่อาหารสูตร VW (Vacin &Went, 1949) และสูตร VW ที่เติม NAA ความเข้มข้น 0.1-1.0 มก.ต่อลิตร โดยเนื้อเยื่อเจริญจะเริ่มมีการพัฒนาเป็นโปรโตคอร์มขนาดประมาณ 0.3-0.8 ซม. (ภาพที่2) ได้ภายใน 6 สัปดาห์ ในอัตราร้อยละ 20 ของเนื้อเยื่อทั้งหมด และสามารถพัฒนาเป็นต้นต่อไปได้ภายในเวลา 3 เดือน ซึ่งเมื่อนำตัวอย่างของเนื้อเยื่อที่เจริญมาจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเจริญเหล่านี้มาทำการตรวจเชื้อไวรัสด้วยวิธี indirect ELISA (enzyme-linked immunosorbent assay) โดยใช้โมโนโคลนอลแอนติบอดีที่ผลิตได้ซึ่งพบว่าโมโนโคลนที่ผลิตได้จากทั้ง 2 โคลน สามารถทำปฏิกิริยาได้อย่างดีกับเชื้อไวรัส CyMV บริสุทธิ์ และ CyMV-CP และกับน้ำคั้นจากใบกล้วยไม้หวายที่เป็นโรค โดยไม่ทำปฏิกิริยาข้ามกับเชื้อไวรัส ORSV-CP และพืชปกติ นอกจากนี้โมโนโคลนอลแอนติบอดีที่ผลิตได้ยังมีประสิทธิภาพในการตรวจเชื้อไวรัสได้ดีกว่าโพลีโคลนอลแอนติบอดีอีกด้วย และสามารถตรวจคัดเลือกต้นพันธุ์กล้วยไม้ที่ปลอดเชื้อได้ในอัตราร้อยละ 19.4 ของจำนวนเนื้อเยื่อเจริญที่นำมาเพาะเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งเมื่อนำมาเพิ่มปริมาณและชักนำให้เกิดต้นก็สามารถผลิตต้นพันธุ์กล้วยไม้ที่ไม่มีเชื้อไวรัสได้เป็นจำนวนมากภายในเวลา 1 ปี
 |
 |
(1a) |
(1b) |
ภาพที่ 1 (1a) shoot tip และ leaf primordia ของเนื้อเยื่อที่ปลายยอดหน่ออ่อนกล้วยไม้สกุลหวาย สายพันธุ์บอม17
(1b) เนื้อเยื่อเจริญ (meristem) ที่ปลายยอดของ shoot tip

ภาพที่2 ต้นพันธุ์กล้วยไม้ปลอดโรคที่พร้อมออกปลูกในสภาพธรรมชาติ
|