ประเทศไทยอยู่ในเขตภูมิอากาศร้อนชื้น
มีสภาวะเหมาะสมให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อราที่สามารถผลิตสารพิษได้
โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบนำมาประกอบเป็นอาหารสัตว์
เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ปลาป่น เป็นต้น มักมีอะฟลาทอกซินปนเปื้อนมาด้วยเสมอ
(ศรีสิทธิ์, 2525; วิรัช และคณะ, 2525) เมื่อสัตว์ได้รับสารพิษดังกล่าวจากเชื้อราผ่านมาทางอาหารและเข้าสู่ร่างกาย
สารพิษจะทำอันตรายโดยบั่นทอนสุขภาพและผลผลิต และถ้าได้รับในปริมาณสูงมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ดังนั้นการตรวจวิเคราะห์อะฟลาทอกซิน จึงสามารถลดอัตราการสูญเสียเศรษฐกิจ
และเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้ การวิเคราะห์หาอะฟลาทอกซินในอาหารและวัตถุดิบอาหารสัตว์
ได้แก่ วิธีทางเคมี เช่น Thin Layer Chromatography (TLC), High Performance
Liquid Chromatography (HPLC) และ วิธีทางอิมมูโน เช่น Enzyme-Linked
Immunosorbent Assay (ELISA)
วิธี Enzyme-Linked Immunosorbent Assay (ELISA)
ซึ่งเป็นวิธี screening test เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการตรวจสอบอะฟลาทอกซิน
และเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานการวิเคราะห์ของ AOAC ผู้ผลิตอาหารสัตว์นิยมใช้ชุดตรวจสอบอะฟลาทอกซินในวัตถุดิบจากต่างประเทศ
ซึ่งวิธีนี้ใช้ง่ายแต่มีราคาแพง หากลดการนำเข้าชุดทดสอบเหล่านี้และใช้ชุดทดสอบที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในประเทศแทนจะช่วยลดดุลการค้าของไทยได้มากขึ้น
วิธีนี้ยังพัฒนาเพื่อใช้ทดสอบอาหาร เช่น ถั่วลิสง พริก และ ข้าวกล้อง
วิธีการสกัดอะฟลาทอกซิน
นำตัวอย่างจำนวน 20 กรัม เติมสารละลายเมธานอล
70 % ปริมาตร 100 มิลลิลิตร เขย่าด้วยเครื่องเขย่า ความเร็วรอบ 300
รอบต่อนาที เป็นเวลา 30 นาที กรองด้วยกระดาษกรองเบอร์ 4 เก็บส่วนใสและเจือจางด้วยสารละลายบัฟเฟอร์ชนิด
PBS-T อัตราส่วน 1: 10 หลังจากนั้นนำไปวิเคราะห์หาอะฟลาทอกซินด้วยวิธี
KU-AF01
การวิเคราะห์อะฟลาทอกซิน
KU-AF01 เป็นวิธีวิเคราะห์อะฟลาทอกซินแบบว่องไวภายใน
25 นาที ที่อุณหภูมิห้อง โดยใช้โพลีโคล-นอลแอนติบอดีที่ผลิตขึ้นภายในห้องปฏิบัติการตามวิธีการของ
Chu และ Ueno (1977) และ ประวัติและคณะ(2534) โดยวิธี KU-AF01 ใช้แอนติเจนเคลือบ
solid phase เติมแอนติบอดีที่ติดฉลากด้วย Horseradish peroxidase ลงไปในปริมาณจำกัดคงที่และเติมแอนติเจนหรือสิ่งส่งตรวจลงไปพร้อมกัน
ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างแอนติเจนที่เคลือบกับแอนติเจนที่เติมลงไป
แอนติบอดีจะจับกับแอนติเจนบน solid phase ล้างส่วนที่ไม่ได้ทำปฏิกิริยาออก
เมื่อเติมซับสเตรทลงไป การเปลี่ยนแปลงของสีจะเป็นสัดส่วนกลับกับปริมาณของแอนติเจนในสิ่งส่งตรวจหรือแอนติเจนมาตรฐานที่ได้เติมลงไป
วัดค่าการดูดกลืนคลื่นแสงที่ 450 นาโนเมตร

การทดสอบความใช้ได้ของวิธี
KU-AF01
นำตัวอย่างถั่วลิสงวิเคราะห์ความใช้ได้ของวิธีที่อุณหภูมิห้องปฏิบัติการ
(25±2 oC) ได้ค่า r2 = 0.93, 20 กรัม%
recovery เท่ากับ 70 จากขั้นตอนการ spike ปริมาณอะฟลาทอกซินเข้มข้น
10 ppb ในตัวอย่างข้าวกล้องจำนวน จากการทดลองเติมสารมาตรฐานที่ความเข้มข้น
10 , 20 และ 50 ppb ลงในสารละลายที่สกัดจากตัวอย่าง สามารถวัดค่าอะฟลาทอกซินกลับคืนได้
10±1.1, 20±1.2 และ 50±7.2 ppb ตามลำดับ(Table
1) โดยมีค่า limitation of Detection ของวิธีการ KU-AF01 เท่ากับ 4
ppb
|