ไหมปั่น...ผ้าไทยยุคใหม่


สุธีลักษณ์ ไกรสุวรรณ
ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


       ไหม เส้นใยโปรตีนจากธรรมชาติ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นเส้นใยที่งดงามที่สุด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งเส้นใย” ไหมเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือ เป็นเส้นใยขนาดเล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 9-11 ไมโครเมตร มีความยาว 1,000-1,500 หลาต่อรัง มีความเหนียว 3-6 กรัม/ดีเนียร์ ดูดความชื้นได้ดี มีความสามารถยืดและคืนตัวได้ปานกลางและมีความเงามันสูง เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมมน

       ผ้าไหมเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ทอจากด้ายไหมสาวที่มีความยาวต่อเนื่องกัน ด้วยลักษณะเฉพาะของเส้นไหมประกอบกับความเป็นใยยาวต่อเนื่องนี้ ทำให้ผ้าทอจากด้ายไหมสาวมีความมันวาว เรียบ ลื่น สวยงาม แต่อย่างไรก็ตามความงดงามของผ้าไหมสาวอันเกิดจากความมันวาวดังกล่าว กลับส่งผลทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้งานสำหรับกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีรูปร่างอ้วน

       นอกจากนี้ผ้าไหมสาวยังมีปัญหาเรื่องการทิ้งตัวของผืนผ้า เนื่องจากมีความโค้งตัวน้อย ทำให้เกิดข้อจำกัดในการออกแบบเสื้อผ้าให้มีความหลากหลายไม่สามารถสนองตอบความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้ ปัญหาอีกประการของการใช้ผ้าไหมสาว คือดูแลรักษายาก ผู้สวมใส่ต้องระมัดระวังเนื่องจากความลื่นของไหมสาวทำให้ผืนผ้าแยกจากกันได้ง่าย ด้วยเหตุนี้แนวคิดในการพัฒนาผ้าไทยที่มีจุดเด่นอยู่แล้ว ในด้านความงดงามที่สร้างสรรค์จากภูมิปัญญาไทย ด้วยลวดลาย สีสันและเทคนิคการทออันเป็นเอกลักษณ์จึงเกิดขึ้นโดยการใช้วัสดุ ไหมปั่น ทดแทน ไหมสาว เพื่อทำให้ผ้าไทยปราศจากข้อจำกัดดังกล่าวข้างต้น
      
       ด้ายไหมปั่น เกิดจากการตีเกลียวใยไหมสั้นให้เกาะกันเป็นเส้นด้าย คุณสมบัติต่างๆของการเป็นไหมยังคงอยู่ แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในลักษณะทางกายภาพ เช่น ความมันวาวลดลง การทิ้งตัวของผ้ามีมากขึ้น ความอ่อนนุ่มมากขึ้นและยังดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ผ้าไทยที่ทอจากด้ายไหมปั่นสามารถนำไปใช้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น

       แนวคิดในการพัฒนาดังกล่าวได้ถูกนำไปทดลองให้กลุ่มผู้ผลิตผ้าไทยจากไหมสาวแต่ดั้งเดิม ทดลองผลิตเป็นผืนผ้าในรูปแบบต่างๆ เช่น ผ้าพื้น ผ้ามัดหมี่ ผ้าหางกระรอกและผ้ายกดอก จากการทดลองดังกล่าวปรากฏว่า ผู้ทอผ้าไทยไม่มีปัญหาในการผลิตแต่อย่างใด อีกทั้งผืนผ้าที่ได้ออกมางดงามคล้ายผ้าที่ทอจากใยฝ้ายผสมไหม คือมีความเงามันมากกว่าผ้าฝ้ายแต่ไม่เงามันเกินไป ในการพัฒนาผ้าไทยจากไหมปั่นยังดำเนินต่อไป โดยการนำผืนผ้าไหมปั่นที่ทดลองผลิตเบื้องต้นมาตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบหลากหลายและใช้งานได้จริง เช่น กระเป๋าและหมอนแบบต่างๆ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ตามความต้องการอย่างแพร่หลายต่อไป