ยากลุ่มซัลโฟนาไมด์ได้ถูกใช้รักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียในสัตว์น้ำซึ่งให้ผลในการรักษาที่ดี(1)
นอกจากนั้นได้มีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับยาซัลฟาไดเมทท็อกซิน และออเมทโธพริม
(SDM-OMP) ที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียในปลาแต่ยังไม่มีรายงานการศึกษายาซัลฟาไดเมทท็อกซิน
และไตรเมทโธพริม (SDM-TMP)ในกุ้งเลย ดังนั้นการศึกษาวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาอัตราการดูดซึม
และการตกค้างของยาซัลฟาไดเมทท็อกซิน และไตรเมทโธพริม (SDM-TMP) ในเนื้อกุ้งกุลาดำ
ซึ่งอัตราส่วนของยาที่ใช้คือ 5:1 โดยการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและป้อนยา
ผลการทดลอง
จากการศึกษาการป้อนยาในกุ้งกุลาดำ
ยาซัลฟามีอัตราการดูดซึมเร็วและขับถ่ายออกจากกุ้งช้า โดยทำการเปรียบเทียบอัตราการดูดซึมจากการฉีดเข้ากล้ามพบว่ามีอัตราการดูดซึมเท่ากับ
81.4% และพบการตกค้างของยาในกล้ามเนื้อเป็นเวลา 36 วันซึ่งสอดคล้องกับการศึกษา
SDM-OMPในกุ้งกุลาดำ (3) ยาไตรเมทโธพริมมีค่า Cmax ที่ 30 นาทีหลังจากป้อนยาซึ่งระดับความเข้มข้นของยาคือ
0.43 มก./กก. และจะลดลงเหลือ 0.05 มก./กก. ภายใน 12 ชั่วโมง ซึ่งอัตราการดูดซึมของยาไตรเมทโธพริมเท่ากับ
36.50% การเพิ่มขนาดยาจาก 50 มก./กก. เป็นขนาด 100 มก./กก. ไม่ได้เพิ่มอัตราการดูดซึมของยา
และที่เวลา 4 ชั่วโมงหลังจากป้อนยาอัตรส่วนระหว่างยา SDM-TMP เท่ากับ
16.7:1 ค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ ดังแสดงในตาราง
ตารางแสดงค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์จากการศึกษายาซัลฟาไดเมทท็อกซิน
และไตรเมทโธพริม การดูดซึม และระยะปลอดในกุ้งกุลาดำ (Penaeus
monodon) โดยการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและป้อนยา |
วิจารณ์ผลการทดลอง
จากการทดลองการป้อนยาในขนาด
50 มก./กก. พบว่ายาซัลฟาไดเมทท็อกซินมีอัตราการดูดซึมที่สูง ซึ่งสอดคล้องกับผลการทดลองยา
SDM-OMP (3) ยาไตรเมทโธพริมมีอัตราการดูดซึมน้อย และการเพิ่มเพิ่มขนาดยาเป็น
100 มก./กก. ก็ไม่ให้การดูดซึมที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการใช้ไตรเมทโธพริมร่วมกับยาซัลฟาไดเมทท็อกซินจึงไม่น่าที่จะให้ผลในการรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียในกุ้งได้ในกรณีทำการทดลองผสมยาลงในอาหาร
|