ภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง คณะประมง ศึกษาวิจัยเรื่องการดูแลรักษาหลังการจับ
และ การแปรรูปสัตว์น้ำ สัตว์น้ำชนิดที่มีการวิจัยอยู่คือปูนิ่ม ปูนิ่มคือปูที่ลอกคราบใหม่
ๆ มีลักษณะกระดองนิ่มสามารถบริโภคได้ทั้งตัว จึงเป็นสัตว์น้ำที่เป็นที่นิยมในการบริโภค
ในประเทศไทยเกษตรกรจะผลิตปูนิ่มจากปูทะเล เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะนำไปบรรจุหีบห่อแช่เย็นหรือแช่แข็งเพื่อรอจำหน่าย
โดยส่วนใหญ่ส่งปูนิ่มไปขายยังภัตตาคารและร้านอาหารในประเทศและ ส่งออกในรูปปูนิ่มแช่แข็ง
เพื่อนำไปแปรรูปเป็นอาหารพร้อมบริโภค ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการเก็บเกี่ยวคือ
การเปลี่ยนแปลงคุณภาพของปูทั้งในด้านความแน่นเนื้อ ลักษณะปรากฏและ
รสชาติ นอกจากนั้นยังไม่พบผลิตภัณฑ์จากปูนิ่มที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานวางขายในท้องตลาด
จึงได้มีการศึกษาวิธีการเก็บรักษาปูนิ่มที่เหมาะสมหลังการเก็บเกี่ยว
ศึกษาปฏิกิริยาของเอนไซม์ย่อยโปรตีน และ วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมบริโภคจากปูนิ่ม
ได้แก่ ปูนิ่มทอดปรุงรส และ ปูนิ่มทอดสุญญากาศ เพื่อรองรับปริมาณของปูนิ่มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมการบริโภคปูนิ่มอีกด้วย
การศึกษาวิธีการเก็บรักษาปูนิ่มที่เหมาะสมหลังการเก็บเกี่ยว
โดยเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษาปูนิ่มสดทั้งตัวบรรจุในถุงโพลีเอทิลีน
ที่อุณหภูมิ 4oซ ในน้ำแข็ง และในน้ำแข็งผสมน้ำ พบว่า สภาวะการเก็บรักษาที่
4oซ มีผลให้ K-value, TVB-N, pH และการสูญเสียน้ำหนักสูงกว่าการเก็บรักษาในน้ำแข็ง
และในน้ำแข็งผสมน้ำ ส่วนคุณภาพด้านประสาทสัมผัสพบว่าต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
(P?0.05) แต่สภาวะการเก็บรักษาไม่มีผลต่อปริมาณความชื้น และปริมาณเกลือ
(P>0.05) ผลการทดลองสรุปได้ว่าปูนิ่มที่เก็บรักษาที่ 4oซ สามารถเก็บรักษาได้นาน
5 วัน เก็บรักษาในน้ำแข็ง และในน้ำแข็งผสมน้ำสามารถเก็บรักษาได้นาน
6 วันเท่ากัน ซึ่งเมื่อคำนึงถึงลักษณะการบรรจุปูนิ่มที่ใช้อยู่ทั่วไปเกษตรกรจะบรรจุปูนิ่มในกล่องพลาสติกใส
มีฝาปิด และใช้ลวดเย็บกระดาษเย็บให้ติดกัน จึงมีช่องว่างให้น้ำเข้าไปในกล่องได้
ดังนั้นการเก็บรักษาปูนิ่มที่เหมาะสมที่สุดคือการเก็บในน้ำแข็ง
การศึกษาปฏิกิริยาของเอนไซม์ย่อยโปรตีน (proteases) ที่คาดว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะเนื้อสัมผัสของปูนิ่มและเอนไซม์โพลีฟีนอลออกซิเดส
(polyphenol oxidase) ที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลในปูพบว่า โปรตีเอสที่สกัดจากปูนิ่มทั้งตัวเมื่อใช้เคซีนเป็นสับสเตรทมีกิจกรรมของเอนไซม์สูงสุดที่
60oซ ความเป็นกรด-เบส 6.0 และ เมื่อยับยั้งเอนไซม์ด้วย EDTA, Soybean
trypsin inhibitor, Pepstatin A และ E-64 พบว่า กิจกรรมของเอนไซม์ถูกยับยั้งร้อยละ
41, 29, 18 และ 9 ตามลำดับ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปูนิ่มทอดปรุงรส เนื่องจากระดับความเป็นเยื่อกระดาษ
เป็นคุณลักษณะที่อาจมีผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาผลของปัจจัยนี้ต่อคุณภาพของปูนิ่มทอดปรุงรส
ผลการทดลองทางประสาทสัมผัสพบว่า ระยะความเป็นเยื่อกระดาษที่มีความนิ่มปานกลางถึงกระด้างและ
ผิวสากเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่มีผลต่อคะแนนความชอบของปูนิ่มทอดปรุงรส
ปูนิ่มที่ผ่านการตัดแต่งเป็น 4 ชิ้นต่อตัว ทอดที่ 150oซ 5 นาที เคลือบน้ำปรุงรสและอบที่
70oซ 4 ชั่วโมง ได้รับการยอมรับถึงร้อยละ 84 จากผู้บริโภคจำนวน 100
คน โดยมีคะแนนความชอบอยู่ในช่วงชอบปานกลาง และ สามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในถุง
OPP/AL/LLDPE ภายใต้สภาวะบรรยากาศปกติได้ 27 วัน ที่อุณหภูมิห้อง และ
70 วัน ที่อุณหภูมิ 4-6 oซ หากเก็บภายใต้สภาพปรับบรรยากาศ (CO2:N2
= 60:40) พบว่า สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้นเป็น 42 และ 80 วันตามลำดับ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปูนิ่มทอดสุญญากาศ จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าปูนิ่มทั้งตัวทอดภายใต้สภาวะสุญญากาศโดยไม่ปรุงรส
มีรสชาติดี มีรูปแบบที่ได้รับการยอมรับสูง กล่าวคือ เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปปูทั้งตัว
เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การทอดภายใต้สภาวะสุญญากาศที่เหมาะสมจะทำให้ปูนิ่มทอดที่ได้มีคุณภาพทางกายภาพ
เคมี และ ประสาทสัมผัสเป็นที่ยอมรับ ปูนิ่มทอดสุญญากาศที่ผลิตได้มีสีส้มเข้ม
ไม่ไหม้ ภายในสุกไม่แฉะแต่ไม่แห้งกรอบ เมื่อสำรวจการยอมรับต่อปูนิ่มทอดสุญญากาศที่ผลิตขึ้นจากผู้บริโภคจำนวน
100 คน พบว่า ได้รับการยอมรับถึงร้อยละ 86 โดยมีคะแนนความชอบอยู่ในช่วงชอบปานกลางถึงชอบมาก
ซึ่งนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสำหรับลูกค้าตลาดระดับบนได้
|