พื้นที่สูงของประเทศไทยมีพื้นที่สูงเป็นจำนวนมาก
ซึ่งพื้นที่สูงเป็นส่วนใหญ่ จะประสบปัญหาอย่างเดียวกัน คือ ป่าธรรมชาติถูกทำลาย
เกิดเป็นสภาพภูเขาหัวโล้น และความแห้งแล้ง การทำไร่
เลื่อนลอย การหักล้างถางพงเพื่อปลูกพืชล้มลุก ได้แก่ ขิง , กะหล่ำปลี
, ข้าวโพด , ข้าวไร่ ซึ่งมีการนำสารเคมี และปุ๋ยเคมีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมาก
ซึ่งจะมีผลให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในผลผลิต และยังมีผลตกค้างในดินและแหล่งน้ำในธรรมชาติ
และปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น คือ
ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งนับวันจะเสื่อมโทรมลงมาก อันเนื่องมาจากการปลูกพืชล้มลุกบนพื้นที่ที่มีความลาดชัน
ทำให้เกิดการชะล้างพังทลาย โดยที่เกษตรกรไม่ได้คำนึงถึงการอนุรักษ์ดินและน้ำ
และการปรับปรุงดินในแปลงผลิตของตนเอง ซึ่งพืชล้มลุกหลายชนิดที่เกษตรกรปลูกอยู่นั้น
นับวันจะมีต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับลดลง แต่เกษตรกรบนพื้นที่สูงของอำเภอเขาค้อ
, อำเภอหล่มเก่า (บ้านทับเบิก) และอำเภอน้ำหนาว ก็ยังคงปลูกพืชล้มลุกเหล่านั้นอยู่
ซ้ำยังมีการบุกรุกของพื้นที่อุทยาน ฯ เพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ที่มีความอุดมสมบูรณ์โรคและแมลงศัตรูมีน้อย
เมื่อทางราชการมีการปักกันแนวเขต ทำให้เกษตรกรต้องใช้พื้นที่เดิม ทำให้ต้องใช้ปัจจัยการผลิต
ได้แก่ ปุ๋ยเคมี สารเคมีต่าง ๆ สูงขึ้นเพื่อให้ได้ผลผลิต จากที่ คณะผู้วิจัยของทางสถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ศึกษาไม้ผลเมืองหนาวหลายชนิดรวมทั้งในเรื่องของพลับมาหลายปี
และทำการส่งเสริมในเขตพื้นที่สูงของภาคเหนือ มาจนประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี
จึงเป็นสาเหตุที่ทางสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ จะทำการส่งเสริมระบบการปลูกไม้ผลบนพื้นที่สูงเพื่อลดปัญหาการปลูกพืชล้มลุกที่มีราคาไม่แน่นอน
มีการใช้สารเคมีในการผลิตที่สูงมากและจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตเนื่องจากในแปลงผลิตปัจจุบันหน้าดินถูกชะล้างพังทลายของหน้าดินไปจนหมดทำให้ดินไม่มีแร่ธาตุอาหารขาดความอุดมสมบูรณ์ผลผลิตที่ไดก็จะไม่คุ้มกับการลงทุนแต่เกษตรกรไม่รู้จะปรับเปลี่ยนวิถีชิวิตอย่างไรเนื่องจากการปลูกกะหล่ำปลี
พืชผักเขตหนาวนั้น มีความชำนาญและทำการปลูกมานานการที่จะปรับเปลี่ยนอาชีพจึงเป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลา
ในฐานะที่สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีพื้นที่แปลงทดลองอยู่ในพื้นที่ 2 อำเภอ ที่มีสภาพปัญหาดังกล่าว
ทางสถานีและสถาบัน ได้ตระหนักถึงเรื่องของการส่งเสริมการปลูกไม้ผลเศรษฐกิจ
ที่สามารถให้ผลตอบแทนต่อหน่วยค่อนข้างสูง การใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตน้อย
และทำให้เกิดความยั่งยืน โดยมีป่าไม้ผล และปลูกพืชแซมต่างๆรวมทั้งมีการปลูกหญ้าแฝกตามแนวระดับ
เพื่อช่วยชะลอการชะล้างพังทลายของดิน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับธรรมชาติ
ทางสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ มีความพร้อมในเรื่องแปลงสาธิตมีแปลงพลับที่ให้ผลผลิตสูงโดยไม่มีการใช้สารเคมีในการผลิต
มะม่วงพันธุ์ต่างประเทศหลายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการจำหน่ายผลสดและนำมาแปรรูป
ซึ่งพลับและมะม่วงที่ปลูกบนพื้นที่สูงนั้นไม่มีปัญหาในด้านตลาดเนื่องจากมะม่วงจะเก็บเกี่ยวหลังมะม่วงพื้นราบเก็บไปหมด
ส่วนพลับก็เก็บผลผลิตก่อนต่างประเทศจะมีพลับส่งเข้าไทยกว่า 2 เดือนจึงเป็นข้อได้เปรียบนอกเหนือจากการที่ได้รับประทานพลับสดๆภายในประเทศที่มีความหวานและคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างจากพลับนำเข้าจากต่างประเทศ
ส่วนสตรอเบอรี่ในพื้นที่สูงของจังหวัดก็สามารถปลูกสตรอเบอรี่จำหน่ายผลสดให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดโดยไม่ต้องนำมาจากภาคเหนือเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดและอีกพืชหนึ่งที่เป็นไม้ยืนต้นที่สามารถสร้างป่าไม้ผลบนพื้นที่สูงและสร้างรายได้ในระยะยาวได้สนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียงเนื่องจากเมื่อมีผลผลิตจะสามารถเก็บผลมาแปรรูปเก็บไว้จำหน่ายและสร้างรายได้ตลอดปี
ซึ่งทางสถานีได้พยายามจัดถ่ายทอดเทคโนโลยีในเรื่องไม้ผลที่มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้กับเกษตรกรที่อาศัยบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่องและในปัจจุบันเริ่มมีเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จจากการนำเอาความรู้ที่ผ่านการฝึกอบรมนำไปปรับใช้และการขยายผลิตให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
ในปัจจุบัน อำเภอเขาค้อ อำเภอหล่มเก่า (บ้านทับเบิก) และอำเภอน้ำหนาวและพื้นที่ใกล้เคียง
ได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่เกษตรกรจะได้นำผลผลิต
มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เกษตรมีรายได้ ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ฟื้นฟูสภาพป่าไม้เศรษฐกิจ สร้างความชุ่มชื้นให้กลับมาสู่ผืนแผ่นดินอีกครั้ง
|