งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยบูรณาการสำหรับส่งเสริมการส่งออกทุเรียนในส่วนของการพัฒนาเทคนิคการตรวจสอบภาวะการถูกทำลายภายในผลทุเรียนด้วยการถ่ายภาพรังสีเอกซ์ความไวสูง
เพื่อให้สามารถตรวจสอบคุณภาพภายในผลทุเรียนถึงขั้นการทำลายของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
รวมทั้งการแคระแกรนของเมล็ดทุเรียนด้วยการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย(NDT)
ซึ่งจะช่วยให้การตรวจสอบทำได้รวดเร็ว ไม่ต้องสูญเสียทุเรียนที่มีคุณภาพจากการสุ่มตรวจแบบผ่าพิสูจน์วิธีดั้งเดิม
จากการทดลองถ่ายภาพผลทุเรียนด้วยเทคนิคคอมพิวเต็ดเรดิโอกราฟีชนิดภาพ
2 มิติ และ เทคนิคคอมพิวเต็ดโทโมกราฟีชนิด 16 สไลซ์ 3 มิติ พบว่าการถ่ายภาพทั้ง
2 เทคนิค มีศักยภาพในการตรวจสอบ แต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันทั้งในแง่ความสะดวกและราคาในการลงทุน
ปัจจุบันมีการแข่งขันและกีดกันการส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรอย่างรุนแรง
มีการสร้างเงื่อนไขในการปฏิบัติสำหรับผู้ส่งออก เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป
เช่น การควบตุมหนอนแมลงและโรคระบาด การคุ้มครองผู้บริโภค หรือการกำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้า
เป็นต้น ผู้ส่งออกจึงจำเป็นต้องสร้างกระบวนการตรวจสอบคุณภาพของผลผลิตส่งออกที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงให้เป็นที่ยอมรับของประเทศคู่ค้า
โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยในตลาดโลกและทำรายได้ส่งออกปีละมากกว่า
2 พันล้านบาท ปัจจัยด้านการควบคุมคุณภาพที่เป็นปัญหาคือ การตรวจสอบภาวะการเจาะทำลายของหนอนเจาะในเมล็ดทุเรียนดังในรูปที่
1 รวมทั้งการทำลายของเชื้อราชนิดที่ซ่อนภายในเนื้อและเมล็ด ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้จากภายนอก
ทำให้ผู้ประกอบการมักจะได้รับความเสียหายจาการถูกกักกันหรือส่งกลับเมื่อมีการตรวจพบหนอนเจาะผลทุเรียน
ตามกรรมวิธีการควบคุมการแพร่กระจายของหนอนแมลงและโรคระบาดพืชของประเทศคู่ค้า
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศและอาจถูกแย่งตลาดจากประเทศคู่แข่ง
ดังนั้นการตรวจสอบคุณภาพของทุเรียนผลเพื่อให้ปราศจากการปะปนของทุเรียนผลที่มีภาวะการทำลายของเนื้อและเมล็ดจากหนอนหรือเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งรีบดำเนินการให้เกิดผลทั้งในด้านเชิงรุกให้การประกันคุณภาพทุเรียนผลและเชิงรับในการแก้ปัญหาเงื่อนไขการตรวจสอบคุณภาพทุรียนของประเทศคู่ค้า
รูปที่ 1 ภาวะการเจาะทำลายของหนอนเจาะในเมล็ดทุเรียน
จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้น
สำหรับนำมาประกอบในการดำเนินการการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องต้นแบบของระบบตรวจสอบการทำลายของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
รวมถึงความผิดปกติของเมล็ดทุเรียนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การศึกษาและพัฒนาเทคนิคในการตรวจสอบ
และการศึกษาเทคนิคในการประเมิณผล ในการพัฒนาเทคนิคการตรวจสอบภาวะการทำลายภายในผลทุเรียนนี้
ได้ทดลองถ่ายภาพผลทุเรียนเพื่อการศึกษาผลเบื้องต้นด้วยเทคนิคคอมพิวเต็ดเรดิโอกราฟี
(CR) พร้อมทั้งการสร้างภาพแบบ 2 มิติระนาบ โดยใช้เครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม
เปรียบเทียบกับภาพถ่ายที่ได้จากเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเต็ดโทโมกราฟีทางการแพทย์รุ่นใหม่ความเร็วสูงซึ่งเป็นระบบถ่ายภาพที่มีสมรรถนะสูง
ผลของภาพถ่ายรังสีเอกซ์
ก.
ภาพถ่ายจากการจัดระบบถ่ายภาพด้วยเทคนิคคอมพิวเต็ดเรดิโอกราฟี โดยใช้แผ่นบันทึกภาพแบบ
BAS SR ของบริษัท Fuji ระบบกำเนิดรังสีเอกซ์ในงานอุตสาหกรรมของ RICH.SEIFERT
รุ่น 180 VOLT 160 TL และเครื่องอ่านข้อมูลภาพของ Fuji รุ่น BAS 2005
ใช้ระยะระหว่างต้นกำเนิดรังสีและแผ่นบันทึกภาพ 78 cm และ ฉากตะกั่วเสริมความเข้มแสงหนา
0.005 นิ้ว
ข.
ภาพถ่ายจากเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเต็ดเทอร์โมกราฟีทางการแพทย์ของบริษัท
Philips รุ่น MDR - 1000 IDT ซึ่งมีระบบสแกนแบบ16 slices และสร้างภาพตัดขวาง
3 มิติ ใช้เงื่อนไขทางการแพทย์ในการสร้างภาพและได้เลือกภาพตัดขวางบางส่วน
จากการทดลองพบว่าระบบถ่ายภาพแบบคอมพิวเต็ดเรดิโอกราฟี สามารถตรวจพบภาวะผิดปกติในเนื้อและเมล็ดทุเรียนได้
แต่ขึ้นกับตำแหน่งในการวางผลทุเรียนขณะถ่ายภาพ จะต้องถ่ายภาพมากกว่า
1 ระนาบ ระบบมีราคาประหยัดกว่า ในขณะที่ระบบถ่ายภาพด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเต็ดโทโมกราฟีทางการแพทย์
มีลักษณะเป็นภาพตัดขวาง 3 มิติต้องตรวจสอบภาพต่อเนื่องทั้งผลทุเรียนให้ผลตรวจพบความผิดปกติได้ชัดเจน
แต่ระบบถ่ายภาพมีราคาสูงกว่า 10 เท่า และการดูแลรักษายุ่งยากกว่า อย่างไรก็ตามยังคงมีความจำเป็นต้องมีการศึกษาลักษณะความผิดปกติเทียบกับภาวะจริงที่เกิดในผลทุเรียน
เพื่อสร้างความชำนาญในการวิเคราะห์ภาพและแปรผล
|