ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยต้องประสบกับพิบัติภัยที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วมและดินถล่มหลายต่อหลายครั้ง
ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน พืชผลทางการเกษตร สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชน
สาเหตุใหญ่ของความสูญเสียเกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกมากเกินศักยภาพการรับได้ของพื้นที่ลุ่มน้ำอันเนื่องมาจากพื้นที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปใช้ประโยชน์รูปแบบที่ไม่เหมาะสม
และไม่สามารถรับรู้ก่อนได้ล่วงหน้า การป้องกันและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติดังกล่าวนี้ส่วนหนึ่งคือ
การจัดทำระบบคาดการณ์และเตือนภัยล่วงหน้า หรือ Early Warning System
ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System)
ในการเฝ้าระวังและเตือนภัยแบบล่วงหน้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยศูนย์วิจัยป่าไม้
คณะวนศาสตร์ ได้รับมอบหมายจาก กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้
ศึกษาและจัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยมีเป้าหมายในการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำท่วม
ดินถล่ม ในพื้นที่ลาดชันและพื้นที่ราบเชิงเขาโดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในประเทศและให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการพิบัติภัย
ระบบสนับสนุนการเตือนภัยล่วงหน้าหรือ ระบบ Early Warning ที่พัฒนาขึ้นนี้เป็นเทคโนโลยีในประเทศไทยเกือบทั้งหมด
เป็นผลงานการศึกษาวิจัยโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประกอบด้วย ระบบการตรวจวัดข้อมูลปริมาณน้ำฝน
ปริมาณน้ำท่า ความชื้นในดิน อุณหภูมิ ระบบการบันทึกข้อมูลและระบบการส่งข้อมูลจากระยะไกลเพื่อประมวลผลและเตือนภัย
โดยระบบสนับสนุนการเตือนภัยนี้จะสามารถเตือนภัยที่สถานีประจำหมู่บ้านได้เลยเมื่อปริมาณน้ำในหรือปริมาณน้ำท่าถึงจุดวิกฤติ
โดยแสดงสัญญาณเตือนใน 3 ระดับ คือ (1) สัญญาณให้เฝ้าระวัง (2) สัญญาณให้เตือนภัย
(3) สัญญาณให้อพยพ โดยมีการฝึกอบรมให้ประชาชนได้รับรู้รวมไปถึงการซักซ้อม
ทำความเข้าใจในด้านการดูแลรักษา และการอ่านข้อมูลด้วย
ผลการดำเนินงานโครงการได้ศึกษาทบทวนเพื่อกำหนดหมู่บ้านเสี่ยงภัยน้ำท่วมและดินถล่มในระดับสูงและคัดเลือกหมู่บ้านที่เป็นตัวแทนและศูนย์กลางในการเฝ้าระวังและเตือนภัยทั่วประเทศ
เพื่อติดตั้งเครื่องมือ โดยใช้หลักวิชาการและข้อมูลการเกิดน้ำท่วมหรือดินถล่มในอดีตมาประกอบการพิจารณา
พบว่ามีหมู่บ้านเสี่ยงภัยสูงจำนวน 410 หมู่บ้านและดำเนินการติดตั้งเครื่องมือหรือสถานีตรวจวัดข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยรวมไปถึงการจัดฝึกอบรมประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย
ไม่น้อยกว่า 169 สถานี กระจายทั่วประเทศที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยน้ำท่วมและดินถล่มสูง
|
ภาพที่ 1 เครื่องระบบเตือนภัยสถานีลูกข่าย |
ระบบที่พัฒนาขึ้นนั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดข้อมูลปริมาณน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
ปริมาณน้ำท่าในกรณีที่หมู่บ้านอยู่ใกล้ลำน้ำ ความชื้นในดิน และอุณหภูมิ
ทำการบันทึกข้อมูลใน Data Logger และส่งข้อมูลจากระยะไกลไปยังศูนย์ด้วยระบบการสื่อสาร
เช่น ระบบสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบสัญญาณวิทยุ หรือระบบอื่น ๆ
ที่มีผู้ให้บริการ
|
ภาพที่
2 แสดงสถานีตรวจวัดระดับน้ำอัตโนมัติและระบบเตือนภัยสถานีลูกข่าย |
|