การล้างผักสดอย่างไรให้ปลอดจากเชื้อโรคทางเดินอาหาร
 
วราภา มหากาญจนกุล และ ปรียา วิบูลย์เศรษฐ์
ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 0-2940-6158

          จากการที่ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญด้านโภชนาการและสุขภาพ การบริโภคผักและผลไม้สดจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากปัญหาสารเคมีตกค้างในผักและผลไม้สดแล้ว แต่การปนเปื้อนของเชื้อโรคในผักผลไม้สดยังมิได้เป็นที่ตระหนักกันมากนัก อาจเนื่องจากรายงานการระบาดของโรคทางเดินอาหาร ยังไม่บ่งชี้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอาหารชนิดใด การสำรวจคุณภาพทางจุลินทรีย์ของถั่วงอกที่จำหน่ายในกรุงเทพมหานครพบว่าตัวอย่างทั้งหมด 344 ตัวอย่างพบเชื้อโรคทางเดินอาหาร Salmonella   spp. ปนเปื้อน 30 ตัวอย่าง (Jerngklinchan และ Saitana , 1993) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ก็ได้ยืนยันว่าแม้แต่ผักที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ก็ตรวจพบ Salmonella   spp. ปนเปื้อนเช่นกัน โดยเฉพาะในสะระแหน่ ผักกาดหอม กระหล่ำปลี และใบแมงลัก ( อดิศร และปรีชา , 2538 )

 
 
 

          อาหารไทยบางชนิดนิยมรับประทานควบคู่กับผักสดหรือมีผักสดตกแต่งอาหาร การบริโภคผักสดที่ผ่านการล้างอย่างไม่ถูกสุขลักษณะเชื้อโรคที่หลงเหลือในผักสดก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกายได้ วราภาและคณะ (2000) ได้สำรวจปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมดที่มีในผักสดที่นิยมรับประทานในอาหารไทย พบว่าแม้ผักเหล่านี้ได้ผ่านการล้างแล้วก็ตามจุลินทรีย์ทั้งหมดอยู่ในช่วง 4.1-4.5 โคโลนี/กรัมอาหาร ดังตารางต่อไปนี้

หมายเหตุ


a ล้างด้วยน้ำแต่มิได้ใช้สารฆ่าเชื้อ
b ตรวจโดยใช้วิธี Rinse test ด้วยอาหาร TSA
c จำนวนตัวอย่าง

          หากมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในกลุ่มเชื้อโรคเช่น Pathogenic E. coli , Sal monella sp. , Shigella sp. ฯลฯ
การล้างด้วยน้ำธรรมดาไม่สามารถลดการปนเปื้อนเหล่านี้ได้

จากการทดสอบการใช้สารฆ่าเชื้อชนิดต่อไปนี้

A : โซเดียมคาร์บอเนต 0.1 g/l
B : ลอเร็ล 2 ml/l ท C : Fit 5 %
D : โซเดียมคลอไรท์ 50 ppm ท E : โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 200 ppm
F : โปตัสเซียมเปอร์แมงกาเนต 0.25 %
G : น้ำส้มสายชู 1 %
H : เปอร์ออกซี่อะซิติกแอซิด ( Peroxyacetic acid , POAA 40 ppm )

นำไปทดลองล้างผักกาดหอมที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย Escherichia coli และ Salmonella Typhimurium ในสารละลายที่กล่าวมาเป็นเวลา 15 นาทีล้างซ้ำด้วยน้ำฆ่าเชื้อ และตรวจสอบปริมาณแบคทีเรียที่เหลืออยู่โดยวิธี Rinse test พบว่าสามารถลดแบคทีเรียทั้งสองชนิดดังภาพต่อไปนี้