งา ( sesame : Sesamum indicum L.)
เป็นพืชอาหารที่ปลูกและบริโภคมานานกว่า 4,000 ปี เมล็ดงามีคุณสมบัติดีหลายประการ
เช่น น้ำมันงามีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงที่สำคัญ 2 ชนิด คือ กรดโอลิอิกและกรดลิโนลิอิก
เมล็ดงาประกอบด้วย น้ำมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรท และธาตุอาหารต่างๆ ได้แก่
แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โซเดียม โปแตสเซียม ซีรีเนียม วิตามินB1 ,
B2 คาโรทีน และไนอาซีน เป็นต้น ทั้งเมล็ดงาและน้ำมันงามีสารต้านอนุมูลอิสระ
คือ สารลิกแนน (lignans antioxidant) สารลิกแนนที่สำคัญได้แก่ เซซามิน
(sesamin) และเซซาโมลิน (sesamolin) จากการศึกษาพบว่า สารลิกแนนในงาช่วยชะลอความแก่
ลดคอเลสเตอรอล ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตดี และช่วยลดปฏิกิริยาทางเคมีที่จะชักนำให้เกิดมะเร็ง
ปัจจุบันงาจัดเป็นอาหารสุขภาพที่ประชาชนนิยมบริโภคมากขึ้นในหลายประเทศ
โครงการปรับปรุงพันธุ์งา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้พัฒนาพันธุ์งาและแนะนำให้เกษตรกรปลูกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี
2535 เป็นต้นมา ได้แก่ งาดำพันธุ์มก.18 งาขาวพันธุ์มก.19 และงาขาวพันธุ์มก.20
พันธุ์งาทั้ง 3 นี้มีการเจริญเติบโตแบบทอดยอดและฝักแตกเมื่อสุกแก่
ซึ่งเหมือนกับพันธุ์งาที่ปลูกเป็นการค้าอยู่ทั่วโลก ลักษณะฝักแตกเมื่อสุกแก่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลผลิตของงาต่อพื้นที่ค่อนข้างต่ำ
ต่อมาในปี
2546 ทางโครงการฯ ได้พัฒนาพันธุ์งาฝักไม่แตก (closed capsule หรือ
non-shattering) และแนะนำให้เกษตรกรปลูก ได้แก่ งาขาวพันธุ์ซีพลัส
1 และงาขาวพันธุ์ซีพลัส 2 โดยที่สายพันธุ์ซีพลัส 2 จะมีขนาดเมล็ดใหญ่กว่าและมีปริมาณเซซามินและเซซาโมลินสูงกว่าพันธุ์ซีพลัส
1 สำหรับงาพันธุ์ฝักไม่แตกนี้ยังไม่พบว่ามีรายงานผลงานวิจัยที่ประเทศใด
จากการตรวจเอกสารงานวิจัยงาและปรับปรุงพันธุ์งา
งาดำพันธุ์
มก. 18 เป็นสายพันธุ์แท้ได้จากการคัดเลือก โดยวิธีจดประวัติจากคู่ผสม
col 34/ นครสวรรค์ ลำต้นไม่แตกกิ่ง ขนาดฝักใหญ่และค่อนข้างยาว ลักษณะฝักเป็นแบบ
2 คาร์เพล มี 1 ฝัก/มุมใบ และฝักเกิดแบบตรงกันข้าม เมล็ดสีดำ งาดำพันธุ์
มก 18 มีคุณสมบัติเด่นเฉพาะ สายพันธุ์ 3 ประการคือ เมล็ดมีกลิ่นหอม
รสชาติดี และสีดำสนิท เมื่อนำไปประกอบอาหารสีดำจะไม่ละลายออกมา
ซึ่งคุณสมบติทั้ง 3 ประการนี้ เป็นที่ต้องการของตลาดที่บริโภคเมล็ดงาดำ
โดยเฉพาะญี่ปุ่น
งาขาวพันธุ์ซีพลัส
1 และ ซีพลัส 2 เป็นงาพันธุ์แท้ได้มาจากการคัดเลือกโดยวิธีจดประวัติจากคู่ผสม
KUds6111/S20 สายพันธุ์ KUds6111 มีลักษณะฝักชะลอการแตกหลังสุกแก่
(delayed shattering) สายพันธุ์ S20 มีลักษณะฝักต้านทานการแตก(shatter
resistance)จากบริษัท Sesaco Corporation
ประวัติพันธุ์ซีพลัส 1 และซีพลัส 2

ลักษณะเด่นของงาขาวฝักไม่แตกทั้ง
2 พันธุ์ คือ ที่ระยะสุกแก่ฝักไม่แตก เมื่อฝักแห้งเมล็ดไม่ติดกับแกนกลางฝัก
(placenta) เขย่าฝักจะได้ยินเสียงเมล็ด เมื่อนำมากะเทาะเมล็ดด้วยเครื่องนวดข้าว
ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และข้าวฟ่าง เมล็ดจะออกจากฝักง่าย เปลือกหุ้มเมล็ดไม่เสียหายจากการนวด
เมล็ดมีสีขาวขนาดใหญ่ รสชาติอร่อย ต้นงาที่สุกแก่ทิ้งไว้ได้นานมากกว่า
6 เดือน ปลายฝักงาจะเริ่มแยกออกจากกัน
|