ภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง
คณะประมง มีการเรียนการสอนและการวิจัย ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ประมง
ที่มีความหลากหลายและลึกซึ้ง โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มวิชาหลักคือ
1. กลุ่มวิชาการแปรรูปและวิศวกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมง
2. กลุ่มวิชาจุลชีววิทยาและเทคโนโลยีชีวภาพทางผลิตภัณฑ์ประมง
3. กลุ่มวิชาชีวเคมีและเคมีวิเคราะห์ทางผลิตภัณฑ์ประมง
4. กลุ่มวิชาการควบคุมคุณภาพและประกันคุณภาพทางผลิตภัณฑ์ประมง
ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา ภาควิชาฯ ได้ผลิตผลงานวิจัยที่น่าสนใจ มีคุณค่าต่อสังคม
และมีแนวโน้มในการนำไปประยุกต์ใช้ ดังนี้
ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำบรรจุในถุงทนความร้อน (Retort
pouch)
Retort pouch เป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว
ซึ่งผู้ผลิตอาหารในประเทศไทยให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากอาหารที่บรรจุใน
retort pouch จะมีน้ำหนักเบา เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องได้สะดวก เปิดได้ง่าย
สามารถอุ่นรับประทานได้อย่างรวดเร็วโดยจุ่มในน้ำเดือด เวลาสั้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับอาหารบางประเภทที่ต้องการความร้อนในการทำลายจุลินทรีย์ที่ไม่สูงมากเพื่อคงคุณภาพทาง
ลักษณะปรากฏและรสชาติของอาหารไว้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำที่นำมาบรรจุในถุงทนความร้อน
คือ แกงเขียวหวานกุ้ง ต้มยำกุ้ง เป็นต้น
การให้ความร้อนอาหารโดยใช้กระแสไฟฟ้า หรือ การให้ความร้อนด้วยวิธีโอห์มมิก
(ohmic heating)
เป็นเทคนิคการให้ความร้อนโดยตรงแก่อาหาร
โดยผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในอาหารซึ่งมีคุณสมบัตินำไฟฟ้าได้ เกิดการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อนโดยปรากฏการของจูล
ทำให้อาหารร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว และ สม่ำเสมอ และสามารถใช้กับการฆ่าเชื้อแบบต่อเนื่อง
และ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาถึงความปลอดภัยในการรับรองกระบวนการในเชิงการค้า
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้กระบวนการนี้ในผลิตภัณฑ์ประมงได้แก่ การเพิ่มความแข็งแรงของเจลซูริมิ
การฆ่าเชื้ออาหารเหลวที่มีชิ้นอาหารทะเลเป็นองค์ประกอบ การละลายอาหารทะเลแช่แข็งเป็นต้น
แบคเทอริโอซิน: สารยับยั้งจุลินทรีย์จากแบคทีเรียกรดแลคติก
แบคเทอริโอซิน (bacteriocin) เป็นสายเปปไทด์ขนาดเล็กซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียแกรมบวกบางชนิดที่ก่อให้เกิดโรคและทำให้อาหารเสื่อมเสีย
เช่น B. cereus, C. botulinum, L. monocytogenes และ S. aureus แบคเทอริโอซินจัดเป็นสารชีวภาพที่มีความแตกต่างจากยาปฏิชีวนะ
(antibiotic) โดยแบคเทอริโอซินจะทำให้เกิดรูที่บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ส่งผลให้เกิดการเสียสมดุลขององค์ประกอบต่างๆ
ภายในเซลล์แบคทีเรียเป้าหมาย แบคเทอริโอซินถูกสร้างจากแบคทีเรียหลายชนิดแต่ที่ได้รับการศึกษากันมากคือในแบคทีเรียกรดแลคติก
เนื่องจากเป็นแบคทีเรียที่ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมอาหารมานานแล้ว
ในปัจจุบันไนซินเป็นแบคเทอริโอซินที่สร้างจาก Lactococcus lactis ซึ่งได้รับการยอมรับในด้านความปลอดภัยจาก
FDA และ FAO/WHO โดยไนซินถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารชนิดต่างๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เนย อาหารกระป๋อง เนื้อสัตว์ ในมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ในปัจจุบันนักวิจัยของภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมงสามารถคัดแยกแบคทีเรียกรดแลคติกที่สามารถสร้างแบคเทอริโอซินซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียที่มีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารได้จากตัวอย่างปลาร้า
ซึ่งแบคเทอริโอซินดังกล่าวมีแนวโน้มสำหรับการนำไปพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์ในการถนอมอาหารด้วยวิธีการทางชีวภาพ
ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการใช้สารเคมี
รูปที่4.
หลักการให้ความร้อนด้วยวิธีโอห์มมิก
วิถีการสร้างกลิ่นรสในสาหร่าย
กลิ่นรส (Flavor) เป็นปัจจัยหนึ่งในการดึงดูดใจผู้บริโภคในการบริโภคอาหาร
ในรายงานนี้ต้องการเสนอ วิถีการสร้างสารกลิ่นรสในสาหร่ายที่ทำให้เกิดความสดชื่น
(freshness or cucumber flavor) เมื่อรับประทาน ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับสารที่แตงกวาสร้าง
(3(Z)-nonenal ) และกลิ่นเขียว (green flavor หรือ สาร n-hexanal) ซึ่งสามารถรับกลิ่นรสนี้ได้เมื่อดื่มชาเขียว
โดยใช้สาหร่ายสีน้ำตาล (Laminaria angustata) เป็นตัวอย่างในการศึกษา วิถีการสร้างเป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่มีการสร้างเริ่มต้นจากกรดไขมันไม่อิ่มตัว
(กรดลิโนลิอิค และกรดอราชิโดนิก)ในสาหร่าย ผ่านสารตัวกลางซึ่งเป็นสารไฮโดรเปอร์ออกไซด์ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวแล้วแตกตัวเป็นสารที่สร้างกลิ่นรสดังกล่าว
วิถีการสร้างนี้เกิดจากกลไกการทำงานของเอนไซม์หลักสองชนิดคือ
เอนไซม์ไลปอกซิจิเนส (Lipoxygenase) และเอนไซม์ไฮโดรเปอร์ออกไซด์ไลเอส (Hydroperoxide
lyase) สิ่งที่น่าสนใจในการศึกษานี้คือ สารที่ให้กลิ่นรสชนิดเดียวกันแต่สามารถสร้างได้จากวิถีการสร้างแตกต่างกันสองวิถี
ในขณะที่พืชชั้นสูงเช่นในแตงกวาและชาเขียว สามารถสร้างสารชนิดดังกล่าวผ่านวิถีการสร้างที่เฉพาะเจาะจงเพียงวิถีเดียว
รูปที่
5. การยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียทดสอบ รูปที่
6. การยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียทดสอบ
โดยแบคทีเรียกรดแลคติกสายพันธุ์ต่างๆ โดยแบคเทอริโอซินที่พบในอาหารเหลว |