ในการเลี้ยงสัตว์น้ำนั้น
อาหารนับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จในการเลี้ยงสัตว์น้ำ
เนื่องจากเป็นต้นทุนการผลิต 60-70 % ของต้นทุนการผลิตรวม นอกจากนี้ อาหารยังมีผลต่อลักษณะต่าง
ๆ ของปลา เช่น การเจริญเติบโต การใช้ประโยชน์อาหาร คุณภาพซาก (ปริมาณเนื้อ
และไขมัน) ความแข็งแรง ภูมิต้านทานโรค ตลอดจน สมรรถภาพการสืบพันธุ์ และ
คุณภาพลูกปลา ดังนั้น แนวทางหนึ่งในการลดต้นทุนค่าอาหาร คือการนำวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นที่มีผลผลิตในปริมาณมากมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์น้ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสัตว์น้ำ และเพิ่มคุณภาพผลผลิตสัตว์น้ำให้ดีขึ้น
ความเหมาะสมการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในอาหารสัตว์น้ำ
มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบประเภทแป้งซึ่งเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานได้ดี
เนื่องจากเป็นแป้งอ่อน ย่อยงาย ไม่มีสารพิษ เนื่องจากกรดไฮโดรไซยานิคในมันสำปะหลัง
เมื่อถูกความร้อนจากการตากมันเส้นและความร้อนจากขบวนการผลิตอาหาร จะสลายไปจนมีระดับต่ำกว่า
30 พีพีเอ็ม ไม่เป็นอันตรายต่อปลา นอกจากนี้ เชื้อราที่ขึ้นบนมันสำปะหลังไม่มีการสร้างสารพิษจาก
เชื้อรา หรือมี แต่อยู่ในระดับต่ำมากจนไม่เป็นอันตราย มันสำปะหลังมีราคาถูก
จึงสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนปลายข้าวที่มีราคาแพง และทดแทนข้าวโพดซึ่งมักมีปัญหาสารพิษจากเชื้อราได้ดี
มันสำปะหลังที่ใช้ในอาหารสัตว์น้ำนั้น ใช้ได้ทั้งในรูปหัวมันสด มันเส้นบด
และแป้งมันสำปะหลัง
คุณค่าทางอาหารมันสำปะหลัง
ความชื้น |
ไม่เกิน |
13 % |
โปรตีน |
ไม่น้อยกว่า |
2 % |
เยื่อใย |
ไม่เกิน |
4 % |
เถ้าและดินทราย |
ไม่เกิน |
2 % |
แป้ง (NFE) |
ประมาณ |
75-80 % |
|
|
|
มันเส้นที่ใช้ควรบดละเอียดด้วยตระแกรง
2 หุน ( 6 มม.) หรือเล็กกว่า และ การบดมันสำปะหลังจะมีฝุ่นมาก ควรมีระบบเก็บฝุ่น
นอกจากนี้ มันเส้นควรเก็บไว้ที่ความชื้นไม่เกิน 13 % และหากเก็บเป็นชิ้นจะมีมอดกินได้ง่ายมาก
ควรบดละเอียด แล้วเก็บในกระสอบจะเก็บได้นาน ไม่เกิดมอด

ระดับการใช้มันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์น้ำ
ระดับการใช้มันสำปะหลังผันแปรระหว่าง 25-35
% ในสูตรอาหารขึ้นอยู่กับระดับโปรตีนในสูตรอาหารแต่ละระยะ
การผลิตอาหารสัตว์น้ำจากมันสำปะหลัง
มันสดต้มสุก หรือมันเส้นบด ผสมกับวัตถุดิบต่างๆตามสูตรอาหาร
อัดเป็นเม็ดด้วยเครื่องบดเนื้อ หรือ เครื่องอัดเม็ดทางอุตสาหกรรม

|