อาหารหยาบเป็นอาหารหลักของสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ซึ่งพืชอาหารสัตว์ก็เป็นอาหารหยาบชนิดหนึ่งที่เกษตรกรสามารถปลูกไว้ใช้ในฟาร์ม
เมื่อปีพศ. 2545 รัฐบาลได้จัดตั้งโครงการนาหญ้าและพัฒนาเป็นอาชีพผลิตเสบียงอาหารสัตว์และสนับสนุนให้เป็นธุรกิจการผลิตและจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง
หญ้าแพงโกล่าเป็นหญ้าที่ได้รับการส่งเสริม เพราะมีใบดก อ่อนนุ่ม สัตว์ชอบกิน
(ภาพที่ 1) นิยมจำหน่ายในรูปของหญ้าสด หญ้าหมัก และหญ้าแห้ง
|
|
ภาพที่ 1 หญ้าแพงโกล่ามีใบดก
อ่อนนุ่ม โคชอบกิน |
สำหรับการปลูกสร้างทุ่งหญ้าแพงโกล่านั้น
เกษตรกรสามารถปลูกหญ้าได้ทั้งแบบที่ลุ่มและที่ดอน แต่มักนิยมปลูกแบบในที่ลุ่มแบบนาหญ้าเช่นเดียวกับการทำนาข้าว
โดยใช้ท่อนพันธุ์หว่านในพื้นที่ที่เตรียมไว้ในอัตรา 300 กก.ต่อไร่
หลังจากนั้นประมาณ 8-10 วันก็เริ่มงอก (ภาพที่ 2) แล้วเริ่มเก็บเกี่ยวครั้งแรกเมื่อหญ้าอายุ
60 วัน
|
|
ภาพที่ 2 ปลูกหญ้าแพงโกล่าในที่ลุ่มแบบนาหญ้า
และประมาณ 8-10 วันก็เริ่มผลิใบอ่อน |
การนำไปใช้ประโยชน์โดยมีวิธีการตัดสด
ปล่อยโคลงแทะเล็ม รวมทั้งการทำหญ้าแห้ง และหญ้าหมัก โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้วิธีการตัดสดไปให้โคกินในคอก
(ภาพที่ 3)
|
|
ภาพที่ 3 แปลงหญ้าแพงโกล่าพร้อมตัดไปให้โคกินมนคอก |
แต่ในช่วงที่ขาดแคลนหญ้าสดเช่นในช่วงฤดูแล้ง
เกษตรกรก็สามารถนำหญ้าแพงโกล่าหมักมาใช้เลี้ยงโคนมได้โดยไม่ทำให้ผลผิตนมลดลงแต่อย่างไร
(ภาพที่ 4) กล่าวคือแม่โครีดนมที่กินหญ้าแพงโกล่าหมักสามารถให้ผลผลิตนมวันละ
15.7 กก.ต่อตัวซึ่งไม่แตกต่างกันกับแม่โคที่กินหญ้าแพงโกล่าสด (15.2
กก.ต่อตัว) ทั้งนี้องค์ประกอบน้ำนมก็ไม่แตกต่างกันด้วย
|
|
ภาพที่ 4 แม่โคกำลังกินหญ้าแพงโกล่าหมักและหญ้าแพงโกล่าสด |
ดังนั้นการปลูกหญ้าแพงโกล่าไว้ใช้เองในฟาร์มไม่ว่าจะเป็นหญ้าตัดสดหรือหญ้าหมักก็สามารถรักษาระดับผลผลิตนมในฟาร์มให้สม่ำเสมอตลอดปีได้
(ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งาน นิทรรศการบนเส้นทางงานวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปี 2550 ในงานวันเกษตรแฟร์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 26 มกราคม 3 กุมภาพันธ์
2550)
|