ปัญหาการผสมติดยากในโค
จัดเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งของการเลี้ยงโคในประเทศไทย ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ปัญหาการผสมติดยากในโคออกเป็น
2 กลุ่มหลัก คือ
- ความผิดพลาดในเรื่องการจัดการฟาร์มของผู้เลี้ยงโค
- ความผิดปกติของอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์ของโคเพศเมีย
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการผสมเทียมจัดเป็นหนึ่งในที่มาของปัญหาผสมติดยากในโคที่เลี้ยงภายใต้สภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
ซึ่งถูกผูกยึดกับการแสดงอาการเป็นสัดของโคและความแม่นยำในการจับสัดของผู้เลี้ยงโค
การแสดงอาการเป็นสัดของโคเป็นผลมาจากอิทธิพลของระดับฮอร์โมน "เอสโตรเจน"
หรือฮอร์โมน "เพศเมีย" ที่ถูกสร้างขึ้นจาก "ฟลอริเคิล"
หรือที่เรียกว่า "ฟองไข่" ที่รังไข่ นอกจากนั้นการแสดงอาการเป็นสัดยังผูกยึดกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในรอบปี
ดังนั้นการแสดงอาการเป็นสัดของโคจึงมีความหลากหลาย

เกณฑ์กำหนดระยะเวลาเหมาะสมในการผสมเทียมโคต้องคำนึงถึงระยะเวลาการเป็นสัดและระยะเวลาตกไข่ที่แตกต่างกันของโคเพศเมียแต่ละตัว
การแสดงอาการเป็นสัดและระยะเวลาการตกไข่เป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้นสอดคล้องตามการเจริญเติบโตและพัฒนาของฟองไข่
ฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นฮอร์โมนหลักในการควบคุมการแสดงอาการเป็นสัด
เมื่อล้วงคลำที่ปีกมดลูก กล้ามเนื้อเรียบของปีกมดลูกแสดงอาการเกร็งตัวตามการเปลี่ยนแปลงของการเป็นสัด
ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือเป็นอิทธิพลร่วมของฮอร์โมนอื่น
การเกร็งตัวของปีกมดลูกในที่นี้จะใช้คำว่าแรงบีบตัวของปีกมดลูก ดังนั้นการใช้แรงบีบรัดตัวของปีกมดลูกจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้กำหนดระยะเวลาเหมาะสมในการผสมเทียมโค
อัตราการผสมติดครั้งแรกในการผสมเทียมที่คะแนนแรงบีดรัดตัวของปีกมดลูกต่าง
ๆ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2542-45 จากจำนวนแม่โครีดนมทั้งหมด 223 ตัว
ที่มีระยะเวลาให้นม 75-105 วันหลังคลอด ในฝูงแม่โครีดนมที่มีระดับพันธุ์ขาว-ดำมากกว่า
93.25 %

การใช้แรงบีบรัดตัวของปีกมดลูกกำหนดระยะเวลาเหมาะในการผสมเทียมโค
จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกับการเลี้ยงโคในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย
และเป็นเครื่องมือสำหรับจัดการฟาร์มที่มีต้นทุนต่ำ แต่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผสมติดได้ดีมาก
พอสรุปได้ดังนี้
การใช้แรงบีบรัดตัวของปีกมดลูกกำหนดระยะเวลาเหมาะสมในการผสมเทียมโค
มีความแม่นยำเพราะเป็นหลักการที่สะท้อนการเจริญเติบโตและพัฒนาของฟองไข่
และการทำงานระบบฮอร์โมนที่ควบคุมการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อระยะเวลาเป็นสัดและระยะเวลาการตกไข่ของโคแต่ละตัวดังนี้
โคที่เป็นสัดปกติให้ผสมเทียมที่แรงบีบรัดตัวของ
ปีกมดลูกที่คะแนน -2
โคที่เป็นสัดยาวกว่าปกติเล็กน้อยให้ผสมเทียมที่แรงบีบรัดตัวของ ปีกมดลูกที่คะแนน
-1.5
โคที่เป็นสัดยาวมากให้ผสมเทียมที่แรงบีบรัดตัวของ ปีกมดลูกที่คะแนน
-1
การใช้แรงบีบรัดของปีกมดลูกเป็นเครื่องมือที่สามารถกำหนดระยะเวลาเหมาะสมในการผสมเทียมโคที่มีคอมดลูกคดได้ด้วย
โคที่มีคอมดลูกคดมักจะมีการตกไข่ที่เร็วกว่าปกติ แรงบีบรัดตัวที่เหมาะสมในการผสมเทียมโคที่มีคอมดลูกคดคือ
คะแนน -3 ถึง -2.5 ซึ่งเป็นระยะเวลาคอมดลูกยังคงมีการเกร็งตัวอยู่
ทำให้การสอดหลอดผสมเทียมได้ไม่ยาก หากปล่อยให้แรงบีบรัดตัวของปีกมดลูกมีคะแนนน้อยกว่า
-2.5 จะทำให้ไม่สามารถสอดหลอดผสมเทียมได้
การให้คะแนนแรงบีบรัดตัวของปีกมดลูกโค


|