เพชรบูรณ์มีความสำคัญอย่างไร ?
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีพื้นที่สูงเป็นภูเขาหรือเทือกเขาต่าง
ๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีสภาพอากาศหนาวเย็นจัดในช่วงฤดูหนาว เช่น พื้นที่บางส่วนของอำเภอเขาค้อ
และอำเภอหล่มเก่า ซึ่งมีความสูงตั้งแต่ 700 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล
เป็นแหล่งของต้นน้ำลำธาร แต่ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นภูเขาหัวโล้น
ป่าธรรมชาติส่วนใหญ่ถูกทำลาย และ ไม่มีการปลูกขึ้นใหม่ สภาพนิเวศวิทยาเปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งอาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายในอดีต และการทำไร่เลื่อนลอย
พืชที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพืชล้มลุกโดยเฉพาะกะหล่ำปลีและขิง ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลากและการพัดพาดินตะกอน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรในพื้นราบ
ซึ่งจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนดังกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม
2544 ในตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน และตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก นอกจากนั้นยังพบปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างมากบนพื้นที่สูง
เกิดการสะสมในแหล่งต้นน้ำลำธาร
ทำไมจึงต้องเป็นพลับ ?
พลับ เป็นไม้ผลยืนต้นชนิดหนึ่งที่มีราคาสูง
มีอายุยืนยาว ต้องการสภาพอากาศหนาวเย็นระยะหนึ่ง เพื่อให้ตาแตกและเจริญเติบโตต่อไป
ใช้สารเคมีป้องกัน กำจัดศัตรูพืชน้อย เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีบนพื้นที่ที่มีความสูงตั้งแต่
700 เมตรขึ้นไป พลับ จึงเป็นพืชที่มีศักยภาพและเหมาะสมสำหรับปลูกบนพื้นที่สูง
ให้เป็นป่าไม้ผลทดแทนป่าธรรมชาติที่ถูกทำลาย ทำให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงมีรายได้จากพืชยืนต้นทดแทนพืชล้มลุก
ช่วยปรับปรุงและรักษาระบบนิเวศบนพื้นที่สูง
การผลิตพลับในประเทศไทยปัจจุบันปลูกเป็นการค้าอยู่เฉพาะในเขตจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายเท่านั้น
โดยมีมูลนิธิโครงการหลวงเป็นหน่วยงานส่งเสริม พันธุ์ที่ส่งเสริมมากที่สุดคือพันธุ์พี
2 (ผลผลิต 90 เปอร์เซ็นต์) เป็นพลับฝาดที่ต้องนำไปผ่านกรรมวิธีการลดความฝาดก่อนจำหน่าย
อีกประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นพลับหวาน (พันธุ์ฟูยู) และอีก 5 เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะเป็นพลับโรงงาน
ซึ่งจำหน่ายผ่านฝ่ายตลาดมูลนิธิโครงการหลวง และเกษตรกรจำหน่ายเองในท้องตลาด
มูลนิธิโครงการหลวงจะมีมาตรฐานคุณภาพผลผลิตสูงกว่าผลผลิตที่เกษตรกรจำหน่ายเอง
ราคาจำหน่าย ณ ปัจจุบัน พันธุ์ฟูยูราคาประมาณ 100 บาทต่อกิโลกรัม พันธุ์พี
2 ราคาโดยเฉลี่ยต่ำสุด 30 บาท ตามเกรดมาตรฐานที่มูลนิธิโครงการหลวงกำหนดไว้ปริมาณผลผลิตภายในประเทศ
ปัจจุบันยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค
มีการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทุกปี ซึ่งการผลิตพลับจำเป็นต้องปลูกบนพื้นที่สูงที่มีอากาศหนาวเย็นเท่านั้น
และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม เป็นช่วงที่มีผลผลิตของผลไม้เขตร้อนน้อย
จึงเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องของตลาดพลับ
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1. เกษตรกรบนพื้นที่สูงมีรายได้ที่ยั่งยืนทดแทนรายได้จากพืชล้มลุก
2. สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ด้วยวิธีสร้างป่าไม้ผลทดแทนป่าธรรมชาติบนพื้นที่สูงที่ถูกทำลายไป
3. ผลผลิตพลับของประเทศมีปริมาณสูงขึ้น
อาจเป็นแนวทางลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
การดำเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
การทดสอบการปลูกพลับบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์
เริ่มตั้งแต่ปี 2534-2535 ณ สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ แปลงทดลองบ้านทับเบิก ตำบลวังบาล
อำเภอหล่มเก่า พบว่าพลับพันธุ์พี 2 (พันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้าของประเทศไทย)
สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี เริ่มมีผลผลิตตั้งแต่ปี พ.ศ.2538
- 2539 ในปี พ.ศ.2543 และ พ.ศ.2545 ผลผลิตจากต้นที่ปลูกประมาณ 100 ต้น เก็บเกี่ยวได้ประมาณ
400 และ 2,000 กิโลกรัมตามลำดับ ในปี พ.ศ. 2547 พบว่า ตามแหล่งท่องเที่ยวและร้านขายของพื้นเมืองในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์
มีพลับจากจังหวัดเชียงใหม่จำหน่ายเป็นจำนวนมาก
งานส่งเสริม สืบเนื่องจากผลของการทดสอบการปลูกพลับบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์
ปัญหาบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ และความต้องการของผู้บริโภคในภาพรวมของประเทศ
จึงนำมาสู่เรื่อง การส่งเสริมการปลูกพลับไปสู่เกษตรกรในพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์
เพื่อคืนทรัพยากรสู่ชุมชน
กลุ่มเป้าหมายของงานส่งเสริม
1. นักวิชาการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพื้นที่สูง
2. เกษตรกรในเขตอำเภอเขาค้อและอำเภอหล่มเก่า
3. นักเรียนและครูในเขตอำเภอเขาค้อและอำเภอหล่มเก่า
ดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 2547 โดยการจัดฝึกอบรม
เยี่ยมแปลงให้คำปรึกษาแก่เกษตรกร สนับสนุนให้โรงเรียนทำแปลงตัวอย่าง และจัดเสวนาโต๊ะกลม
ซึ่งประสานงานกับสถานีวิจัยเพชรบูรณ์และศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์
ปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ปลูกพลับโดยรวมประมาณ 170 ไร่ (มียอดแจกและจำหน่ายต้นตอเต้าซื่อจำนวน
6,200 ต้น) ในเขตอำเภอเขาค้อ,อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอนครไทย
จังหวัดพิษณุโลก เกษตรกรปลูกทั้งลักษณะที่เป็นพืชเดี่ยวและปลูกแบบผสมผสานกับพืชล้มลุกและไม้ผลชนิดอื่น
เกษตรกรที่ร่วมโครงการมีจิตสำนึกในการพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของพื้นที่ให้ดีขึ้น เห็นความสำคัญของป่าไม้ แต่ต้องควบคู่ไปกับรายได้สำหรับนำมาใช้ในการดำรงชีวิต
และเห็นความสำคัญของ พลับ เพื่อประโยชน์ดังกล่าวข้างต้น
การส่งเสริมครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายพื้นที่ปลูกพลับจากจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายไปสู่พื้นที่สูงของภาคเหนือตอนล่าง
|