การปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่สูง |
ประภาส ช่างเหล็ก1 ,วีระศรี เมฆตรง2 , ธนัดดา ศรีผ่อง1
, |
ปัญหาพื้นที่สูงของประเทศ
เป็นปัญหาสำคัญที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจและร่วมมือกันแก้ไขอย่างเอาจริงเอาจัง
โดยเน้นเรื่องการทำการเกษตรโดยใช้หลักอนุรักษ์ดินและน้ำ รวมทั้งเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่ป่าไม้
ต้นน้ำลำธาร เพื่อป้องกันและรักษาพื้นที่ไม่ให้เกิดการชะล้างและการพังทลายของหน้าดิน
ป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยและแผ่นดินถล่ม ซึ่งในระยะหลัง ๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่
และมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในพื้นที่เดียวกัน
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องการทำการเกษตรบนพื้นที่สูง เกษตรกรยังทำไร่เลื่อนลอยและปลูกพืชล้มลุก โดยเฉพาะกะหล่ำปลี ขิง ข้าวไร่ ข้าวโพด และพืชผัก อาจเนื่องมาจาก เป็นพืชอายุสั้น ให้ผลตอบแทนเร็ว มีตลาดรองรับผลผลิต ได้ผลผลิตค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบันบริเวณบ้านทับเบิก อำเภอหล่มเก่า เป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งมีความต้องการบริโภคผักภายในประเทศสูงถึง 3.2 ล้านตันต่อปี มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 12,400 ล้านบาท แต่การผลิตของเกษตรกรยังขาดความเข้าใจในเรื่องการใช้ที่ดินบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ไม่คำนึงถึงเรื่องการอนุรักษ์ดิน - น้ำและการปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ปลูก มุ่งเพียงแต่ผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงที่สุดเท่านั้น มีการจัดการที่ผิดวิธี เช่น ใช้รถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ไถพรวนพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีทั้งแปลงถึง 2 ครั้ง เพื่อให้ดินร่วนซุย เป็นการกำจัดวัชพืช ทำให้การทำงานในแปลงสะดวกและดูแลรักษาแปลงง่าย แต่พื้นที่มีความลาดชันสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นยังพบปัญหาโรคเน่าของขิงซึ่งเกษตรกรไม่สามารถปลูกซ้ำแปลงเดิมได้ สิ่งที่ตามมาคือ เกิดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในเขตอุทยานต่าง ๆ เพื่อขยายและเปลี่ยนพื้นที่ปลูก เนื่องจากพื้นที่ปลูกเดิมเกิดการสะสมเชื้อสาเหตุโรคพืช เกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีผลผลิตต่อพื้นที่ต่ำ แต่ต้องลงทุนสูงขึ้นทั้งในเรื่องปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช นอกจากปัญหาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เกิดการสะสมของสารเคมีในแหล่งต้นน้ำลำธาร ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นต้องรีบแก้ไข โดยให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในหลักของการใช้ที่ดินบนพื้นที่สูงอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยปรับปรุงและรักษาระบบนิเวศของพื้นที่สูง รวมทั้งช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นที่สูงได้อย่างยั่งยืน การใช้พื้นที่บนที่สูงซึ่งมีความลาดชันในการปลูกพืชจำเป็นต้องมีวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าดินเกิดการชะล้างพังทลาย ซึ่งจะมีผลทำให้พื้นที่เกิดการเสื่อมโทรมทั้งทางเคมีและกายภาพ
รวมทั้งถ้าเกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดินสูงมาก จะทำให้พื้นที่เกิดเป็นร่องลึก
เกษตรกรก็อาจไม่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินนั้นเพื่อการเกษตรอีกต่อไป การปลูกพืชแบบผสมผสานในเชิงอนุรักษ์ที่เหมาะสมบนพื้นที่สูงร่วมกับการปรับปรุงบำรุงดิน
เช่น การปลูกพืชตามแนวระดับร่วมกับการปลูกไม้ยืน / ไม้ผลเป็นแนวทางหนึ่งของการทำระบบเกษตรยั่งยืนบนพื้นที่สูง
จะช่วยลดปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ช่วยปรับปรุงระบบนิเวศให้ดีขึ้น
เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญเกษตรกรจะสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
|
1 สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2 ศูนย์วิจัยระบบนิเวศเกษตร สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |