ปัจจุบันเกษตรกรได้หันมาสนใจการปลูกไม้กฤษณากันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดตราด
โดยเกษตรกรมุ่งหวังที่จะสร้างรายได้จากการขายน้ำมันกฤษณา ซึ่งมีราคาแพง
แต่อย่างไรก็ตาม ไม้กฤษณาที่สามารถนำมากลั่นเพื่อให้น้ำมันหอมระเหยได้นั้น
จะต้องผ่านกระบวนการทำให้เกิดสารกฤษณาภายในเนื้อไม้ก่อน โดยสารกฤษณาจะเกิดเฉพาะบริเวณที่มีบาดแผลและถูกเชื้อราเข้าทำลายเนื้อไม้ในบริเวณนั้น
โดยเนื้อไม้ที่มีสารกฤษณาเกิดขึ้นนั้นจะมีลักษณะเนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลเป็นจุดหรือแถบกระจายอยู่
หากมีสารกฤษณาสะสมอยู่มากเนื้อไม้จะเป็นสีน้ำตาลดำเป็นเนื้อเดียวกัน
หนักและจมน้ำ ส่วนเนื้อไม้ที่ไม่เกิดสารกฤษณา เนื้อไม้จะมีสีขาวนวลและเบา
เสี้ยนตรง เนื้อหยาบปานกลาง เลื่อยผ่าได้ง่าย ขัดชักเงาไม่ดี จึงไม่นิยมนำมาใช้ประโยชน์
ทำให้เกิดเศษเหลือของไม้กฤษณาที่ไม่เกิดสารกฤษณาเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก
รวมทั้งในกระบวนการกลั่นน้ำมันกฤษณาจะเกิดเศษเหลือจาการกลั่น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการนำเศษเหลือเหล่านี้มาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ไม้กฤษณา
แผ่นชิ้นไม้อัด (Particleboard) เป็นวัสดุที่ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนการใช้ประโยชน์จากไม้ธรรมชาติ
ในการผลิตเครื่องเรือนต่างๆ โดยที่วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเศษเหลือจากการแปรรูปไม้
เศษกิ่ง ไม้ ปลายไม้ และวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร โดยกรรมวิธีการอัดร้อนและกาวเป็นตัวประสาน
โดยทั่วไปแล้วกาวที่นิยมใช้คือกาวยูเรียฟอร์มาดีไฮด์ ( Urea Formaldehyde
)
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดจากเศษเหลือของไม้กฤษณาส่วนที่ไม่เกิดสารกฤษณา
2. เพื่อศึกษาถึงคุณสมบัติของแผ่นชิ้นไม้อัดจากเศษเหลือไม้กฤษณา
วิธีการทดลอง
1. ทำการเตรียมชิ้นเศาเหลือไม้กฤษณา
สำหรับการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดส่วนผิวหน้า และชั้นไส้
2. นำชิ้นไม้มาอบแห้งให้มีความชื้น
5 % แล้วทำการผสมกาว โดยใช้กาวยูเรียฟอร์มาดีไฮด์ 10 % ของน้ำหนักอบแห้งของชิ้นไม้ผสมกับ
wax 1 %, สารเร่งแข็งในส่วนชั้นผิวหน้า 1% และ ที่ชั้นไส้ 2 % ของน้ำหนักอบแห้งของกาว
3. ทำการอัดร้อนแผ่นชิ้นไม้อัดที่
ความหนา 1 ซม. และความหนาแน่น 800 kg/m3 ด้วยความดัน 250 kg./cm2.
อุณหภูมิ 150 ํC เป็นเวลา 3 นาที
4. นำแผ่นชิ้นไม้อัดที่ได้มาทดสอบค่าคุณสมบัติทางฟิสิกสและทางกลได้แก่ค่า
ความชื้นของแผ่นชิ้นไม้อัด ค่าความหนาแน่น ค่า Modulus of Rupture
(MOR), Modulus of Elasticity (MOE) และ Internal Bonding (IB)
ผลการทดลอง
แผ่นชิ้นไม้อัดจากเศษเหลือไม้กฤษณาที่ผ่านกระบวนการอัดร้อนที่ความดัน
250 kg./cm2. อุณหภูมิ 150 ํC เป็นเวลา 3 นาที มีค่าความชื้นเฉลี่ย
6.6 % ค่าความหนาแน่นเฉลี่ย 800 kg/m3 และมีผลการทดสอบคุณสมบัติทางกลดังนี้
MOR = 19.13 N/mm2 MOE = 2138 N/mm2, IB = 0.47
N/mm2 ซึ่งผลการทดสอบมีค่าสูงกว่ามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
มอก. 876- 2547
|