ศักยภาพของพื้นที่เลี้ยงหอยบริเวณปากแม่น้ำเวฬุ จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด
Potential of Shellfish Culture Areas at Wain Estuary, Chanthaburi and Trat Provinces
 
จันทรา ศรีสมวงศ์
ภาควิชาการจัดการประมง    คณะประมง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โทร. 0-2561-1947

    การศึกษาศักยภาพของพื้นที่เลี้ยงหอยบริเวณปากแม่น้ำเวฬุ ทำโดยการเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาลักษณะการแพร่กระจาย รูปแบบการเลี้ยงหอย เศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรผู้เลี้ยงหอย ต้นทุนผลตอบแทน และการเก็บตัวอย่างน้ำและดินตะกอน เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหาร ปริมาณสารอินทรีย์รวม และปริมาณซัลไฟด์รวมใน 8 พื้นที่หลักทุกสองเดือนเป็นเวลาหนึ่งปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2545

    ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการเลี้ยงหอยแครงเป็นการเลี้ยงแบบกั้นคอก การเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่เป็นการเลี้ยงแบบแพ เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยมากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างประกอบอาชีพเลี้ยงหอยนางรม รองลงมาประกอบอาชีพเลี้ยงหอยแครง และเลี้ยงหอยแมลงภู่ ตามลำดับ ในด้านการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทน พบว่า ผลตอบแทนจากการเลี้ยงหอยชนิดเดียวกันมีความแตกต่างกันตามขนาดฟาร์ม และแตกต่างกันตามพื้นที่

    ในด้านคุณภาพน้ำและดินตะกอน พบว่า พื้นที่เลี้ยงหอยอย่างหนาแน่น มีปริมาณธาตุอาหารในน้ำและปริมาณสารอินทรีย์รวมในชั้นผิวดินตะกอนมากกว่าในพื้นที่เลี้ยงหอยอย่างเบาบางตลอดทั้งปี เนื่องจากพื้นที่เลี้ยงหอยไม่หนาแน่นมากเป็นการเลี้ยงหอยใกล้ร่องน้ำ มีการหมุนเวียนน้ำดี ทำให้ปริมาณธาตุอาหารและสารอินทรีย์เกิดการหมุนเวียนตลอดเวลา ส่งผลให้ความเข้มข้นของธาตุอาหาร และปริมาณสารอินทรีย์รวมไม่สูงมากนัก ในขณะที่บริเวณพื้นที่ที่มีการเลี้ยงหอยหนาแน่นมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเริ่มไม่เหมาะสมต่อการเลี้ยงหอย ลักษณะดังกล่าวอาจส่งผลทำให้หอยเจริญเติบโตช้าลง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยในพื้นที่เหล่านี้มีผลตอบแทนต่ำกว่าพื้นที่เลี้ยงหอยอื่นๆ ดังนั้น เพื่อให้การเลี้ยงหอยในพื้นที่นี้เป็นไปอย่างยั่งยืน จึงควรให้มีการจัดการการเลี้ยงหอยในแม่น้ำเวฬุให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยการกระจายการเลี้ยงหอยในบริเวณที่หนาแน่นไปยังบริเวณอื่นที่สามารถรองรับการเลี้ยงเพิ่มขึ้นได้