ปัจจุบันประชากรโลกได้เผชิญหน้ากับโรคภัยต่าง
ๆ อันเนื่องมาจากวิวัฒนาการทางด้านอาหารและการบริโภค ความเจริญทางด้านวัตถุได้นำเรื่องให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในด้านอาหารและค่านิยมในการบริโภคแบบประเทศที่เจริญแล้วในตะวันตกที่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ต่าง
ๆ จากสัตว์ เช่น เนย นมและไขมัน จนมากเกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้ผู้บริโภคเกิดโรคต่าง
ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน ต่อเนื่องไปจนถึงโรคมะเร็ง
จึงมีการหวนกลับมาใช้เมล็ดธัญชาติและพืชชนิดต่าง ๆ เป็นอาหารหลัก ในประเทศไทย
น้ำชีวจิต หรือที่เรียกอีกอยางหนึ่งว่า น้ำอาร์ซี (R.C., Rejuvenating
Concoction) เป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากการต้มเมล็ดธัญชาติ 9 ชนิด เข้าด้วยกัน
ได้แก่ ข้าวโอ๊ต กล้อง ข้าวสาลีกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ลูกเดือย ลูกบัว
ข้าวฟ่าง ข้าวมันปูกล้อง ข้าวเจ้ากล้อง และข้าวเหนียวกล้อง มาต้มจนสุก
แล้วรินแต่น้ำมาดื่ม กล่าวกันว่าน้ำชีวจิตมีทั้งกลูโคส และคุณค่าทางอาหารอื่นๆ
เช่น วิตามินต่าง ๆ และแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ
จึงช่วยรักษาอาการของโรคอ่อนเพลีย อันเกิดจากเซลล์ในร่างกายเสื่อมถอย
(สถาบันวิจัยข้าว 2545) จากผลการวิจัยหลายแหล่งพบว่า ปริมาณการรับประทานใยอาหาร
(dietary fiber) และสารอาหารอื่น ๆ มีความสัมพันธ์ผกผันกับความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
และโรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม แต่อย่างไร ก็ตาม
ผู้บริโภคที่ต้องการดื่มน้ำชีวจิต ยังต้องจัดเตรียมเองทุกวัน และมักมีปัญหาที่น้ำชีวจิตที่ทำเองนั้นเกิดบูดเสียเมื่อจะเก็บไว้บริโภคในเวลาต่อไป
นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อวัตถุดิบ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วยธัญชาติต่าง
ๆ ถึง 9 ชนิด ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน บางตำราที่ได้นำวัตถุดิบบรรจุซองวางขายในท้องตลาด
ก็มีงาดำป่นและจมูกข้าวสาลีป่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย ข้อดีของการป่น งาดำและจมูกข้าวสาลี
คือทำให้วัตถุดิบสามารถกระจายตัวไปทั่วสารละลายในระหว่างการคนได้อย่างรวดเร็วกว่าไม่ป่น
แต่ก็มีข้อเสีย คือทำให้อณูของไขมันแตกตัวและมีเนื้อที่ในการสัมผัสอากาศได้ดีขึ้น
ทำให้มีปฏิกิริยาการเหม็นหืนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การป่นยังทำให้โอกาสในการปนเปื้อน
จุลินทรีย์ได้ง่ายเข้า โดยเฉพาะเมื่อไม่มีขั้นตอนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์นั้น
ๆ หลังการป่น
ดังนั้น
โครงการวิจัยและพัฒนากรรมวิธีการผลิตและคุณค่าทางอาหารของน้ำชีวจิตสำเร็จรูป
โดยนางกุลวดี ตรองพาณิชย์ และคณะจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำชีวจิตสำเร็จรูปพร้อมดื่มขึ้น
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค โดยศึกษากรรมวิธีการผลิตที่เหมาะสม
เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศเพื่อทดแทนวัตถุดิบที่ต้องมีการนำเข้า
เช่น ข้าวสาลีกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น และศึกษาการยอมรับของผู้ชิมที่มีต่อผลิตภัณฑ์โดยเปรียบเทียบ
กับสูตรที่มีการใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ พบว่า สามารถใช้ถั่วเหลืองทดแทนการใช้ข้าวสาลีกล้อง
ข้าวบาร์เล่ย์กล้องและข้าวโอ๊ตได้ดีที่สุด โดยต้องปรับเปลี่ยนปริมาณของวัตถุดิบที่ใช้โดยมีปริมาณโปรตีน
แคลเซี่ยม เหล็ก และ total antioxidants as gm E vitamin C มากกว่าสูตรเปรียบเทียบ
(control) ในขณะที่มีปริมาณวิตามินเอ ไขมัน เถ้า และโซเดียม ใกล้เคียงกับสูตรเปรียบเทียบ
น้ำชีวจิตที่ทดลองผลิตทุกสูตรรวมทั้งสูตร control ไม่มี cholesterol,
glucose และ total sugars ในขณะที่มีวิตามิน B1 และ B2 น้อยกว่า 0.01
และ 0.005 mg/100 g ตามลำดับ การเติมงาดำป่นและการแช่ธัญชาติที่แข็งและสุกยากก่อนต้มจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารและ
cloud stability ในผลิตภัณฑ์
แต่อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการใช้งาดำป่นที่เหม็นหืน
ซึ่งจะทำให้ total antioxidants ในผลิตภัณฑ์ลดลง ไม่ควรกรองน้ำชีวจิตหลังจากต้มเสร็จแล้ว
เพราะจะทำให้คุณค่าทางอาหารต่าง ๆ เช่น ใยอาหาร โปรตีน ไขมัน โซเดียม
และเหล็ก ลดลงอย่างเป็นนัยสำคัญ (p < 0.05) กระบวนการบรรจุกระป๋องและฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่
110?C 15 นาที ไม่ทำให้คุณค่าทางอาหารของผลิตภัณฑ์บรรจุกระป๋องเปลี่ยนไปจากน้ำชีวจิตที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการบรรจุกระป๋องอย่างเป็นนัยสำคัญ
(p<0.05) ยกเว้นในปริมาณของไขมันที่เพิ่มขึ้นและค่าความสว่าง (L*)
ที่ลดลง จากการทดสอบความชอบและการยอมรับของผู้ชิมที่มีต่อผลิตภัณฑ์สูตรต่าง
ๆ พบว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างสูตรอย่างเป็นนัยสำคัญ (p<0.05)
ในความชอบในทุกคุณลักษณะและการยอมรับ
แต่อย่างไรก็ตามจากการวิจัย พบว่า ควรมีการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้จากการสกัดน้ำ
ชีวจิตครั้งแรก โดยนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ข้าวต้มชีวจิตบรรจุกระป๋อง
ซึ่งจากการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหาร พบว่ายังมีคุณค่าทางอาหารในผลิตภัณฑ์อีกมาก
ซึ่งหากมีการวิจัยต่อไปถึงขั้นความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ก็จะเป็นการดีที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตน้ำชีวจิต
เพิ่มมูลค่าของวัสดุเหลือใช้ และลดปริมาณวัสดุที่ต้องทิ้ง
 |
 |
|
|
|