การเสื่อมสภาพของคอนกรีตอาจเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของวัสดุหรือจากการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง
หากได้รับการตรวจสอบหาสาเหตุของความเสียหายและทำการแก้ไขซ่อมแซม ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างนั้น
ๆ ได้ ดังนั้นการพัฒนาวัสดุคุณภาพดีทั้งสำหรับงานซ่อมและงานก่อสร้างใหม่นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะหากใช้วัตถุดิบจากแหล่งในประเทศมาปรับปรุงคุณภาพเพื่อนำมาใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้จะเป็นการลดต้นทุนและเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง
ดินขาว (Metakaolin: MK) ได้จากการนำดินขาวดิบ
(Kaolin) มาปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน เพื่อใช้เป็นสารผสมเพิ่มประเภทแร่ธาตุในงานคอนกรีต
ประเทศไทยมีแหล่งดินขาวหลายแหล่งที่มีคุณภาพดีและมีขนาดใหญ่ เช่น แหล่งดินขาวหาดส้มแป้น
จังหวัดระนอง แหล่งดินขาวนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเซรามิก
แต่การใช้ในงานคอนกรีตยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักแม้ว่าในต่างประเทศจะมีการนำมาใช้งานกันค่อนข้างมาก
ในประเทศไทยได้มีการศึกษาถึงศักยภาพของ MK
จากแหล่งในประเทศในด้านการใช้งานร่วมกับมอร์ต้าร์และคอนกรีต โดยใช้
MK แทนที่ซีเมนต์บางส่วนและพบว่า MK ซื่งใช้วัตถุดิบจากแหล่งดินขาว
จังหวัดระนอง เมื่อใช้ร่วมกับซีเมนต์มีผลช่วยปรับปรุงคุณสมบัติบางประการของมอร์ต้าร์ให้ดีขึ้น
ดังนั้นงานวิจัยนี้เป็นการศึกษาผลของดินขาว MK ต่อการพัฒนากำลังและการซึมผ่านของคลอไรด์ในมอร์ต้าร์และคอนกรีตโดยวิธีเร่งการซึมผ่านด้วยไฟฟ้าโดยเทียบกับระดับการซึมผ่านที่ระบุตามมาตรฐาน
ASTM C 1202 เพื่อศึกษาถึงศักยภาพของการนำมาใช้ในงานซ่อมแซม และงานคอนกรีตกำลังสูง
โดยใช้ดินขาวดิบจากแหล่งดินขาวหาดส้มแป้น จังหวัดระนองปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ
800 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 6 ชั่วโมงบดให้ละเอียด จนมีความละเอียด
9,800 ซม2/กรัมไมครอน มีลักษณะดังแสดงในรูปที่ 1

การใช้
MKร่วมกับซีเมนต์ทำให้เกิดปฏิกิริยาปอซโซลานิก ซึ่งทำให้ CH ที่ได้จากปฏิกิริยาไฮเดรชั่นมีปริมาณลดลง
ในอัตราส่วนที่ศึกษาโดยแปรผันปริมาณแทนที่ซีเมนต์ด้วย MK ที่ 0, 10,
20, 30 และ 40 % และใช้สารลดน้ำร่วมกัน พบว่าเมื่ออายุเกิน 7 วัน มอร์ต้าร์ที่ใช้
MK แทนที่ซีมนต์ทุกส่วนผสมให้ค่ากำลังอัดสูงกว่ามอร์ต้าร์ควบคุม ประมาณ
8 - 20 % โดยกำลังอัดที่เพิ่มขึ้นเป็นผลกระทบจากปฏิกิริยาปอซโซลานทำให้เกิดสารที่มีคุณสมบัติการเชื่อมประสาน
(CSH) เพิ่มมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากอนุภาคขนาดเล็กของMKที่สามารถแทรกช่องว่าง
(Filler Effect) ซึ่งทำให้ช่องว่างมีขนาดเล็กลงและการใช้ MK แทนที่ซีเมนต์มีผลต่อการลดความพรุนต่ำมากสำหรับปริมาณ
MK 10 -30 % จนถึงระดับที่ไม่มีการซึมผ่านของคลอไรด์ได้สำหรับปริมาณ
MK 40 % เมื่อเทียบกับค่าที่แนะนำตาม ASTM C 1202 ในขณะที่ มอร์ต้าควบคุมจัดอยู่ในระดับมีการซึมผ่านของคลอไรด์สูง
สำหรับคอนกรีตผสม MK จากการศึกษานี้เมื่อเปรียบเทียบโดยพิจารณา
W/B และปริมาณการแทนที่ การแทนที่ด้วยปริมาณ MK 20% ให้ผลดีที่สุดในด้านกำลังดังในรูปที่
2 แต่เมื่อพิจารณาในด้านความต้านทานการซึมผ่านของคลอไรด์ MK คอนกรีตทุกปริมาณการแทนที่ให้ค่าอยู่ในช่วงต่ำกว่าถึงต่ำมากซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพของ
MK ในการปรับปรุงโครงสร้างภายในที่ทึบแน่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับคอนกรีตผสมซิลิก้าฟูมและคอนกรีตกำลังสูงซึ่งใช้สารลดน้ำปริมาณสูงตามเกณฑ์ปกติซึ่งจัดอยู่ในระดับปานกลาง
และระดับสูง ดังจะเห็นได้จากภาพถ่ายซึ่งไม่ปรากฏระดับการซึมของคลอไรด์ของ
MK คอนกรีตเมื่อเทียบกับคอนกรีตปกติดังในรูปที่ 3

|