การสะสมและวิธีการลดไนเตรทในผักกาดหอมที่ปลูกโดยไม่ใช้ดิน
Accumulation and Method for Reducing Nitrate in Hydroponic-grown Lettuces
 
ธรรมศักดิ์ ทองเกตุ1 อัญชนีย์ อุทัยพัฒนาชีพ2 และ วุฒิพงศ์ พิมพ์โครต3
1ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร, 2ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร
3ศูนยวิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน สถาบันวิจัยและพัฒนา กำแพงแสน
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 0-3428-1084

                สลัด เป็นอาหารที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นอาหารประจำวันในบ้าน ภัตตาคาร โรงแรม และสายการบิน ในบรรดาผักที่นำมาใช้ประกอบเป็นสลัดนั้นมีผักกาดหอมเป็นผักสำคัญที่สุดและ ขาดไม่ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ผักกาดหอมถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ผักสลัด” ชนิดของผักกาดหอมที่นิยมนำมาใช้ทำสลัดมักได้แก่พันธุ์ที่มาจากต่างประเทศที่มีรูปทรงของต้น ลักษณะของใบและสีที่สวยงาม รสชาติหวาน กรอบ เป็นที่ต้องการของตลาดในอดีตผักสลัดคุณภาพดีเหล่านี้ต้องมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันมีการนำพันธุ์เข้ามาปลูกในประเทศและนิยมปลูกด้วยวิธีการปลูกโดยไม่ใช้ดิน เพราะให้การเจริญเติบโต ที่รวดเร็ว ได้ผลผลิตสูงสะอาด และสามารถหลีกเลี่ยงการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้ แต่วิธีการปลูกโดยไม่ใช้ดินนี้รากพืชจะแช่อยู่ในน้ำสารละลายธาตุอาหารพืช หรือน้ำปุ๋ยอยู่ตลอดเวลา รากพืชจึงดูดเอาธาตุ อาหารขึ้นไปตลอดเวลา
เช่นกัน หนึ่งในจำนวนธาตุอาหารที่พืชดูดขึ้นไปคือ ไนโตรเจนในรูปของไนเตรท (NO3-) ซึ่งเป็นธาตุที่มีอยู่มากที่สุดในสารละลายเพราะพืชต้องการมาก แต่หากรากพืชดูดขึ้นไปแล้วใช้ไม่ทันหรือ ใช้ไม่หมด เช่นในสภาวะที่อุณหภูมิอากาศร้อนจัดจนทำให้พืชเติบโตได้ไม่ดี ไนเตรทจะมีโอกาสสะสมอยู่ในลำต้นและใบพืชได้ ซึ่งไนเตรทที่สะสมนี้แม้จะไม่มีพิษต่อพืชแต่มีกับมนุษย์ ถ้าบริโภคเข้าไปมากเกินไป หรือได้ รับอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงควรมีการศึกษาถึงปริมาณของการสะสมและวิธีการลดสารไนเตรทในพืชผักกาดหอมที่ปลูกโดยไม่ใช้ดิน ในสภาพอากาศของปรเทศไทย ก่อนการจำหน่าย

           การปลูกผักกาดหอมโดยไม่ใช้ดินในสารละลายธาตุอาหารในสภาวะอากาศร้อนจัด หรือแล้งจัด มีโอกาสที่ทำให้ เกิดการสะสมสารไนเตรทในระดับที่สูงกว่าค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ เพื่อการบริโภคให้ปลอดภัย

            ในการลดสารไนเตรทในผักกาดหอมที่ปลูกเลี้ยงในสารละลายที่มีความเข้มข้นที่ไม่ สูงเกินไปที่ 1.2 mS / cm นั้น สามารถใช้วิธีงดการใช้สารลายและเลี้ยงด้วยน้ำเปล่า 4 วัน ก่อน เก็บเกี่ยว หรือ ใช้วิธีลดความเข้มข้นลง 50 % เป็นเวลา 6 วัน แล้วเลี้ยงในน้ำเปล่าต่ออีก 2 วันจะ สามารถลดปริมาณไนเตรทลงมาในระดับที่ปลอดภัยต่อการบริโภคได้ และทั้งสองวิธีไม่ทำให้ ผลผลิตน้ำหนักสดลดลง