การศึกษาสมบัติทางฟิสิกส์
และสมบัติเชิงกลของลำไผ่ที่สถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง มูลนิธิโครงการหลวง
4 ชนิด ได้แก่ ไผ่ลี่จู๋ (Dendrocalamus oldhamii) ไผ่หมาจู๋ (Dendrocalamus
latiflorous) ไผ่บงใหญ่ (Dendrocalamus brandisii) และไผ่หก (Dendrocalamus
hamiltonii) ที่มีอายุ 3 ปี จากการเปรียบเทียบสมบัติต่างๆ พบว่า สมบัติทางฟิสิกส์
ไผ่หก มีค่าเฉลี่ยทางความยาวของลำ ความยาวปล้อง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
และความหนาของเนื้อไม้มากที่สุด แต่มีปริมาณความชื้นในเนื้อไม้หลังตัดใหม่น้อยที่สุด
ซึ่งไผ่ลี่จู๋ มีปริมาณความชื้นในเนื้อไม้หลังตัดใหม่มากที่สุด หลังจากการตัดลำไผ่
การนำลำไผ่ไปผึ่งในกระแสอากาศเพื่อให้ลำไผ่มีปริมาณความชื้นสมดุลเท่ากับความชื้นสมดุลเฉลี่ยของอากาศ
ใช้เวลา 75 วัน สำหรับสมบัติเชิงกล ไผ่หก ให้ค่าแรงอัด แรงเฉือนขนานเสี้ยน
ค่าโมดูลัสการแตกหัก (Modulus of Rupture : MOR) และค่าโมดูลัสยืดหยุ่น
(Modulus of Elasticity : MOE)มากที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบสมบัติเชิงกลระหว่างลำไผ่สภาพสดกับลำไผ่สภาพแห้งของไผ่ทั้ง
4 ชนิด พบว่า ลำไผ่สภาพแห้งมีสมบัติเชิงกลที่ดีกว่าลำไผ่สภาพสดทุกรายการ
การศึกษาการผลิตและสมบัติของน้ำส้มไม้จากไผ่
และไม้ตัดขยายระยะที่อ่างขาง โดยใช้เตาเผาถ่านไทย-อิวาเตะ ได้ศึกษาจากพืช
4 ชนิด ได้แก่ ไผ่ (Bambusa spp.) กระถินดอย (Acacia confusa) เมเปิลหอม
(Liquidambar formosana) และ จันทร์ทอง (Fraxinus griffithii) พบว่า
ในการผลิตถ่านไม้ 1 ครั้ง(ใส่ไม้เต็มเตา)ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 วัน
ถ่านที่ใช้ไม้ต่างชนิดกัน ความชื้นในเนื้อไม้ต่างกัน จะได้ปริมาณและสมบัติของน้ำส้มไม้ที่ต่างกัน
โดยมีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ระหว่าง 1.006-1.016 ค่า pH อยู่ระหว่าง
2.72-4.68 มีสีน้ำตาลใสถึงน้ำตาลเข้ม แต่มีความใสและกลิ่นควันไฟเหมือนกัน
น้ำส้มไม้ที่ได้จากไผ่จะมีสีน้ำตาลแดงซึ่งแตกต่างจากไม้ชนิดอื่นอย่างเด่นชัด
ซึ่งน้ำส้มไม้จากไผ่มีสมบัติได้ตามมาตรฐานของสมาคมน้ำส้มไม้แห่งประเทศญี่ปุ่น
ส่วนถ่านที่ได้จากการผลิต สมบัติของถ่านชั้นบนของเตาจะมีค่าปริมาณสารระเหย
และปริมาณความชื้น น้อยกว่าถ่านชั้นล่าง ขณะเดียวกันถ่านชั้นล่างจะมีค่าปริมาณคาร์บอนเสถียร
ปริมาณขี้เถ้า และค่าความร้อน มากกว่าถ่านชั้นบน
|