กระบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติกแบบแซนด์วิช
(Sandwich Injection Molding) เป็นกระบวนการฉีดชิ้นงานพลาสติกที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจากกระบวนการฉีดแบบดั้งเดิม
(Conventional Injection Molding) ซึ่งมีชุดเครื่องฉีด (Injection
Unit) เพียง 1 ชุด ในขณะที่กระบวนการฉีดขึ้นรูปแบบแซนด์วิช จะประกอบไปด้วยชุดเครื่องฉีด
2 ชุด หรือมากกว่า
หลักการของกระบวนการฉีดขึ้นรูปแบบแซนด์วิช
ในขั้นตอนแรก วัสดุพอลิเมอร์ชนิดที่หนึ่ง จะถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ฉีด
(Mold) เพื่อให้เป็นผิวของผลิตภัณฑ์ที่ได้ (Skin Material) จากนั้นวัสดุพอลิเมอร์ชนิดที่สองจะถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ต่อเนื่องจากการฉีดในครั้งแรก
เพื่อใช้เป็นวัสดุแกนกลาง (Core Material) ภายในวัสดุพอลิเมอร์ ชนิดแรก
จุดเด่นของกระบวนการฉีดขึ้นรูปแบบแซนด์วิชเมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการฉีดแบบดั้งเดิม
คือ ผู้ผลิตสามารถใช้วัสดุพอลิเมอร์ ที่มีความสวยงามที่ผิว หรือมีสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมหรือทนทานต่อสารเคมี
เป็นวัสดุพอลิเมอร์แรกที่ถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ นอกจากนี้ผู้ผลิตยังสามารถใช้วัสดุพอลิเมอร์ที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่
(Recycling Material) เป็นวัสดุพอลิเมอร์ชนิดที่สองที่ถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์
เพื่อให้เป็นแกนกลางภายใน วัสดุพอลิเมอร์แรก เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต
ดังแสดงในรูปที่ 2 และ 3
รูปที่ 3 ผลิตภัณฑ์ถังขยะที่ได้จากกระบวนการฉีดขึ้นรูปแบบแซนด์วิช
โครงการนี้นอกเหนือจากการนำเสนอการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้
ตลอดจนการลดต้นทุนการผลิต แล้ว งานวิจัยนี้ยังได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการทดลองที่ได้จากกระบวนการผลิตจริงกับผลการทำนายที่ได้จากการวิเคราะห์ทางวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์
โดยใช้โปรแกรม Moldflow โดยได้ทำการศึกษาถึงอิทธิพลของปัจจัยทางกระบวนการผลิต
(Processing Parameter) เช่น ความเร็วในการฉีด (Injection Speed) และ
อุณหภูมิของพอลิเมอร์หลอมเหลว (Melt Temperature) ที่มีต่อการกระจายตัวของวัสดุพอลิเมอร์
(Material Distribution) ในกระบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติกแบบแซนด์วิช
จากการเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์โดยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ กับผลการทดลองที่ได้
พบว่า การวิเคราะห์โดยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ นั้นให้ผลการทำนายที่แม่นยำ
อย่างมีนัยสำคัญ ดังแสดงในรูปที่ 4 และจากผลการวิเคราะห์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการใช้วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ในการวิเคราะห์หาเงื่อนไขที่เหมาะสมในกระบวนการผลิต
มีความสำคัญอย่างมาก ในการช่วยลดเวลาและต้นทุนในการผลิตที่เกิดขึ้น
รูปที่ 4 ผลการทดลองเมื่อเปรียบเทียบกับผลการวิเคราะห์ทางไฟไนต์เอลิเมนต์
|