ปัญหาในการใช้ไม้ของบ้านเรา
มีด้วยกันหลายสาเหตุแต่สาเหตุที่สำคัญก็คือ ในเรื่องความชื้นของเนื้อไม้
ซึ่งความชื้นของเนื้อไม้ถ้ามีมากเกินไป เมื่อนำไม้ไปใช้งานก็จะเกิดการหดตัว
แต่ถ้าความชื้นของเนื้อไม้มีน้อยเกินไป เมื่อนำไม้ไปใช้งานก็จะเกิดการขยายตัว
ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญในการใช้ประโยชน์ไม้
ดังนั้นในการนำไม้ไปใช้ประโยชน์จะต้องผ่านการอบไม้ เพื่อให้ไม้มีความชื้นที่เหมาะสมซึ่งขึ้นอยู่กับสถานที่นำไม้ไปใช้งาน
ซึ่งจะทำให้ไม้ไม่เกิดการยืดและหดตัว ในประเทศไทยมีค่าความชื้นสมดุลอยู่ที่
10? 2% คือต้องอบไม้ให้มีความชื้นเท่ากับความชื้นสมดุลก็จะทำให้ไม้ไม่ยืดและหดตัว
แต่ในสภาพปัจจุบันในการอบไม้จะมีเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมไม้ขนาดใหญ่
เนื่องจากเตาอบไม้มีการลงทุนที่สูง ต้องใช้ Boiler เป็นแหล่งกำเนิดความร้อน
ทำให้คณาจารย์ในภาควิชาวนผลิตภัณฑ์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประกอบด้วย ผศ.อำไพ เปี่ยมอรุณ, ผศ.ดร.ธีระ วีณิน, ผศ.ทรงกลด จารุสมบัติ
ได้ทำการคิดค้นเตาอบไม้แบบประหยัดโดยอาศัยใช้การแลกเปลี่ยนความร้อนโดยตรง
เตาอบไม้แบบประหยัดนี้สามารถอบไม้ให้มีความชื้นที่เหมาะสมได้เทียบเท่าเตาอบไม้แบบที่ใช้
Boiler เช่นในการอบไม้ยางพารา ความหนา 1 นิ้ว เตาอบไม้แบบใช้ Boiler
ใช้เวลา 6-7 วัน เพื่อให้ไม้มีความชื้น 10? 2% เตาอบไม้แบบประหยัดก็ใช้
เวลา 6-7 วัน เช่นเดียวกัน แต่เตาอบไม้แบบประหยัดมีการลงทุนที่ต่ำกว่า
คือลงทุนประมาณเตาละ 250,000 บาท อบไม้ได้ 600 700 ลบ.ฟุต ซึ่งเมื่อเทียบกับเตาอบไม้แบบ
Boiler อย่างเดียวก็หลายล้านบาทแล้ว รวมทั้งเชื้อเพลิงที่ใช้ก็น้อยกว่าเตาอบไม้ที่ใช้
Boiler ซึ่งมีผู้ประกอบการไม้หลายรายนำไปใช้แล้ว เตาอบแบบนี้ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถมีเตาอบไม้เองได้
ทำให้สามารถเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตได้ และส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถใช้ไม้ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น
ไม่เกิดปัญหาในการยืดและหดตัวของไม้
นอกจากนี้เตาอบชนิดนี้สามารถอบผลไม้ หรือสิ่งต่างๆ ที่ต้องการให้แห้งได้
|